เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 เวลา 11.30 น. นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
ลงพื้นที่ ณ ตลาดฟู้ดดี้ฟาร์มบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจหญิงสาว อายุ 21 ปี พิการตาบอดเล่นดนตรีเปิดหมวก เพื่อหาเงินจุนเจือครอบครัว
แต่ถูกชายสูงอายุรายหนึ่งต่อว่าเสียงดังรบกวน สร้างความเสียใจให้หญิงสาวดังกล่าว จนต้องยุติการเล่นดนตรี ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ นายนิกร จำนง ประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบาย รมว.พม. ทีม พม.หนึ่งเดียว จังหวัดนนทบุรี และศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. 1300 ร่วมลงพื้นที
นางสาวกัญจนา กล่าวว่า วันนี้มาให้กำลังใจน้อง ถึงแม้จะเป็นคนพิการทางสายตา แต่พยายามหารายได้ ซึ่งกำลังเรียนด้านดนตรีสากล และใช้ความสามารถของตนเองในการทำมาหาเลี้ยงชีพ ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร
ตนจึงมาให้กำลังใจและดูว่าจะสามารถให้ความช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง ในเบื้องต้น ทราบรายละเอียดจากทีมปฏิบัติการหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ศรส. ว่า น้องต้องการอุปกรณ์การเล่นดนตรี และไม้เท้าขาวสำหรับคนพิการทางสายตา ซึ่งตนจะจัดหาให้น้อง
ทั้งนี้ ขอให้กำลังใจคนพิการทุกคน ที่พยายามต่อสู้ให้มีที่ยืน ให้มีโอกาสในการดำรงชีวิตอยู่ได้ในสังคม โดยหน้าที่ของกระทรวง พม. หรือหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงทุกๆ คนในสังคม ต้องเปิดโอกาสให้มีพื้นที่ยืนในสังคมสำหรับคนพิการที่มีความสามารถ เพราะเขาไม่ต้องการเป็นผู้รอรับการสงเคราะห์ แต่ต้องการเป็นผู้ที่จะลุกขึ้นมายืนได้ด้วยตัวของตัวเอง เพียงแต่ต้องการโอกาส
จึงขอให้สังคมมีความชัดเจน เพราะคนพิการยินดีและพร้อมที่จะเป็นผู้ทำรายได้และเสียภาษีให้กับรัฐบาลเหมือนคนปกติทั่วไปเช่นกัน ตนขอให้ให้กำลังใจและสนับสนุนคนพิการทุกคน อย่างการแข่งขันกีฬาที่ผ่านมา นักกีฬาคนพิการของไทยทำชื่อเสียงได้อย่างดีมาก สามารถคว้าเหรียญรางวัลมาได้มากมาย คือศักยภาพของคนพิการที่คนปกติอย่างเราต้องให้กำลังใจกัน
นางสาวกัญจนา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในมุมของตน ขอมองเชิงบวก ต้องขอบคุณผู้ชายสูงวัยคนนั้นที่มาต่อว่าน้อง เพราะถ้าไม่มี น้องคงไม่เป็นข่าว สังคมคงไม่ได้รับรู้เรื่องของน้อง ทำให้ผู้คนเข้ามาให้กำลังใจน้องมากมาย เชื่อว่าน้องจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะไปแสดงที่ไหน จึงต้องขอบคุณที่ทำให้น้องเป็นข่าว
ซึ่งตนได้บอกน้องไปว่า ขอให้ทำความเข้าใจว่าปัญหาอยู่ที่คนคนนั้น ไม่ได้อยู่ที่เรา อย่างไรก็ตาม วันพรุ่งนี้ (20 พ.ย. 66) ทางกระทรวง พม. โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) จะไปเจรจากับผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโครงการ Bangkok Street Performer ศิลปินเปิดหมวกกรุงเทพฯ เพื่อขอพื้นที่ให้กับน้องได้ทำการแสดงดนตรี อีกทั้งจะช่วยดำเนินเรื่องการต่ออายุบัตรประจำตัวผู้แสดงความสามารถให้กับน้อง
นอกจากนี้ ทางมูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ซึ่งตนเป็นประธานมูลนิธิฯ จะให้ความช่วยเหลือ ด้วยการสนับสนุนเงินจำนวน 15,000 บาท เพื่อนำไปจัดซื้ออุปกรณ์การเล่นดนตรี ได้แก่ คีย์บอร์ดไฟฟ้า ลำโพง และไมโครโฟน เพื่อใช้ในการแสดงหารายได้ในพื้นที่สาธารณะ อีกทั้ง กระทรวง พม. โดย กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) จะให้ความช่วยเหลือ ด้วยการพิจารณาเงินทุนประกอบอาชีพคนพิการ และไม้เท้าขาวสำหรับคนพิการทางสายตาด้วย