ผักกาดหอม
เป็นการดิ้นเฮือกสุดท้ายของ สทร.
เห็นภาพ “ทักษิณ” เดินเข้าบ้านพิษณุโลก แวบแรกที่คิดขึ้นได้คือ ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลแพทองธารสิ้นไร้ไม้ตอกจริงๆ
ไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารราชการแผ่นดินเลย
ก็คงจะเป็นเช่นนั้นครับ เพราะเดิมทีคิดจะกินบุญเก่า โกยเงินจากการท่องเที่ยว แต่นักท่องเที่ยวจีนหายไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ที่ผ่านมา
เที่ยวบินขาออกจากจีนฟื้นตัวตั้งแต่เดือนมีนาคม ไปจีน เกาหลีใต้ เวียดนาม
แต่กลับสวนทางกับเที่ยวบินที่มาไทยลดลงฮวบฮาบ
นักท่องเที่ยวจีนมาไทยน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
ที่จริงไม่น่าจะเป็นเช่นนี้ เพราะ “แพทองธาร ชินวัตร” เดินทางไปเยือนจีน ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์
ขนคณะใหญ่ๆ ไป
ประกอบไปด้วย
๑.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
๒.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
๓.นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
๔.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
๕.นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
๖.นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
๗.นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
๘.นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
และ ๙.นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
เกือบครึ่ง ครม.เข้าไปแล้ว
ฉะนั้นมันต้องได้อะไรกลับมาบ้าง
โฆษกรัฐบาลของไทยเอาข่าวมาประโคมว่า “แพทองธาร” ได้เข้าพบหารือทั้ง “สี จิ้นผิง (H.E. Xi Jinping) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน “จ้าว เล่อจี้” (H.E. Mr. Zhao Leji) ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน และ “หลี่ เฉียง” (H.E. Mr. Li Qiang) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อขับเคลื่อนความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกมิติ
ทั้งการค้าการลงทุน เศรษฐกิจ และสังคมของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ปี ๒๕๖๘ เป็นปีทองแห่งมิตรภาพไทย-จีน ครบรอบ ๕๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต
แต่ไม่ได้บอกว่า “สี จิ้นผิง” เตือนเรื่องการเปิดกาสิโนกับ “แพทองธาร” ถึง ๓ ครั้ง
จีนไม่ได้แสดงท่าทีนี้เฉพาะกับไทย
ในอาเซียนที่มีกาสิโนล้วนได้รับการแสดงความห่วงใยจากจีนกันทั่วหน้า
กลัวเป็นคู่แข่งมาเก๊าเช่นนั้นหรือ เพราะจีดีพีมาเก๊าเกือบครึ่งมาจากกาสิโน
ไม่หรอกครับเพราะหลังโปรตุเกสคืนมาเก๊าให้จีนเมื่อกว่ายี่สิบปีที่ผ่านมา กาสิโนถูกบังคับให้ลดบทบาทลง
ธุรกิจกาสิโนถูกขยายขอบเขต จับกลุ่มเป้าหมายใหม่คือความบันเทิงอื่นๆ และแหล่งช็อปปิ้งมากขึ้น รวมถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องอย่าง MICE คือการแสดงสินค้า การประชุมด้วย
เพราะปักกิ่งไม่ต้องการหวังพึ่งพารายได้จากกาสิโนเป็นหลัก
“สีหนุวิลล์” ที่มีสภาพกลายเป็นเมืองร้างขนาดใหญ่ ก็เพราะรัฐบาลจีนกดดันกัมพูชาเรื่องพนันออนไลน์ ทำให้จีนเทาต้องทิ้งซากตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จกลับบ้านเกิด
ฟิลิปปินส์ต้องปิดบริษัทพนันออนไลน์จำนวนมาก เนรเทศแรงงานจีนสีเทาหลายหมื่นคนออกจากประเทศเพราะถูกจีนกดดัน
ทั้งๆ ที่ธุรกิจนี้สร้างรายได้ให้รัฐบาลฟิลิปปินส์จำนวนมหาศาล
ฉะนั้นคำเตือนจาก “สี จิ้นผิง” ไม่ใช่พูดเล่นๆ
แต่ “แพทองธาร” ไม่สนใจ แถมรัฐบาลไทยยังมีแผนออกกฎหมายพนันออนไลน์ถูกกฎหมายด้วย มิใช่ตั้งกาสิโนอย่างเดียว
ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น “แพทองธาร” โบ้ยให้ “อนุทิน” ในฐานะอดีต มท.๑ ที่ดูแลเรื่องความปลอดภัย อ้างว่านักท่องเที่ยวจีนลดลงเพราะไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัย
มันสะท้อนมันสมองของนายกรัฐมนตรีไทยครับ
ไม่หาความรู้พื้นฐานใส่ตัว
ไม่รู้กระทั่งว่านายกรัฐมนตรี มีอำนาจหน้าที่ทำอะไรบ้าง
มหาดไทยดูแลผู้ว่าราชการจังหวัด แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นกับนายกรัฐมนตรีโดยตรง
ฉะนั้นถ้าอ้างเรื่องความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทั้งไทยและต่างชาติ ตำรวจคือหน่วยงานแรกที่ทุกคนนึกถึง
ไม่รู้แล้วอวดฉลาด ผลคือประจานตัวเอง
“ทักษิณ” เข้าบ้านพิษณุโลก นั่งหัวโต๊ะ มีรัฐมนตรีรายล้อม คุยกันเรื่องภาษีทรัมป์
“ทักษิณ” เป็นใคร มีอำนาจหน้าที่ในรัฐบาลหรือไม่
หากการเจรจากับ ทีมของทรัมป์ ทำให้ไทยแย่ลงกว่าเดิม ใครจะรับผิดชอบ
“ทักษิณ” อย่างนั้นหรือ
“ทักษิณ” ก็คงใช้งานนี้เดิมพันอนาคตตัวเอง หากเจรจาสำเร็จ ภาษีที่ต้องจ่ายให้อเมริกา ๓๖% ลดลงไปเท่าเวียดนาม หรือมาเลเซีย ก็คงโม้ยันเหลนบวช
ก็เป็นไปได้หากอเมริกาได้รับเงื่อนไขที่พึงพอใจ
แต่ต้องดูด้วยว่าสิ่งที่ไทยต้องเสียไปมีอะไรบ้าง แล้วคุ้มกันหรือไม่
ซึ่งแน่นอนว่าต้องจับตาเรื่องการสอดไส้ เพราะยี่ห้อ “ทักษิณ” ไม่มีอะไรตรงไปตรงมา
โดยเฉพาะเรื่องภาษี!
อเมริกาไม่ได้มองเศรษฐกิจมิติเดียวครับ แต่มีความเป็นไปได้สูงจะพ่วงเรื่องความมั่นคงเข้ามาด้วย
การเดินทางมาเยือนอาเซียนของ “มาร์โก รูบิโอ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคมที่ผ่านมาคือท่าทีที่ชัดเจน
“รูบิโอ” ยืนยันว่าอเมริกา จะไม่ถอนตัวออกจากภูมิภาคนี้ พร้อมกับโปรยยาหอมว่า เรื่องราวสำคัญของโลกในอีก ๕๐ ปีข้างหน้าจะถูกกำหนดจากที่นี่
โดยเฉพาะด้านความมั่นคง
อเมริกามองว่าการขยายอิทธิพลของจีนในอาเซียนคือภัยคุกคาม จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะต้องสกัดไม่ให้จีนสร้างอิทธิพลไปมากกว่านี้
ฉะนั้นเงื่อนไขต่อรองเรื่องภาษี อาจมีเรื่องความมั่นคงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
แล้วรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพภายใต้การชี้นิ้วของ “ทักษิณ” จะให้อะไรกับอเมริกาบ้าง
อนาคตประเทศไทยกำลังขึ้นกับอดีตนักโทษหนีคุกคดีโกงและผู้ป่วยทิพย์ ที่อาจต้องกลับเข้าคุก
เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร.
