ผักกาดหอม
เสียหายหลายแสนครับ…
พรรคก้าวไกลต้องเผชิญวิบากกรรม ที่ตัวเองสร้างขึ้นในแทบทุกมิติ
กว่าจะหลุดจากหล่มได้ คงต้องใช้เวลานานพอควร
พรรคการเมืองที่ประกาศจะสร้างมาตรฐานในทุกเรื่อง กลับถูกมาตรฐานเล่นงานกลับ กลายเป็นพรรคหลายมาตรฐาน
และไร้มาตรฐาน!
ฉะนั้นการก้าวเดินไปข้างหน้าของก้าวไกล ช่างยากจริงๆ
เพราะแทนที่พรรคก้าวไกลจะแบกความคาดหวังของประชาชน กลับกลายเป็นประชาชนที่ต้องแบกความเพ้อฝันที่พรรคก้าวไกลมอบให้
สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ภาพจำ จากนี้ไปพรรคก้าวไกลจะถูกมองในฐานะพรรคหลายมาตรฐาน
ทั้งมาตรฐานทางการเมือง และมาตรฐานคาวโลกีย์
ถือว่าหนักอึ้งครับ เมื่อ “ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์” ที่พรรคมีมติ คาดโทษ พร้อมเงื่อนไขให้มีการยอมรับผิด ขอโทษสังคม และเยียวยาผู้เสียหาย จากกรณีคุกคามทางเพศ นั้นประกาศว่า ไม่ลาออก ไม่ขอโทษ จะอยู่กับพรรคต่อ
แต่จะขอโทษหากพบว่าผิดจริง
ก็จะอยู่กันแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ช้ำเลือดช้ำหนอง ตรึงพรรคก้าวไกลไว้กับที่ จะขยับไปไหนทีช่างยากลำบาก
จะตรวจสอบรัฐบาลก็น้ำท่วมปาก
จะพูดเรื่องจริยธรรมก็ย้อนเข้าตัว
พรรคที่ตั้งความหวังไว้สูงถึงขั้นจะเปลี่ยนประเทศไทย สุดท้ายแล้วไปได้แค่นี้หรือ
ข่าวคราวการเดินทางไปสหรัฐฯ ของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคตของนิตยสารไทม์ ก็ช่างเงียบเชียบ ไม่อาจกอบกู้ กลบข่าวฉาวคาวโลกีย์ได้เลย
ที่เห็นก็คงเป็นตัวตึงอย่าง “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ที่ยื่นคำขาด หากภายในวันที่ ๔ พฤศจิกายน “ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์” ยังไม่ยอมแถลงยอมรับมติพรรค คือยอมรับว่าตนมีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ขอโทษผู้เสียหายอย่างตรงไปตรงมา ไม่เสนอการเยียวยาผู้เสียหายอย่างเป็นรูปธรรม ย่อมถือว่ามีเจตนาไม่ปฏิบัติตามมติพรรค
“ผมและเพื่อน สส.ทุกคน จะเสนอให้ขับสิ่งมีชีวิตผู้นี้ ออกจากพรรค”
พรรคก้าวไกลเดินมาไกลถึงจุดนี้ได้อย่างไร?
ก่อนจะขับสิ่งมีชีวิตออกจากพรรค มีคำถามให้พรรคก้าวไกลได้ตอบเยอะเหลือเกิน
นอกจากผู้เห็นต่างแล้ว คนเคยรักเขาก็ส่งคำถามมาเช่นกัน
“ลักขณา ปันวิชัย” หรือ “คำ ผกา” หรือ แขก ที่ด้อมส้มยกให้เป็นนางแบกเพื่อไทย ทุบโต๊ะพังไปแถบหนึ่ง ยืนยันว่า …เรื่องที่คนวิจารณ์พรรคก้าวไกลตอนนี้ไม่ใช่เรื่อง SH แล้วนะคะ แต่เป็น
๑.พรรคมีมติแล้วว่าผิดทั้ง ๒ คน แต่คนหนึ่งถูกขับ อีกคนไม่ถูกขับ
๒.เพราะอะไร คนหนึ่งมีเสียงโหวตพอให้ขับ?
๓.เพราะอะไรอีกคนเสียงไม่พอ
๔.เสียงที่หายไปมีเหตุผลอะไร?
๕.พรรค กก.ก็มีปัญหาเรื่องระบบอุปถัมถ์ พรรคพวก ก๊วน อภิสิทธิ์ชนในพรรค ไม่ต่างจากพรรคอื่นใช่หรือไม่?
๖.การนิ่งของ สส.ที่เหลือ รวมทั้ง ชัยธวัช เองคือการจำนนต่อความจริงที่ว่าพรรคไร้ความสามารถในการสร้างความยุติธรรมในพรรคหรือไม่?
๗.เรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ในพรรค แล้วเรื่องใหญ่กว่านี้ เช่นการเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจในสังคมที่แหลมคมจะทำได้จริงหรือ?
ตอบผิดคือ…ตายหมู่เลยทีเดียว
แต่ก็คงไม่มีคำตอบจากพรรคก้าวไกลหรอกครับ เพราะอยู่ระหว่างสับสนว่า ตัวเองเป็นหงส์หรืออีกากันแน่
พรรคก้าวไกลได้สร้างมาตรฐานประหลาดในการขับสส.ออกจากพรรคขึ้น เป็นมาตรฐานที่หาบรรทัดฐานไม่เจอ
เทียบกรณีการขับ “ปดิพัทธ์ สันติภาดา” พ้นพรรค กับการขับ สส.คุกคามทางเพศ ทั้งสำเร็จและไม่สำเร็จ โดยใช้กฎหมาย ข้อบังคับพรรคเดียวกันแล้ว….
ก็ไม่ต่างกับยืนงงในดงตีนนั่นแหละครับ!
ในวันที่ขับ “ปดิพัทธ์ สันติภาดา” มีเสียงไชโยโห่ร้องด้วยความปีติ เป็นชัยชนะของฝ่ายประชาธิปไตย
วันนั้นพรรคก้าวไกลมีมติว่า…
“…ในเมื่อปดิพัทธ์ยังคงยืนยันความประสงค์จะทำงานในฐานะรองประธานสภาต่อ พรรคก้าวไกลจึงจำเป็นต้องให้ปดิพัทธ์ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคของพรรคก้าวไกล ตามบทบัญญัติแห่งข้อบังคับพรรคก้าวไกลและรัฐธรรมนูญ เพื่อให้พรรคก้าวไกลสามารถทำหน้าที่เป็น ‘ฝ่ายค้านโดยสมบูรณ์’ ได้ อันเป็นเงื่อนไขที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานของพรรคหลังจากนี้…”
ไม่ได้ขับเพราะมีความผิด
แต่ขับเพื่อแก้ปัญหาตำแหน่งทางการเมืองของพรรค
ผลออกมาก็เสพสมอารมณ์หมายทั้งคนขับและคนถูกขับ
นั่นคือมาตรฐานที่ไม่เคยมีพรรคการเมืองไหนเคยทำมาก่อน
เพราะการขับ สส.ออกจากพรรค หมายถึงการขับคนเลวให้พ้นพรรค
แต่สำหรับพรรคก้าวไกลได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยเล่ห์กล ไม่ตรงไปตรงมา ความน่าเชื่อถือจึงหายวูบไปทันทีเมื่อต้องขับ สส.ที่มีความผิด และความผิดคุกคามทางเพศ
จึงเกิดคำถามทำนองว่า พรรคก้าวไกลคือของปลอม
ไม่ตรงปก
สำคัญไปกว่านั้น ความรับผิดชอบทางการเมืองของพรรคก้าวไกลไม่มีอะไรโดดเด่น
เมื่อต้องเผชิญกับความจริง ก็พบว่าพรรคก้าวไกลสะกดคำว่าโปร่งใสไม่ออก
มีข้อเรียกร้องให้พรรคก้าวไกลเปิดรายชื่อ สส.ที่โหวตขับและไม่ขับ ๒ สส.ออกจากพรรค
คำตอบที่ได้กลายเป็นเรื่องน่าอนาถ นักการเมืองไม่ว่ารุ่นใหม่รุ่นเก่าก็คือนักการเมือง ไม่กล้าที่จะสู้กับความจริง
สส.รูปหล่อ ขวัญใจแม่ยก “กรุณพล เทียนสุวรรณ” ให้คำตอบที่ฟังแล้วต้องหงายหลัง
“…อย่าเดาเลยครับ มันจะสร้างความเสียหายให้บุคคลอื่นได้ หากบางท่านอ่านเพียงผ่านๆ ตอนโหวต หลายท่านก็ก้มหน้า บางท่านก็หลับตาเพราะต้องการแสดงออกเฉพาะความเห็นของตัวเอง ไม่ก้าวก่ายความเห็นที่แตกต่างของท่านอื่น และไม่ว่าจะออกแบบไหน พวกเราทุกคนในพรรคก็ต้องรับผลนั้นไปด้วยกันครับ…”
แล้วทำไมตอนศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ ตัดสิทธิ “ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์ สั่งแขวน “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” สส.ก้าวไกลหลายคน และด้อมส้ม ถึงได้กระเหี้ยนกระหือรือออกล่าแม่มด
กระพือกันจนลุกเป็นไฟ
แชร์ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ว่อนไปทั้งโซเชียล
ถึงคราวตัวเอง กลับกลัวคนที่ไปสนับสนุนคนผิดจะได้รับความเสียหาย
แบบนี้เขาเรียกว่า ฉาวซ้อนฉาว
