ทักษิณ ‘ริ’ เพื่อไทย ‘ยำ’ #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ไม่ใช่เรื่องบังเอิญครับ

แต่มีการวางแผนมาอย่างแยบยล

นับแต่ “ทักษิณ ชินวัตร” เดินทางกลับไทยจวบจนถึงวันนี้ จากนักโทษชาย จนได้รับใบบริสุทธิ์ แต่ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว ทุกอย่างยังเป็นไปตามแผน

และยังคงวางแผนใหม่ เพื่อ “ทักษิณ” สามารถใช้อำนาจทางการเมือง ผ่านรัฐบาลลูกสาวให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

จากนี้ไปต้องจับตาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตัดแขนตัดขาองค์กรอิสระ โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

รวมถึงคุณสมบัติรัฐมนตรี

และเหวี่ยงแหไปถึงคุณสมบัติคณะกรรมการในองค์กรอิสระไม่ว่าจะเป็น ศาลรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช. คณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน

นักการเมืองโดยการนำของพรรคเพื่อไทย จะตีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ จริยธรรม ให้เองทั้งหมดว่าขอบเขตของเรื่องอยู่ตรงไหน

ที่ศาลรัฐธรรมนูญสร้างบรรทัดฐานไว้แล้วถือว่าลบทิ้งไป

และการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดคุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเสียใหม่

หนึ่งในนั้นที่อาจมีการแก้ไขคือ บทบัญญัติที่ว่า เคยได้รับโทษจำคุก โดยพ้นโทษมาไม่ถึง ๑๐ ปี นับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

คนที่ได้ประโยชน์เป็นใครมิได้นอกจาก “ทักษิณ”

ก็ทำนองเดียวกันกับการแก้ระเบียบกรมราชทัณฑ์ก่อนหน้านี้ ที่เอื้อให้ “ทักษิณ” เต็มๆ

รวมกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ประเด็น คนนอกครอบงำพรรคการเมือง และพรรคการเมืองยินยอมให้ครอบงำ

แม้ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” จะปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวกับ “ทักษิณ” แต่เป็นการปฏิเสธที่ไม่มีชั้นเชิงเลย เพราะประเด็นที่เตรียมจะแก้ไขล้วนเป็นปัญหาที่อยู่รอบตัว “ทักษิณ” ทั้งสิ้น

จับชีพจรการเมือง ผ่านโซเชียล จะเห็นทั้งอารมณ์และทิศทาง

โพสต์ของ “นันทิวัฒน์ สามารถ” อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ

“…ชอบแก้กันนัก

บ้านเมืองน้ำท่วม คนเดือดร้อน

แต่นักการเมืองไม่สนใจ

ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

รอไปก่อน ให้ข้าราชการว่ากันไป

ความเร่งด่วนของรัฐบาลนี้คืออะไร

ท่องเป็นแต่ต้องแก้รัฐธรรมนูญ

ไม่แก้ชาวบ้านก็ไม่เดือดร้อน

จะขอแก้ความซื่อสัตย์และจริยธรรม

รวมทั้งอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ

ทำไมต้องรีบร้อน

คดีความที่มีการยื่นฟ้องคนในรัฐบาล

ประเด็นความซื่อสัตย์อันเป็นที่ประจักษ์

และจริยธรรมของนักการเมือง

มันจ่อเข้ามาหลายคดี ต้องตายเข้าสักคดี

อย่ากระนั้นเลย แก้รัฐธรรมนูญเลยดีกว่า

อย่าลืมนะ นี่คือรัฐธรรมนูญปราบโกง

แก้เรื่องปราบโกง จะให้คนเข้าใจว่ายังไง

รัฐบาลนี้ไม่ให้ความสำคัญกับการปราบโกง

จะเอาคนโกงเข้ามาเป็นรัฐมนตรีหรือไง

หรือมีอะไรไม่ชอบมาพากล เตรียมการอะไร

อย่ากระนั้นเลย เมื่อเปลี่ยนตุลาการไม่ได้

แก้จากผิดให้เป็นถูก เขียนถ้อยคำให้ดิ้นได้

ลดคุณสมบัติอย่างเทพเหลือแค่มาร

คนมีประวัติเคยด่างพร้อยก็เป็นได้

รัฐธรรมนูญปราบโกงก็หมดความขลัง

คำตัดสินของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

ที่ไหนๆ ก็ใช้เสียงข้างมากธรรมดา

ไม่มีการใช้เสียงสองในสาม

บทบัญญัติกฎหมายทุกคนเห็นต่างกันได้

ตุลาการทุกคนก็มาจากการสรรหาในสภา

แต่มีคำถามว่า แก้รัฐธรรมนูญให้ผิดเป็นไม่ผิด

ในขณะที่มีคดีที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง

กำลังจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล

เป็นการกระทำที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์

หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อนมั้ย

มันร้อนรนผิดสังเกต…”

ต่อด้วยโพสต์ของ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” อดีต สส.พัทลุง

“…เบื่อ

เมื่อคืน ผมขึ้นเครื่องมาจากสนามบินตรัง เพื่อร่วมกับน้องๆ คปท.ไปสอบถาม ป.ป.ช.ถึงความคืบหน้ากรณีชั้น ๑๔ รพ.ตำรวจ ของคุณทักษิณ ชินวัตร

วันนี้ เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบไม่มีใครอยู่ ทั้งที่นัดกันไว้ล่วงหน้าเป็นเดือน เขาคงไม่ให้ความสำคัญกับพวกเรา เขาจึงไม่แยแส ได้แต่ให้เจ้าหน้าที่โทรประสานกันไป-มาถึงความคืบหน้า

ได้รับทราบเพียงว่า กำลังสอบประเด็นเรื่องความเสียหาย ว่าที่คุณทักษิณไปอยู่ รพ.ตำรวจนั้น คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐเท่าไหร่ เพราะเจ้าหน้าที่แจ้งว่า คดีตาม ม.๑๕๗ นั้นต้องคำนวณความเสียหายที่รัฐได้รับด้วย

วันนี้ผมได้แต่นั่งฟัง ไม่มีอารมณ์จะซักถามอะไร เมื่อผู้รับผิดชอบไม่อยู่ก็เสียเวลาที่จะไล่เลียง เพียงแต่บอกน้องๆ เจ้าหน้าที่เหมือนทุกครั้งว่า ให้ระลึกถึงปรัชญาหรือหลักในการตั้งองค์กรอิสระ ว่าเขาตั้งองค์กรอิสระขึ้นมาทำไม เพราะเดี๋ยวนี้ น้องๆ ข้าราชการในองค์กรอิสระหลายหน่วยงาน คงลืมกันไปหมดแล้วว่า เขามีองค์กรอิสระไว้ทำไม ไม่เชื่อลองเรียกข้าราชการในองค์กรอิสระมาถามดูสิ คงงงเป็นไก่ตาแตก

เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐไม่รู้หลักที่เป็นแก่นของตัวเอง ก็ยากที่เขาจะปฏิบัติหน้าที่ได้ตรงตามเจตนาของรัฐธรรมนูญ

การต่อสู้กับการกระทำของคุณทักษิณ ชินวัตร ไม่ง่ายเลยครับ ถ้าเราเป็นเพียง ‘ประชาชน’ ไม่สถาปนาตัวเองขึ้นเป็น ‘พลเมือง’ ก็ยากที่เราจะตรวจสอบ ยากที่เราจะสร้างบ้านเมืองให้เป็นประชาธิปไตยที่ดีได้

เมื่อนายกรัฐมนตรีเป็นลูกสาวคุณทักษิณ ได้รับดีเอ็นเอ (DNA) ของคุณทักษิณมาเต็มร้อย การตรวจสอบคุณทักษิณก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก ยิ่งเราผู้ตรวจสอบไม่มีตำแหน่งแห่งหนอะไร ก็ยิ่งทำยากขึ้นไปอีก

ผมจะไม่ติดตามคดีของคุณทักษิณ ชินวัตร ที่ ป.ป.ช.อีกต่อไปแล้ว เพราะทำมาเยอะมีค่าใช้จ่ายเยอะแล้ว ใช้เวลาส่วนตัวไปเยอะแล้ว ไม่รู้จะทำไปทำไม บ้านเมืองนี้ไม่ใช่ของเราเพียงคนเดียว บ้านเมืองนี้เป็นของคุณที่กำลังอ่านอยู่ด้วย

ผมยังร่วมกิจกรรมกับน้องๆ คปท. แต่จะให้ไปติดตามการทำงานของ ป.ป.ช. ผมคงต้องยุติแล้ว เบื่อ!! บอกตรงๆ ว่า ผมอาย ป.ป.ช. อายที่จะไปติดตามแล้ว ไม่รู้จะทำไปทำไม…”

ครับ…ขาหนึ่งแก้ให้ “ทักษิณ” ถูกกฎหมายมากขึ้น

อีกขา ไม่เร่งรีบในคดีของ “ทักษิณ”

ประเทศไทยมาถึงจุดนี้ได้ไง

Written By
More from pp
“สุวัจน์” ประธานเปิดการแข่งขันวงโยธวาทิตระดับชาติ ครั้งที่ 3 แนะให้เยาวชน มีกีฬาและดนตรีสร้างการทำงานเป็นทีมเวิร์คในการทำงานร่วมกันให้กับประเทศ
15 ตุลาคม 2565 เวลา 9.30 น.นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานในพิธีการประกวดวงโยธวาทิตนั่งบรรเลง ระดับชาติ ครั้งที่...
Read More
0 replies on “ทักษิณ ‘ริ’ เพื่อไทย ‘ยำ’ #ผักกาดหอม”