ผักกาดหอม
เกิดเป็นคนไทย ช่างน่าอิจฉาจริงๆ
อีกไม่กี่วันก็ได้เงินหมื่นมาใช้แล้ว
ก็ตื่นเต้นดีครับ ระหว่างนั่งรอลุ้น เมื่อไหร่เป๋าจะตุง
แต่รัฐบาลนี่สิครับ ยังง่วนอยู่กับวิธีการแจก ยึกยักจับแพะชนแกะกันอยู่
ถ้าพูดเรื่องเอาเงินมาจากไหนด้วยแล้ว ยิ่งปวดกบาลแทน
ยังไม่รู้จริงๆ
ไหนจะคำถามนโยบายแจกเงินดิจิทัลกระตุ้นเศรษฐกิจจริงหรือเปล่า
รัฐบาลบอกว่า นี่ไม่ใช่มาตรการพยุงค่าครองชีพ แต่เพื่อไทยจะทำยิ่งใหญ่กว่านั้น จะปั้น จีดีพี ให้ทะลุ ๕ เปอร์เซ็นต์ให้ได้
หากลองทวนความคำพูดของคนในรัฐบาลตั้งแต่ต้นยังวันนี้ จะพบว่าไม่อยู่กับร่องกับรอยเยอะเหลือเกิน
จำได้มั้ยครับ แรกๆพูดกันถึงขั้นว่าจะสร้างเหรียญเพื่อไทยขึ้นมา
วันนี้ตีวงแคบลงมาหน่อย ดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ใช่คริปโตเคอเรนซี ไม่ใช่เงินสกุลใหม่ แต่เป็นเหรียญ (คูปอง) หรือสิทธิ์การใช้เงิน ที่ใช้ใน Blockchain โดยมีเงื่อนไขในการใช้งาน
ใช้บริการผ่าน แอปพลิเคชัน ที่กำลังพัฒนา ข่าวแว่วว่าทั้งงระบบต้องใช้งบประมาณสูงถึง ๑๒,๐๐๐ ล้านบาท แต่ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รัฐมตรีช่วยคลัง ปฏิเสธลั่นไม่แพงขนาดนั้น
แต่ก็ไม่มีใครบอกได้ว่ามูลค่าเท่าไหร่
พับผ่าสิครับ…นโยบายบ้านี้ มันดำมืดไปเสียทุกเรื่องจริงๆ
ถามนายกฯเศรษฐี-เศรษฐา หน่อยเถอะครับ ในแง่การลงทุนทำธุรกิจด้วยเม็ดเงินสูง ๕.๖ แสนล้าน โดยไม่มีอะไรอยู่ในมือเลย มันทำได้จริงครับ
อย่าง แสนสิริ เคยลงทุนโดยไม่มีข้อมูลอะไรเลยหรือเปล่า
เคยหรือเปล่า ลงทุนไป หาข้อมูลไป
ประชุมผู้ถือหุ้น เขาไม่ถามกันเลยหรือ ว่ากำไรอยู่ตรงไหน ได้มาอย่างไร
นี่เรื่องของประเทศ มีอนาคตของประชาชนเป็นเดิมพัน เพื่อไทย คิดใหญ่ ทําเป็น จริงหรือเปล่า
วิชาเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นหากจะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประสบความสำเร็จรัฐบาลต้องทำอย่างไร
วันก่อน นายกฯน้อย “หมอมิ้ง-พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช” บอกว่า ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี ส่วนหนึ่งก็ต้องไปหาทางเกลี่ยงบประมาณบางโครงการที่ไม่จำเป็น
เช่น การจัดซื้อจัดจ้างขนาดใหญ่หากยังไม่จำเป็นก็ต้องเลื่อนออกไป ซึ่งขณะนี้รัฐบาลสามารถทำได้บางส่วน โดยเลื่อนการจัดซื้อโครงการขนาดใหญ่ และจัดงบค่าบำรุงรักษาให้แทน
สงสัยเรื้อการเป็นรัฐบาลไปนาน เลยจับม้าชนลาเยอะไปหน่อย
ถ้ารัฐบาลมั่นใจแน่แล้วว่าต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ เม็ดเงินในงบประมาณประจำปีมันไม่พอที่จะทำให้จีดีพีพุ่งหรอกครับ
โยกโน่นตัดนี่ ไปเพิ่มตรงนี้ เม็ดเงินมันก็เท่าเดิม
มันต้องอัดเม็ดเงินใหม่เข้าระบบ
ต้องสร้างเงินใหม่ คือกู้
กู้มาแล้ว แจกแล้ว เงินจะหมุนกี่รอบ จะบริหารจัดการให้เงินหนุมเวียนในระบบติ้วๆ เป็นลูกข่างได้อย่างไร ก็เป็นอีกประเด็น
จนถึงวันนี้แล้ว ยังมองไม่เห็นทางว่าโครงการนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจสำเร็จได้อย่างไร
รัฐบาลบอกว่าจะรักษาวินัยทางการคลัง และไม่ขายสมบัติของชาติ ไม่แตะทุนสำรอง ไม่ยุ่งกับทองหลวงตาบัว
แล้วเอาเงิน ๕.๖ แสนล้าน ที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้มาจากไหน
กลายเป็นว่าคนถามเป็นพวกแผ่นเสียงตกร่องเสียเอง
ก็ไม่ใช่เรื่องนี่เรื่องเดียวหรอกครับ แม้กระทั่งเรื่องของ นักโทษชายทักษิณ ถามไปเถอะครับ ไม่มีคำตอบ
เข้าทำนองถามไม่ตรงคำตอบเช่นเคย
ห้องวีไอพีชั้น ๑๔ จะอยู่อีกนานแค่ไหน
“นช.ทักษิณ” กลับไทยตั้งแต่วันที่ ๒๒ สิงหาคม เดิมยิ้มกริ่มเข้ากล้องหน้าตาสดใส แทนที่จะไปคุก กลับเข้าโรงพยาบาลตำรวจแบบปัจจุบันทันด่วน
นี่จะครบ ๒ เดือนแล้ว
ป่วย นอนติดเตียง ๒ เดือน ถือว่าอาการหนักมากนะครับ
เป็นตายเท่ากัน
ปกติผู้ป่วยไม่หนักหมอไล่กลับบ้านแล้ว เพราะเตียงผู้ป่วยเป็นของหายากต้องเวียนไปเรื่อยๆ มีผู้ป่วยเข้ามาตลอด
แต่ “นช.ทักษิณ” ผูกขาดห้องวีไอพีชั้น ๑๔ มาร่วม ๒ เดือนแล้ว
มีคนบอกว่า “เปรมชัย กรรณสูตร” เป็นฮีโร่ในสถานการณ์ที่ “นช.ทักษิณ” สร้างความเคลือบแคลงให้กับกรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจ ยันกระทรวงยุติธรรม
ไม่ใช่ฮีไร่อะไรหรอกครับ แค่ “เปรมชัย” มีความเป็นลูกผู้ชายมากกว่า “นช.ทักษิณ” หลายเท่าตัว
ภาพที่เราเห็นสำหรับ “เปรมชัย” คือเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
หลายครั้งที่เราเห็น “เปรมชัย” เดินคอตกลงจากศาล
ถึงเวลานัด “เปรมชัย” ไม่หนี เดินโขยกเขยกขึ้นศาล
เมื่อถูกตัดสินว่าต้องนอนคุก “เปรมชัย” ก็ยอมรับชะตากรรมเดินเข้าคุก
กรณี “เปรมชัย” ช่วยยืดอายุเสือดำทั่วประเทศไทย อย่างน้อยก็ระยะเวลาหนึ่ง
วันนี้ “เปรมชัย” ได้รับการปล่อยตัวแล้ว
เป็นการปล่อยตัวลดวันต้องโทษจำคุกเพื่อคุมความประพฤติ
เหตุผลของกรมราชทัณฑ์รับฟังได้ เพราะ “เปรมชัย” มีปัญหาด้านสุขภาพ ตรงบริเวณข้อเท้าที่เคยถูกคว้านเนื้อที่ตายจากอาการเบาหวานลงขา
เพราะป่วยเป็นโรคเบาหวานที่ควบคุมได้ยาก จึงไม่ให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM) เพราะจะมีการเสียดสีจนเกิดบาดแผลที่รุนแรงขึ้นอีก
เมื่อปล่อยตัวคุมประพฤติ “เปรมชัย” จะต้องรายงานตัวและอยู่ภายใต้เงื่อนไขคุมความประพฤติจนกว่าจะครบกำหนดโทษจริงต่อไป
แบบนี้เข้าใจได้ครับ
“เปรมชัย” รับโทษมาตั้งแต่วันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๔ จากโทษจำคุก ๒ ปี ๑๔ เดือน
แต่ “เปรมชัย” ต้องรับโทษทางสังคมหนักหนาสาหัสกว่ากันเยอะ
หันไปมอง “นช.ทักษิณ” วันก่อนเห็นนอนเตียงผู้ป่วยเข็นไปทำซีทีสแกน ผมดำขลับเรียบแปล้ ราวกับเพิ่งจะย้อมมา
สิ่งที่สังคมจับตามองคือ อีกไม่กี่วันนี้ “นช.ทักษิณ” จะได้ลดโทษ จนไม่มีโทษเหลือให้ลงโทษหรือไม่ เพราะมันมีแนวโน้มที่จะเป็นเช่นนั้น
“นช.ทักษิณ” ต้องโทษติดคุกคดีคอร์รัปชัน
เพราะนักการเมืองคอร์รัปชันนี่แหละครับ มันทำให้ประเทศไทยเดินไปไม่ถึงไหน แต่ดูเหมือนว่า “นช.ทักษิณ” ถูกลงโทษทางสังคมน้อยกว่าที่คิดไปมาก
น้อยกว่า “เปรมชัย” ที่ติดคุกอย่างโปร่งใสเสียอีก
ครับ…กรณี “นช.ทักษิณ” เราคงต้องอยู่กับความดำมืดในยุคที่ประเทศบริหารโดยระบอบทักษิณกันต่อไป