สันต์ สะตอแมน
คงไม่ได้ไป (ฟัง) หรอกนะ!
ผมหมายถึง การนัดแถลงข่าวของคุณสุกัญญา มิเกล อดีตนักร้องดัง เพื่อขอโทษ (อดีต) ทูตนริศโรจน์ เฟื่องระบิล..
ที่ได้แจ้งความฟ้อง “หมิ่นประมาท” จากการแชร์โพสต์ข่าวของสำนักข่าว Bright TV นั่นแหละ!
นัยว่า ได้มีการตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้องจัดทำการขอโทษทางสื่อสาธารณะ จึงได้เชิญสื่อมวลชนไปเป็นสื่อกลาง เพื่อให้สังคมได้ทราบต้นสายปลายเหตุอย่างพร้อมเพรียง
ในวันจันทร์ที่ 18 เมษานี้ เวลา 15.00 น. ที่ ร้าน Area-11 ถ. พหลโยธิน บางเขน
ก็..คอยดู-คอยอ่านเอาจะสะดวกกว่า เพราะการขอโทษ-ขอขมาไม่น่าจะมีอะไรสลับซับซ้อน-พิเศษ เคยเห็นมาแล้วกับภาพตอนอดีตนักร้องดังอีกคน..
คือนายฮาร์ท-สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล ที่ได้หอบกระเช้าดอกไม้เข้าไปขอโทษทูตนริศโรจน์ หลังจากที่ (อ้าง) คึกคะนอง แสดงความคิดเห็นในโพสต์ของ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ด้วยข้อความ..
“ทูตแบบนี้ศัพท์ไม่เป็นทางการเรียก ทูตติ่ม (ทิ่มตูด) สำหรับคนผวนไม่เป็น”
แล้วทูตนริศโรจน์ก็โพสต์ข้อความว่า.. “ขอชี้แจงกรณีที่คุณฮาร์ทเข้าพบขอโทษผมอย่างเป็นทางการนั้น ผมถือคติอันนึงคือ
ต้องการบอกผู้คนในสังคมทั่วไปว่า เราคนไทยต้องอยู่ร่วมกันได้ถึงแม้จะเห็นต่าง เราก็ compromise กันได้
แต่อย่างไรก็ตาม เสรีภาพต้องมีขอบเขต ต้องมีมารยาท ต้องไม่ระรานกัน เพราะแก่นที่สำคัญที่สุดอันนึงของความเป็นประชาธิปไตยคือ “มารยาท” ในการเคารพความต่างของคนอื่นแบบสุภาพและมีเหตุผล
การที่ผมให้อภัยคุณฮาร์ท ก็เป็นอีกรูปแบบนึงที่จะสื่อไปถึงคนทั้งสองขั้วว่า ณ จุดนึงเราคนไทย เราต้องคุยกันได้แบบ “อารยชน” เราไม่จำเป็นต้องห้ำหั่นฆ่าฟันกันจนถึงตาย
เราไม่จำเป็นต้องหยาบคายใส่กัน คนไทยทุกคนมีศักดิ์ศรีในความเป็นคนเท่าเทียมกัน เมื่อทำผิดแล้วรู้สำนึกว่าผิด ผมก็ให้อภัยได้ จึงเรียนมาเพื่อทราบครับ”
ซึ่งจะด้วยเป็นคนใจเย็น-ใจดีของทูตนริศโรจน์นี้กระมัง คุณสุกัญญาจึงเลย “ไม่คิดอะไร แค่คึกคะนอง” ตามนายฮาร์ทมาอีกคน ก็ขอให้เป็น “อดีตนักร้องดัง” คนสุดท้ายเถอะนะ
เพราะถ้าจะปากดี ปากเก่ง หรือคึกคะนองหาญกล้ากันแล้ว ก็อย่ายอม “ก้มหัว” ขอโทษเป็นอันขาด..นักข่าวเบื่อคำเชิญให้ไปฟังคำแก้ตัว (ว่ะ)!
เอ้า.. “แล้วนั่นเป็นอะไรของนาย? ผมถามนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. พรรคก้าวไกล กับเรื่องที่ขีดฆ่าชื่อเต็มกรุงเทพมหานคร น่ะ!
เป็นอะไรมากรึเปล่า ต้องถึงขั้นไปพบหมอ-พบจิตแพทย์ไหม? เพราะคนปกติ เห็นจะไม่มีใครที่ปวารณาตัวลงสมัครผู้ว่าฯ เพื่อจะได้ขีดฆ่าชื่อเต็มจังหวัด เอาตามตัวเองคิดหรอก!
ชื่อกรุงเทพฯ น่ะ มีที่มาที่ไปดังที่ “ท่านใหม่” ม.จ.จุลเจิม ยุคล ได้กรุณาอรรถาธิบาย ซึ่งคนรุ่นลูก-รุ่นหลานที่ได้อ่าน-ได้ดู ก็พลอยได้รู้-ได้เข้าใจ และภาคภูมิใจ
และที่ท่านใหม่ถาม.. “ตกลงการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่ากทม ของนายวิโรจน์และพรรคก้าวไกล มีแต่ความต้องการทำลายล้างกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย และสถาบันพระมหากษัตริย์ใช่หรือไม่”
หากไม่ใช่ นายวิโรจน์ก็ไม่เห็นจะต้องหัวร้อนย้อน.. “จุลเจิม ยุคล คุณเป็นอะไรของคุณ”? แบบไม่มีสัมมาคาราวะผู้หลักผู้ใหญ่-ผู้อาวุโสเช่นนี้
หรือว่านี่ เป็นการแสดงให้เห็นถึง..
“คนทุกคนเท่าเทียมกัน”..หือ?
