สันต์ สะตอแมน
ศิลปินแห่งชาติ 2565..ประกาศแล้ว
ก็..ขอแสดงความยินดีกับทั้ง 12 ท่านที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ ปีนี้ในสาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง) ถึงคิว “คุณธงไชย แมคอินไตย์”
ส่วนที่ต้องขอแสดงความเสียใจอีกปีก็คุณธานินทร์ อินทรเทพ นักร้องแห่งชาติ และเห็นจะบอกเสียตรงนี้ว่า..
ปีหน้าจะไม่ยินดี-ยินร้ายอะไรอีกแล้ว คุณธานินทร์จะได้-ไม่ได้เป็น “ศิลปินแห่งชาติ” ก็จะวางเฉยปล่อยเลยตามเลย
เพราะมั่นใจ..คณะกรรมการคัดเลือกที่ล้วนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิมากด้วยคุณธรรม-ยุติธรรม ได้มองเห็นเป็นเอกฉันท์แล้วว่า..
นักร้องเพลงไทยลูกกรุง รางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน รางวัลเสาอากาศทอง ที่บันทึกเสียงเพลงมานับพันนับหมื่นเพลง และเป็นที่ชื่นชอบของแฟนเพลงมายาวนาน
มีผลงานออกสู่หูคนฟังต่อเนื่อง อย่างคุณธานินทร์ อินทรเทพนั้น..ยังไม่ถึงขั้นที่จะยกย่องให้เป็น “ศิลปินแห่งชาติ” เชิดชูเกียรติ!
หรือไม่ อาจจะขาด “คุณสมบัติ” ข้อใด-ข้อหนึ่ง ด้วยคุณธานินทร์ก็เป็นแค่นักร้องธรรมดาๆ ที่จะให้ดีพร้อมสรรพแบบขาวสะอาดหมดจดเห็นจะยาก
พูดตามจริง คุณธานินทร์ยังคงมีกิเลส..สูบบุหรี่ ดื่มไวน์ (บางโอกาส) เข้าสนามม้าเป็นอาจิณ ด้วยเพราะรัก-หลงใหลในกีฬาประเภทนี้มายาวนาน!
ประกอบคุณธานินทร์เป็นคนรักสัตว์ โดยเฉพาะม้ากับหมา และถ้านี่คือ “ข้อห้าม” ของการเป็นศิลปินแห่งชาติก็สมเหตุ-สมผลแล้ว..
ที่คณะกรรมการคัดเลือกจะพร้อมใจกันไม่ยกย่องเชิดชู!
ครับ..มาอ่านนี่กันดีกว่า.. “….จะเพียรพยายามมุ่งมั่นทำงานพร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นของทุกกลุ่มทุกฝ่าย ทุกสาขาอาชีพ ทุกช่วงวัย ในการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศในทุกด้าน
ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม การต่างประเทศ กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ สร้างความเข้มแข็ง
ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่เป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ด้วยการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐอย่างโปร่งใส
มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามพระราชบัญญัติการเงินการคลังและเอกชนมีส่วนร่วม ตลอดจนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้สอดคล้องกับปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ
เปิดโอกาสให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงโลกยุคดิจิทัลและเทคโนโลยี
สร้างสรรค์สังคมให้มีความรักความสามัคคีปรองดอง สมานฉันท์ เกื้อกูลกันในทุกโอกาส เพื่อความกินดี อยู่ดี และความมั่นคงปลอดภัยของประชาชน
พร้อมจะปกป้องรักษาไว้ ซึ่งเกียรติภูมิแห่งสถาบันชาติ ศาสนา ตลอดจนจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของประชาชนชาวไทย..”
นี่..คือถ้อยคำจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่กล่าวภายหลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29
อ่านจบ ก็อยากให้ลองเทียบกับคำพูดของคุณเศรษฐา ทวีสิน ที่กล่าวภายหลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ดู
ผมน่ะ เทียบแล้วก็เห็นว่ามีความคล้ายคลึงกัน หรือจะพูดว่า “เหมือนกัน” ในประเด็นสำคัญเลยก็ว่าได้
เมื่อคล้ายหรือเหมือนเช่นนี้แล้ว ผมเลยให้รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้ตื่นเต้น หรือมีความหวังอะไรกับคำพูดของคุณเศรษฐา เพราะ 8-9 ปีที่ผ่านมา นายกฯ ลุงตู่ก็ได้เพียรพยายาม..
สำเร็จบ้าง-ล้มเหลวบ้าง และบางผลงานก็อยู่ระหว่างรอออกดอกออกผล!
และแน่ละ.. 4. ปีจากนี้ สิ่งที่นายกฯลุงตู่ทำไว้..
จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง..ให้ผู้อื่นเคลม?