แอร์เสียครับ – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

เก่ากำลังไป ใหม่กำลังมา

ใครที่ยังสงสัยว่า “ลุงตู่” จะไปเมื่อไหร่

แล้ว “เศรษฐา ทวีสิน” จะมีอำนาจเต็มในการบริหารประเทศเมื่อไหร่

๒ ดอกเตอร์กฎหมายเฉลยให้รับทราบกันตามนี้ครับ…

“ธงทอง จันทรางศุ” แจกแจงไทม์ไลน์ ครบถ้วน

๑.มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยมีประธานรัฐสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ แต่นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะยังไม่เข้าปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินเพราะยังไม่มีคณะรัฐมนตรีและยังไม่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณ

๒.ดังนั้นในระยะนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนเดิม จึงยังคงปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีอยู่ต่อไป พร้อมกับคณะรัฐมนตรีชุดรักษาการชุดเดิม

๓.เมื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ คือคุณเศรษฐา ทวีสิน คัดสรรบุคคลผู้สมควรดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเสร็จเรียบร้อย จะนำความขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งรัฐมนตรี โดยคุณเศรษฐาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ

๔.นายกรัฐมนตรีใหม่พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีใหม่ทั้งคณะเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

๕.ตั้งแต่เวลาที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่และคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณเสร็จเรียบร้อย คณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะเข้าบริหารราชการแผ่นดิน คณะรัฐมนตรีชุดเก่าเป็นอันสิ้นสุดหน้าที่

ฉะนั้น “ลุงตู่” ยังอยู่ต่ออีกสักพักใหญ่

แต่ถ้าอยากจะรู้ช่วงเวลาแบบแน่นอน “ดร.วิษณุ เครืองาม” มีคำตอบครับ….

วานนี้ (๒๓ สิงหาคม) มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกรัฐมนตรี

ขั้นตอนต่อไปคือต้องตั้งคณะรัฐมนตรี คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ ๑ สัปดาห์

จากนั้นสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีต้องใช้เวลาตรวจสอบประวัติคณะรัฐมนตรีอีกประมาณ ๑ สัปดาห์

เข้าสู่ขั้นตอนการทูลเกล้าฯ ถวาย และการถวายสัตย์ปฏิญาณตน อีก ๑ สัปดาห์

รวมเป็น ๓ สัปดาห์

ระหว่างนี้ รัฐบาลลุงตู่ ยังอยู่รักษาการต่อเป็นช่วงสุดท้ายครับ

ก็ราวๆ กลางเดือนกันยายน

จากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอนสำคัญคือการ แถลงนโยบาย

การแถลงนโยบาย ภารกิจสำคัญที่รัฐธรรมนูญกำหนดบังคับให้คณะรัฐมนตรีต้องปฏิบัติก่อนที่จะเข้าบริหารราชการแผ่นดินอย่างเป็นทางการ

คือ…เมื่อคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์แล้ว จะต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ภายใน ๑๕ วัน

ฉะนั้นรัฐบาลเศรษฐา สามารถเริ่มงานได้อย่างเป็นทางการประมาณปลายเดือนกันยายน

เป็นช่วงสิ้นปีงบประมาณพอดี

และงานแรกที่ต้องเร่งรีบทำให้เสร็จสิ้น ไม่ใช่แก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อตั้ง ส.ส.ร.มายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ แต่เป็นเรื่องการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗

เรื่องแจกเงินดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาท จะเอาอย่างไร จะเดินหน้าหรือยกเลิก

ถ้าเดินหน้าถึงเวลาที่รัฐบาลเศรษฐาต้องบอกความจริงกับประชาชนได้แล้วว่า จะเอาเงิน ๕ แสนล้านมาจากไหน

“กู้” ใช่หรือไม่?

ตอนโควิดโจมตีหนักๆ ประเทศไทยถึงกับเซ รัฐบาลลุงตู่ ออกแอปพลิเคชันเป๋าตัง เปิดโครงการคนละครึ่ง

วันนั้น “ทักษิณ” ด่ายับ

“…เอาเงินไปแจกผมว่าปัญญาอ่อน ถ้ามีปัญญาเขาไม่แจก เขาใช้เงินไปสร้างเศรษฐกิจ ให้เศรษฐกิจแข็งแรง…”

มาวันนี้รัฐบาลควรจะใช้เงินกับการลงทุนมากกว่าแจก ยังไม่เห็น แต่ก็ยังไม่ได้ยิน “ทักษิณ” ด่า “เศรษฐา” ว่าปัญญาอ่อน

คงเพราะมันมีเรื่องปัญญาอ่อนกว่าที่โรงพยาบาลตำรวจกระมังครับ!

ตั้งแต่ “ทักษิณ ชินวัตร” กลับมา กลิ่นไม่ค่อยดี

เหม็นๆ ชวนให้พะอืดพะอมยังไงก็ไม่รู้

“น.ช.ทักษิณ” ไม่ได้รับการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎระเบียบของกรมราชทัณฑ์อย่างที่ นักโทษชาย ทั่วไปควรได้รับ

มันถึงมีเสียงนินทาสนั่นไปทั้งเมืองว่า “น.ช.ทักษิณ” ได้รับอภิสิทธิ์ เหนือนักโทษทั้งปวง

ภาพมันฟ้องตั้งแต่ย่างเท้าเหยียบประเทศไทยแล้วครับ

การได้ไปนอนชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจเร็วกว่าที่หลายๆ คนคิด มันก็ยิ่งพาให้สงสัยว่า มีกำลังภายในอะไรหรือเปล่า

เมื่อเริ่มต้นกันแบบนี้ ก็แสดงว่ามิได้เกรงกลัวอะไรกันเลย

ในวันที่รัฐบาลเพื่อไทยมีอำนาจเต็ม ก็คงจะหนักหนาสาหัสกว่านี้

เอาเป็นว่าในเบื้องต้นวันนี้ ประชาชนได้ข้อมูลตรงกันแล้วว่า โรงพยาบาลของกรมราชทัณฑ์ ไม่สามารถรักษา นักโทษที่มีอาการแน่นหน้าอกกะทันหัน ค่าออกซิเจนต่ำ และค่าความดันโลหิตสูงมาก ได้

ใครที่ริจะทำผิดกฎหมาย ดูไว้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเสียก่อน

ถ้ามีโรคความดันสูง อย่าริอาจไปค้ายา ฆ่าคน ลักเล็กขโมยน้อย นั่นอาจตายในคุกได้ เพราะศักยภาพของโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีไม่ถึง

และเป็นหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรม ต้องเอาใจใส่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ให้มากกว่านี้

จำคำของพรรคเพื่อไทยเขาไว้นะครับ “คนเท่ากัน”

ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นนักโทษ นักการเมือง นักร้อง ยันประชาชนธรรมดาทั่วไป ต้องเข้าถึงการรักษาอย่างเท่าเทียม

รัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่รัฐบาลเศรษฐาบอกว่า เข้ามาวันแรกจะแก้เลย นั้น ในมาตรา ๔๗ บอกว่า.. “บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขจากรัฐ บุคคลผู้ยากไร้มีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขของรัฐ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตามที่กฎหมายบัญญัติ บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตราย จากรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย”

มันต้องเท่ากันครับ!

แต่ดูเหมือนกรณี “ทักษิณ” มีความพยายามทำให้ไม่เท่า!

ผู้คนเขาพูดกันทั่วครับว่า กลัว “ทักษิณ” จะไม่ติดคุกจริง หรือไม่ก็ติดคุกห้องแอร์

คำว่า “นอนห้องแอร์” มันเป็นสาระสำคัญ เมื่อมีการพูดถึงสถานภาพนักโทษชายของทักษิณ

ก็ไม่รู้สิครับ….ได้ยินน้องๆ นักข่าวสายตำรวจบอกว่าชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ มีห้องวีไอพี ไว้สำหรับ นายพล ผู้ใหญ่ ผู้มีเกียรติ นอนพักรักษาตัว

เครื่องอำนวยความสะดวกไม่ต้องพูดถึง น้องๆ โรงแรม ๕ ดาว

ที่มันเป็นประเด็นดรามาขึ้นมาก็เพราะหมอใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ท่านแถลงข่าวว่า ห้องที่ว่านี้แอร์เสียใช้งานไม่ได้ ต้องใช้พัดลม ๒ ตัว ระบายอากาศแทน

แถมห้องพักของทักษิณ ไม่ได้อยู่ฝั่งที่มองเห็นทัศนียภาพภายนอก เนื่องจากฝั่งดังกล่าวติดกระจก อากาศร้อน

ครับ…สงสาร “ทักษิณ” น่าจะย้ายไปห้องที่มีแอร์ก็ได้

อะไรก็ตามพอมาเกี่ยวข้องกับตำรวจ มันก็มักจะถูกตั้งคำถามถึงความถูกต้องอยู่ร่ำไป

พรรคก้าวไกลว่าไงครับ ในฐานะฝ่ายค้านขอเสียงหน่อย

นี่ก็ชอบบอก “คนเท่ากัน” เหมือนกัน

ฉะนั้นอย่าปล่อยให้มีการ “กดทับ” และ “เหลื่อมล้ำ” นะครับ

Written By
More from pp
‘กำไร’ ที่ไม่เหมือนกัน – ผักกาดหอม
ผักกาดหอม ก็แปลกดี…..                     ไม่รู้ อยากแก้ข่าว หรืออยากเป็นข่าวกันแน่  อยู่เงียบๆ ก็ไม่น่าจะมีใครไปตอแยด้วย             แต่ “ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ”...
Read More
0 replies on “แอร์เสียครับ – ผักกาดหอม”