สันต์ สะตอแมน
1 สิงหาคม 2526..
รายการสารคดีสาระคติ-สร้างสรรค์ “กระจกหกด้าน” ได้ถือกำเนิดขึ้นจากคำสั่งสอนของ “สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)” ที่เตือนให้ศิษยานุศิษย์ส่องกระจกรอบด้าน..
เพื่อชี้ให้เห็นความจริงของชีวิตที่ว่า ควรปฏิบัติอย่างเหมาะสมต่อบุคคลรอบข้างรวมทั้งตนอย่างไร?
มาจาก “ทิศ 6” ธรรมะ ของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดง แก่ สิงคาลกมาณพ ว่าด้วยเรื่องมนุษย์จะประสพชัยชนะ ถ้ารู้จักไหว้ทิศทั้ง 6 อย่างถูกวิธี
นี่..นับปี “กระจกหกด้าน” ของคุณสุชาวดี มณีวงศ์ ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ก็เข้าสู่ทศวรรษที่ 5 แล้ว
ซึ่งจะมีรายการสารคดี ปกิณกะ วาไรตี้อะไร-ทางช่องไหนบ้างที่มีอายุยาวนานเท่ากระจกหกด้าน ถ้าเผื่อใครรู้ก็ช่วยบอกหน่อยแล้วกัน?
แต่ที่อยากคุยและบอกให้รู้เลย.. “กระจกหกด้าน” เป็น “สารคดี” ที่มี “เรตติ้ง” หรือจำนวนผู้ติดตามชมทั่วประเทศสูงสุด เสนอเรื่องราวตอนเดียวจบอยู่ 7 ปี (2526-2533)
พอขึ้นปีที่ 8 เพิ่มสารคดีชุดยาวแต่ก็จบชนิดได้สาระในตอนเดียว หลังจากนั้นก็สลับกันทั้งตอนเดียวจบและจบในหลายตอนตราบปัจจุบัน!
ราวๆ ปลายปีที่แล้ว ผมโชคดีที่ได้มีโอกาสนั่งสนทนากับคุณสุชาวดีผู้เป็นทั้งเจ้าของ และผู้ให้เสียงบรรยายรายการที่ผู้อ่าน-ผู้ชมคุ้นชินกับเสียงที่เป็นเอกลักษณ์เป็นอย่างดี
คุณสุชาวดีในวัยย่าง 80 ปียังกระฉับกระเฉง สมองปราดเปรื่อง คุยได้(สาระ)ทุกเรื่อง รอบรู้(จริง)ทุกด้าน นอกจากได้เล่าเรื่องโน่นนี่นั่น สลับคุยการเมือง-บันเทิงแล้ว ยังบอกด้วยว่า..
สู่ทศวรรษที่ 5 “กระจกหกด้าน” ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน จะยังคงให้บริการผลิตผลงานต่อเนื่อง ไม่ลดคุณภาพ ไม่ลดอุดมการณ์..
เพื่อเพื่อนทุกเพศทุกวัย ไม่มีพิษมีภัย มีแต่ประโยชน์ตลอดไปเหมือนเดิม..ไม่เชื่อให้ติดตามชมได้ทุกวันเสาร์ เวลา 16.15-16.30 น.ทางช่อง 7 HD
ที่น่าทึ่ง..กระจกหกด้านผลิตรายการมาแล้วกว่า 1 หมื่นตอน ความยาว 15 นาที ได้รับรางวัลจากสถาบันต่างๆมามากมายก่ายกองเกือบ 30 รางวัล..
ซึ่งก็เป็นบทพิสูจน์ของรายการสารคดีคติคุณภาพ ที่ผมต้องขออนุญาตนำมาคุย-บอกย้ำในวันนี้-1 สิงหา 2566!
และก็ขอแสดงความยินดีกับ “กระจกหกด้าน” ที่อยู่ยงคงกระพันมาถึง 40 ปี ซึ่งเคล็ดลับที่ทำให้รายการกระจกหกด้านครองใจผู้ชมมายาวนานครึ่งค่อนศตวรรษ..
คุณสุชาวดีบอกไม่มีอะไรพิเศษ มีเพียง “ความทุ่มเท” ทั้งเวลา กำลังใจ-กำลังกาย และที่ขาดไม่ได้ “กำลังเงิน” ว่างั้น!
ครับ..พูดถึงกระจกหกด้าน ในความหมายมองให้ครบทุกด้าน ซ้าย ขวา หน้า หลัง บน ล่าง ก็ให้นึกเห็นภาพส.ส.-นักการเมืองที่กำลังหัวหมุนวุ่นวายอยู่กับการแย่งชิงอำนาจในขณะนี้
ระดับหางแถว ขี้คร่อกน่ะมองกระจกแค่ด้านเดียวก็เที่ยวทึกทักคุยลั่นจะต้องเป็นอย่างนั้น- อย่างนี้ ในขณะที่ผู้มีอำนาจเหนือพรรค เขามองแบบลึกซึ้งครบทั้งหกด้านด้วยใคร่ครวญถ้วนถี่
ฉะนั้น..นายกรัฐมนตรีจะเป็นใคร? เราๆ ท่านๆ ก็อย่าด่วนสรุปหรือปักใจ พอๆกับการผสมพันธุ์ของพรรคการเมือง ก็อย่าเพิ่งเชื่อตามที่สายตาเห็น-กูรูโม้ เพราะอาจไม่ได้เป็นเช่นนั้น
กระทั่ง..คนที่ประกาศจะกลับบ้านวันที่ 10 สิงหา ก็ให้เชื่อครึ่ง-ไม่เชื่อครึ่งเอาไว้ก่อน โดยเฉพาะพี่น้องคนเสื้อแดง ก็อย่าเพิ่งกระดี๊กระด๊า ต้องเผื่อใจ จะได้ไม่ (ไปรับ) เก้อ!
แต่ที่ดีใจแน่ๆ ไปแล้ว ก็สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ..หลังสตั๊นไป 10 วิกับข่าวหัวหน้าพรรคลาออก แล้วพล.อ.ประวิตรก็กลับขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคใหม่
แถมกระเตงน้องชายสุดเลิฟเข้าร่วมเป็นใหญ่ในพรรค เตรียมเนื้อเตรียมตัว..
เป็น..รมต.มหาดไทยรึเปล่า หนอ?