สันต์ สะตอแมน
มาตรา 32..
ผู้ใดบุกรุกโบราณสถาน หรือทําให้เสียหาย ทําลายทําให้เสื่อมค่าหรือทําให้ไร้ประโยชน์ซึ่ง โบราณสถาน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินเจ็ดปีหรือปรับไม่เกินเจ็ดแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ฉะนั้น..จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้าจับกุมนายศุทธวีร์ สร้อยคำ หรือบังเอิญ อายุ 24 ปี ชาว จ.ขอนแก่น
ขณะที่เจ้าตัวกำลังพ่นสีสเปรย์สีดำใส่กำแพงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) จึงพออนุมานได้ว่า ผู้ต้องหารายนี้ต้องถูกดำเนินคดีถึงที่สุดแน่
เพราะหนึ่ง กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย และต้องศักดิ์สิทธิ์ สอง เพื่อให้เกิดความเกรงกลัว จะไม่เอาเป็นเยี่ยงอย่าง..
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับอัยการ-ศาลนั่นแหละ จะเห็นเป็นอย่างไร?
เอ้า..แต่นั่นไม่เห็น ไม่รู้หายไปไหนแล้ว ผมหมายถึงป้ายหาเสียง “พูดจริง ทำจริง” ของคุณอ๋อม-สกาวใจ พูลสวัสดิ์ น่ะ
วันก่อน เห็นติดพรึ่บไปทั่วย่านสะพานสูงอยู่หลัดๆ แต่กลับจากต่างจังหวัดเมื่อวานซืน ผมมองหาทุกเสาไฟฟ้าหายเกลี้ยง!
หรือว่าปล่อยภาพ ปิดโปสเตอร์แล้วกระแสไม่ได้เป็นไปตามคิด ไม่ได้ฮิตเหมือนตอนคอลเอาต์ ทางเจ้าของพรรคเพื่อไทยเลยต้องเปลี่ยนแผน-สลับตัว..
โดยโยกคุณอ๋อม-ดาราสาวออกนอกเขตสะพานสูง แล้วยัดคุณวิชาญ มีนชัยนันท์ หนุ่มใหญ่-นักการเมืองเก๋าเข้าเสียบแทน!
ก็..ไม่ได้จะเสียดง-เสียดาย เพียงแต่ถ้าเป็นคุณอ๋อมก็ตั้งใจอยู่ว่า 1เสียงที่มี (สิทธิ์) จะมอบให้เธอในฐานะดารา-คนบันเทิง แต่พอเป็นคุณวิชาญ ผมเห็นจะต้องค่อยๆ คิด..
อย่างน้อยก็ยังมีคุณนาถยา แดงบุหงา ดารารุ่นใหญ่อยู่ในใจอีกคน แต่ติดตรงหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐชอบทำลับๆ ล่อๆ จนไม่น่าไว้วางใจ!
ที่ประกาศชูนโยบาย “ก้าวข้ามความขัดแย้ง” น่ะก็ดีอยู่ ควรที่จะสนับสนุนส่งเสริม แต่ก็มีคำถามว่า ถ้าพลังประชารัฐ จับมือจัดตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทย..
เชื่อและมั่นใจหรือว่า ประเทศไทยจะเกิดความรักความสามัคคีในหมู่ประชาชน-นักการเมือง จะไม่มีความขัดแย้งกันอีกต่อไป..หือ?
พล.อ.ประวิตร เป็นใคร นายทักษิณเป็นใคร ทำไมสองคนจูบปาก-จับมือกันแล้ว ประเทศไทยจะเกิดความสงบสุขกระนั้นรึ?
แต่ผมห่วง เกรงจะเป็นอย่างพี่ตู่ คุณจตุพร พรหมพันธ์ ว่า.. “ผมขอโฆษณาชวนเชื่อต่อไปเลยว่า เพื่อไทยไม่จับมือ พปชร.จริงๆ แต่ถ้าจับมือกันวันไหนก็เขวี้ยงโรงกันวันนั้น”
ซึ่งถ้าจะเอากันจริงๆ หมายถึงความมุ่งมั่นพยายาม “ก้าวข้ามความขัดแย้ง” ในเมื่อคุณวิรัชออกมาแบไต๋ นายทักษิณต้องยกก้าวอีกนายกฯให้พล.อ.ประวิตรแล้วไซร้..
ทำไม ไม่ยุบพรรคหนึ่งพรรคใดแล้วรวมกันเสียให้หมดเรื่องสิ้นราวไป!
ประชาชนที่รักทั้งสองพรรคก็จะได้ไม่ต้องกระอักกระอ่วน หรือเสียความรู้สึกเอาภายหลังว่า “โดนหลอก” และแทนที่จะก้าวข้ามความขัดแย้ง..
ดี-ไม่ดีจะยิ่งเพิ่มความขัดแย้งถึงขั้นมิคสัญญี เผาบ้าน-เผาเมืองขึ้นอีกก็เป็นได้!
ผมว่า การประกาศจับมือ-ร่วมตั้งรัฐบาลเสียก่อนที่จะมีการหย่อนบัตรก็ดีไปอีกอย่าง จะช่วยให้ประชาชนตัดสินใจง่ายขึ้น
อย่างเช่นเพื่อไทย พลังประชารัฐ ไทยสร้างไทย ก้าวไกล ฝ่ายหนึ่ง รวมไทยสร้างชาติ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา ฝ่ายหนึ่ง
ชัดเจนอย่างนี้แล้ว สื่อก็จะได้ไม่ต้องเซ้าซี้ถามให้รำคาญ นักการเมืองเองก็ไม่ต้องเล่นลิ้น เล่นท่า-ลีลา ไม่ต้องนัดทานข้าวกันให้สิ้นเปลือง
นับคะแนนเสร็จ ก็ฟอร์มรัฐบาลได้เลย รวดเร็วทันใจ..
ลุงตู่-ลุงป้อมก็จะได้เลิกตีสองหน้าเสียที!