สันต์ สะตอแมน
กลัววงการหนังไทยจะเหงา-เงียบกระมัง?
วันก่อนนู้น..จึงเห็นข่าวโปรโมตหนังเรื่อง “ทิดน้อย” ด้วยการใช้คำ..ค่าตัว “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม”
ซื้อคอนโดแถวทองหล่อได้ 1 หลัง พร้อมรถ..
และค่าตัว “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” สามารถสร้างหนังได้ 1 เรื่อง!
ทำเอาเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึงไปทั้งใน-นอกวงการ จนฝ่ายพระเอก คุณอนันดา ต้องเอ่ยปากพูด..เป็นแค่เรื่องโจ๊ก อย่าดราม่าไปเลย เดี๋ยวก็ลืมกันแล้ว!
ซึ่งผมเองก็คิดเอาว่า น่าจะเป็นความจริง คงไม่มีบริษัท-ผู้สร้างเจ้าไหนใจถึง-มือเติบ ยอมจ่ายค่าตัวพระเอกสูงขนาดซื้อคอนโดแถวทองหล่อ พร้อมรถหรอก!
ยิ่งในสภาพเป็นอยู่ปัจจุบัน ที่อุตสาหกรรมหนังไทยซบเซา ลมหายใจรวยรินด้วยแล้ว..ค่าตัวพระเอก-นางเอก แค่ซื้อคอนโดแถวลาดพร้าว-บางกะปิได้ ก็ชื่นใจแล้วมั๊ง?
เออ..แล้วนี่ก็เป็นอีกกระแส ผมหมายถึงกรณีที่คุณมะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ผู้กำกับที่กำลังถ่ายทำหนังเรื่องใหม่ให้กับค่ายสหมงคลฟิล์มฯ อยู่ในขณะนี้
โดยวานซืน เขาได้มีการโพสต์เฟซบุ๊ก.. “กูเบื่อสังคมที่นิยมชมชื่นกับความอู้ฟู่ร่ำรวยของดาราและอินฟลูฯ อะ
เวลาเห็นคนทำงานในวงการนี้ดิ้นรนกับค่าตัวที่ยากจะสร้างตัวและน้อยนิดเมื่อเทียบกับความเหนื่อย โดยเฉพาะกับความลำบากที่ต้องดีลกับผู้โด่งดังทั้งหลายเหล่านั้น
ไม่ต้องถึงขั้นเอาค่าตัวมาแจกจ่ายใครหรอกจ้า รู้ว่าบุญวาสนามันแข่งกันบ่ได้ แต่เห็นใจคนทำงานกันหน่อยก็ดี
– มาทำงานให้ตรงเวลา- ทำการบ้านอ่านบทมาให้เป๊ะ – ดูแลตัวเองให้ดูดีทั้งสุขภาพกายและจิต – ทีมงานไม่ใช่คนใช้ ไม่ใช่ลูกจ้างของคุณ บริษัทเขาจ้างมาทำหน้าที่ของเขา ให้เกียรติกันด้วย
– ช่างหน้าช่างผมสไตลิสต์ อยากได้ดังใจจ้างมาเอง อย่าเบียดบังเงินกอง จริงอยู่ว่ามีโปรดักชั่นที่จ่ายได้ แต่งบางที่เขาก็ไม่ไหวบางทีต้องตัดจากงบ Set งบ กล้องไฟ งบสวัสดิภาพของคนอื่นๆ เรื่องแบบนี้รู้ไว้บ้างก็ดี
– ผู้จัดการทั้งหลายความเยอะความเขี้ยว เบาได้เบา หลายครั้งที่รีดเค้นความเป๊ะจากกอง แต่ขอความอะลุ่มอล่วยให้ตัวเอง บางทีให้ดาราเล่นบทน่ารัก เขารู้กันหมดแล้วว่าศีลเสมอกัน เลยอยู่กันได้
– นายทุน ช่อง ลูกค้าใด ๆ หันมาใส่ใจทีมงานบ้าง อย่าไปมองแต่จะต้องเอาดาราดัง อินฟลูล้านวิว มาขาย ลงกับบท กับโปรดักชั่น
และอย่าไปคิดแทนคนดูว่าเค้าบ้าดาราหรือคนดัง บางทีเขาก็อยากเห็นงานดีๆ ที่ลงทุนกับสติปัญญาเหมือนกันนะ ฯลฯ ที่อยากจะแนะนำผู้อยู่เบื้องบน ๆ
ที่ว่ามานี่ไม่ได้เจาะจงใคร มาจากประสบการณ์ของเราเองกับผู้อยู่เบื้องหลังล้วนๆ ประเด็นที่ยกมาข้างต้นนี่แทบจะเป็นประสบการณ์ร่วมของคนกองทุกคนแหละ ไม่ได้จะด่าใคร
วันนึงกูเลิกจากวงการนี้จะเขียนเล่าให้ฟังเก็บเป็นตำนานไว้ชั่วลูกหลาน เป็นกำลังใจให้ทีมงานผู้ขยันขันแข็งทุกคนนะครับ
หวังว่าวงการนี้จะทำให้เราและคนรุ่นหลังมีความสำคัญขึ้นมาในสายตาผู้มีตังทั้งหลายบ้าง อยากให้เขาภูมิใจกันบ้างว่าได้ลงทุนกับสวัสดิภาพชีวิตคนทำงานอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยและเท่าเทียมกัน
ขอให้วันนั้นมาถึงเร็ว ๆ รักทุกคน”
ครับ..ก็เป็นความในใจที่น่าจะตรงใจของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะบรรดาผู้กำกับฯที่ต้องยอม (ทุกอย่าง) ให้กับ “นายทุน” เพื่อแลกกับการได้มีงานทำ!
และจากประสบการณ์ที่เคยได้คลุกคลีตีโมงกับกองถ่ายกับผู้อยู่เบื้องหลัง ผมเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกนี้พอสมควร ไม่ถึงที่สุด คงไม่พรั่งพรูออกมาแบบนี้
แม้คุณคุณมะเดี๋ยวออกตัว.. “ไม่ได้จะด่าใคร” แต่ก็ย่อมรู้กันอยู่แก่ใจ..
อย่า (พยายาม) ปั้นมนุษย์ให้เป็นเทวดาเลยนะ!