สันต์ สะตอแมน
ด้วยบทบาท-หน้าที่..
แม้จะช่วยอะไรได้ไม่มาก แต่การที่ “สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย” ได้เชิญคุณไพโรจน์ สังวริบุตร เข้าไปคุยเพื่อรับฟังปัญหาของรอบฉายภาพยนตร์เรื่อง “วัยอลวน5” ที่เกิดขึ้น..
ก็..เป็นเรื่องที่น่ายินดี-ชื่นชม อย่างน้อยเมื่อทางสมาคมฯ ได้รับทราบข้อมูลต่างๆแล้ว ก็จะได้นำไปคิดหาแนวทางในการแก้ปัญหา เพื่อจะได้มีมาตรการสนับสนุนและปกป้องภาพยนตร์ไทยต่อไป!
อ้อ..ส่วนใครที่ถามหา “ประธานสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ” หรือ “องค์กรคนทำหนัง” อยู่ไหน ผมเองก็ใคร่อยากรู้อยู่เหมือนกัน..
ว่าแต่..ใครล่ะ “ประธาน” ผมยังไม่รู้เลย555!
ช่างเถอะ จะเป็นใครก็อย่าไปสนใจเลย มาสนใจเรื่องนี้ดีกว่า ก็เรื่องที่กำลังเป็นข่าวฮือฮาอยู่ในขณะนี้ไง?
หา..ไม่ใช่เรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมงานเปิดตัวยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างที่ศูนย์ประชุมสิริกิตติ์
ผมหมายถึงเรื่อง “ภรรยาเป็นชู้กับอดีตรองนายกฯ” นั่นต่างหาก!
ยิ่งหากอยู่ในสถานะผู้สร้าง-ผู้กำกับด้วยแล้ว ยิ่งควรสนใจและติดตามข่าว ไม่เพียงแค่อยากรู้ “ชู้” คนนั้นเป็นใคร หัวหอก หรือหัวดำ หากควรสนใจ-ตามเก็บข้อมูล..
แล้วนำมาเขียนพล๊อต-สร้างบท ทำหนังคุณภาพดีๆ อย่างที่คุณมานพ อุดมเดช เคยกำกับเรื่อง “หย่าเพราะมีชู้” ออกฉายในปี พ.ศ. 2528 นั่นไง!
จำกันได้ไหม ที่คุณสินจัย หงษ์ไทย คุณนาถยา แดงบุหงา คุณอภิชาติ หาลำเจียก ร่วมด้วยอาจารย์ชนประคัลภ์ จันทร์เรือง ประชันฝีมือ-โชว์ทักษะการแสดงกันในศาลน่ะ!
ซึ่งคนที่เคยผ่านตาก็คงจะประทับใจอยู่ไม่น้อย และนอกจากจะเป็นหนังทำเงินรายได้เฉียด 10 ล้านบาทในยุคนั้น..
หนังเรื่องนี้ยังได้รับรางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี (ตุ๊กตาทอง) สาขา “ภาพยนตร์ยอดนิยม” ประจำปี พ.ศ. 2528 อีกด้วย!
นี่..ผมได้ยกหูหาคุณมานพแล้ว เห็นแกอยู่ว่างๆ เลี้ยงหมาเลี้ยงแมวอยู่กับบ้าน ก็อยากให้ตามดูข่าวนี้หน่อย ซึ่งดูเหมือนคุณมานพก็ได้ให้ความสนใจอยู่เหมือนกัน ไม่งั้นคงไม่ถาม..
“ใช่..รึเปล่า ผมว่าใช่น่า อิจฉาว่ะ อายุปูนนี้ยังมีแรงอยู่อีก”
แน่ะ..ผมไม่ได้ให้ติดตามชู้ เพราะรู้ตัว-เห็นหน้าชัดๆ อยู่แล้ว แต่ฝ่ายหญิงสิเป็นใคร สามีมีหน้าที่ตำแหน่งแห่งหนที่ไหน และทำไมต้องแอบคบหา จนกลายเป็นกิ๊ก-เป็นกั๊กกับรองนายกฯ คนนี้
ถ้าสร้างพล๊อต-เขียนบทดีๆ ผมว่าจะเป็นหนังทำเงินได้ไม่ยาก เพราะเรื่องแนวพรรค์อย่างนี้ ถูกกับรสนิยมคนไทยนัก!
ดูเถอะไม่เพียง “หย่าเพราะมีชู้” หนังเรื่อง “ชู้” ของผู้กำกับ คุณองอาจ สิงห์ลำพอง ก็ดี เรื่อง “เปนชู้กับผี” ของคุณวิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ก็ดี ล้วนต่างเป็นหนังที่ทำเงินรายได้ดี
กระทั่ง เพลงก็เหอะ อย่าง “เมียพี่มีชู้”ของคุณชาย เมืองสิงห์ ศิลปินแห่งชาติ สมัยโน้นคนร้องกันทั้งบ้านทั้งเมือง เพลง “ชู้ทางใจ” ของคุณวินัย พันธุรักษ์ คนก็นิยมอยู่มาก..
หรือจะเพลง “ชู้” ของคุณหลง ลงลาย ก็เป็นที่ชื่นชอบ ขายดิบ-ขายดี!
ว่าแล้ว..ก็ขอฝากผลงานเพลงนี้สักท่อน-สองท่อนไว้ในอ้อมอก-อ้อมใจบรรดาชู้ทั้งหลาย เผื่อบางทีจะได้เตือนสติ หรือทำให้เห็น “ต้นงิ้ว” ขึ้นมาบ้าง ก่อนจะติดบ่วงกรรม-ผิดศีลธรรม ถลำลึก..
“ถึงรักครั้งนี้จะถูกประณาม จากคนทั้งโลกก็ตาม แต่คงจะห้ามไม่ไหว ถึงแม้จะรู้
เป็นได้แค่ชู้ทางใจ ก็ช่างหัวมันปะไร ในเมื่อหัวใจต้องการ
คงไม่มีใคร เกิดมาแหละอยากเป็นชู้ มันหน้าอดสู ยิ่งคิดยิ่งน่าสงสาร อยากให้โลกรู้
รักคนมีคู่มันทรมาน แต่มันก็สุดทัดทาน ถึงใครจะว่าฉันเลว
เลวเพราะรักคนที่มีเจ้าของ หัวใจช้ำเลือดช้ำหนอง ตายแล้วยังต้องตกเหว
ยอมรับความจริง ยอมแม้จะเป็นคนเลว ยอมแม้หัวใจแหลกเหลว ขอเพียงแค่ได้รักเธอ”
ครับ..ห้ามใจเอาไว้ รอให้ดอกงิ้วบานหล่นลานดินเสียก่อนไม่ดีกว่าหรือ..
จะได้ไม่ต้องปีน..ต้นงิ้ว!
