สันต์ สะตอแมน
ไหวไหมพี่เต้?
ก็..ที่คำรามลั่น.. “ถ้าใครก็ตามบังอาจทำอันตรายพี่อัจฯ พวกผม จะสีกากี สีขี้ม้า หรือสีอะไรก็ตาม ผมจะจัดการมันทุกคนตั้งแต่ คนลงมือ คนสั่งการ ทุกคน
ส่วนเมีย-ลูกพี่อัจฯ ผมจะดูแลส่งเรียนให้เอง ไม่ต้องห่วง”
ซึ่ง “พี่อัจ” ที่ว่านี้ก็คือ คุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม คนเดียวกับที่ได้สั่งเสียไว้ว่า..
“ถ้าผมเป็นอะไรก็ช่วยดูแลครอบครัวผมด้วยแล้วกัน ช่วยจัดงานให้ผมด้วย เพราะที่บ้านผมมีแต่ลูกสาวที่ยังเล็กอยู่ 2 คน ฝากพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศนะครับ..
โลกปัจจุบัน ปืนหาง่าย อำนาจรัฐ อำนาจอิทธิพลมืดต่างๆ มันเยอะแยะมากมาย แต่ผมก็ยังยืนยันว่า ตราบใดที่ผมยังมีลมหายใจอยู่ ผมก็จะทวงคืนความยุติธรรมให้กับน้องแตงโม
ผมต้องเอาคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย ตามหลักฐานที่เป็นจริง ไม่ใช่หลักฐานที่สร้างกันขึ้นมา”
ครับ..ก็หวังว่าพี่เต้จะไม่ต้องออกแรง-ใช้กำลัง จัดการใครต่อใครให้เป็นบาปเป็นกรรมไม่สิ้นสุด และขอให้คุณอัจฉริยะอย่าได้เป็นอะไร..
ตามตัวคนผิดมาลงโทษ คืนความยุติธรรมให้น้องแตงโมได้สำเร็จสมความมุ่งมั่น-ตั้งใจนะ!
เออ..แต่นี่ไม่ได้ตั้งใจ เป็นความบังเอิญที่กดเจอเข้าพอดี ผมหมายถึงภาพยนตร์อินตะระเดียเรื่อง “Gangubai kathiawadi (2022) หญิงแกร่งแห่งมุมไบ” ทางเน็ตฟลิกซ์
แรกก็ว่าจะลองดูตามประสาคนนิยมชมชอบหนังแขก แต่ดูไปดูมาให้เพลินตา-ติดใจ ไม่เฉพาะเทคนิคการเล่าเรื่อง การถ่ายภาพ องค์ประกอบศิลป์ที่สวยงาม-ยอดเยี่ยม..
แต่ได้รวมไปถึง “บทภาพยนตร์” ที่แข็งแรง-กินใจ ทำให้นอนดูไปจนจบ 2 ชั่วโมงครึ่ง!
โอ้..ว้าว หนังอินเดียไปไกลสุดกู่แล้วจริงๆ หนังเรื่องนี้ได้สร้างขึ้นจากเรื่องจริงของโสเภณีชื่อดังแห่ง เมือง มุมไบ (บอมเบย์) นาม “คังคุไบ”..
อดีตลูกสาวทนายความวัย 17 ปี ที่หนีตามแฟนหนุ่มที่หลอกเธอว่าจะพาไปเป็นนางเอกภาพยนตร์ตามที่ตัวเองใฝ่ฝัน แต่สุดท้ายเขากลับพาเธอไปขายในซ่องโสเภณีที่เมืองมุมไบ ด้วยเงิน 1,000 รูปี
และแม้ชะตา-ฟ้าลิขิตให้ต้องเป็นกะหรี่ แต่เธอก็ยังมีโชคที่ได้มีความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องกับ “มาเฟีย” เมืองมุมไบ คอยดูแลคุ้มกะลาหัว..
ทำให้เธอพลอยมีบารมีในหมู่โสเภณี กลายเป็นที่พึ่งของกะหรี่ไปทั่วทุกซ่องเมืองมุมไบ!
จนเมื่อ “แม่เล้า” ในซ่องเธอเสียชีวิต เธอจึงได้ถูกสถาปนาให้เป็น “แม่เล้า คนใหม่ จากชื่อ “คังคุ” ก็เลยต้องเติมคำว่า “ไบ” ต่อท้าย กลายเป็น “คังคุไบ” ที่หมายถึง “แม่เล้าคังคุ” ชื่อเสียงกระฉ่อนดัง!
ดัง..จนเธอได้รับเลือกตั้งให้เป็น “นายกเทศมนตรีของเมืองกามธิปุระ” และเป็นโสเภณีคนเดียวของอินเดียที่ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีของอินเดียในสมัยนั้น
นี่..บอกก่อน ไม่ได้ตั้งจะมารีวิวหนังแขก แต่ด้วยดูแล้วถูกจริตกับตัวเองก็เลยอยากนำมาบอกเล่าเก้าสิบกัน เผื่อจะมีใครที่ไม่ได้ฝังใจ-ฝังหัวกับอดีตหนังอินเดียเสียจนเปิดใจรับไม่ได้
จะได้ลองหันมาเลือกชมหนังบอลลีวู้ดยุคปัจจุบันนี้ดูบ้าง จะได้ไม่ตกเทรนด์!
พึงรู้เถอะ..หนังบอลลีวู้ดนะเขาสร้างออกฉายทั่วโลกปีละนับพันเรื่อง แต่แปลกไหมที่โรงภาพยนตร์ในประเทศไทย (แทบ) ไม่มีหนังอินเดียฉายเลยในแต่ละโปรแกรม
ทั้งๆ ที่บางเรื่องต้องบอกว่าเป็น “หนังโคตรดี” และควรที่จะได้สนับสนุนให้คนไทยได้ดู อย่างที่ตรึงตา-ติดใจผมอยู่ตลอดก็เรื่อง “PK” หนึ่งล่ะ!
“คังคุไบ” นี้ก็เช่นกัน หลังจากผ่านตามา 2 คืน วานนี้เห็นเพื่อนพ้องน้องพี่ในเฟซบุ๊กได้โพสต์แสดงความชื่นชม-ชื่นชอบกันหลายคน อืมม แสดงว่า..
สายตาผมก็ดูหนังเป็นกับเขาเหมือนกัน!