สันต์ สะตอแมน
บรรพบุรุษคงสืบทอดสอนกันมา
ยามใดที่ประเทศไทยแตกความสามัคคี ผู้นำอ่อนแอ สังคมเห็นแก่ตัว ต่างคนต่างอยู่ ธุระไม่ใช่..
เมื่อนั้น “พม่า” ที่เข้ามาอาศัยแผ่นดินสยามก็จะกระด้างกระเดื่อง เหิมเกริม กร่าง คิดการณ์ใหญ่ให้ปรากฏดังที่เห็นอยู่ในขณะนี้!
และหากเจ้าหน้าที่บ้านเมือง หน่วยงานรับผิดชอบยังนิ่งดูดาย ผมก็ให้หวั่นใจเหลือเกินว่าจะเกิด “นายสิน” คนที่สองขึ้นมาก็ได้
ซึ่งถ้ามีคนชูธง-นำทัพขึ้นมาจริง คนไทยที่อึดอัดคับแค้นกับพฤติกรรมของชาวพม่าที่นับวันได้สร้างความเดือดร้อน วุ่นวาย และเรียกร้อง “สิทธิ์” เอานั่น-นี่เกินความเป็น “ต่างด้าว”..
ก็จะพร้อมเพรียงออกมาประจันหน้า ร่วมกันตะเพิด-ขับไล่ชาวพม่าเหมือนเช่นบรรพบุรุษสยามได้เคยกระทำมาในอดีต!
อย่างวันก่อน “คุณเต้ อาชีวะ” ก็ได้นำชาวคณะบุกไปยังสถานทูตพม่านำร่องไปแล้ว คาดว่าจากนี้มีอีกหลายคณะเป็นแม่น้ำต่างสายที่จะไหลไปรวมพลังกัน..
“ยามศึกเรารบ ยามสงบเรารบกันเอง” เป็นสันดานของคนไทย จงรู้ไว้หม่อง!
เอ้า..แล้วนั่นก็รู้ไว้ เมื่อนักข่าวถาม “จะวัดผลงานคณะที่ปรึกษาชุดนี้อย่างไร”?
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี 1 ใน 5 คณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี ตอบ.. “ไม่มีการกำหนดเคพีไอ แต่ที่ปรึกษาทุกคนไฟแรงมากพร้อมเริ่มงานเต็มที่..
ดังนั้น นายกฯ ก็บอกว่า ในระยะเวลาที่เหลืออยู่อีก 2 ปีกว่า สิ่งที่อยากเห็น คนไทยจะต้องพ้นความยากจน ประเทศสามารถหลุดพ้นปัญหาเศรษฐกิจ
นำไปสู่ทิศทางที่ชัดเจนในการสร้างเศรษฐกิจกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง”
“สาธุ” ..ขอให้เป็นเช่นนั้น ถ้า 2 ปี คนไทยหลุดพ้นความยากจน ประเทศหลุดพ้นปัญหาเศรษฐกิจสำเร็จได้จริง ก็เห็นจะต้อง “ปูผ้ากราบ” คุณแพทองธารแล้วล่ะ!
และถ้าใครยังจะคิดโค่น-ล้มตระกูลชินอยู่อีก ก็จะต้องเป็นศัตรูกับผมแน่ ว่าแต่คุณแพทองธารจะนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอยู่ได้ถึง 2 ปีแน่นะ?
ที่ถาม..เพราะได้ยินคุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ บอกกับคุณสำราญ รอดเพชร ที่ไทยโพสต์ทีวี รายการตรงปก ตรงประเด็น วันก่อนว่า..
“ที่ดินอัลไพน์” เป็นจุดตายของนายกฯ แพทองธาร รวมทั้งอีก 10 เรื่องที่ได้ยื่นต่อทั้ง กกต.-ป.ป.ช.ให้ดำเนินการก็ระดับคอขาดบาดตายทั้งนั้น!
จะไม่ระคายผิว และหลุดรอดหมดทุกเรื่องเลยกระนั้นหรือ แต่ผมดูท่าทีคุณเรืองไกรไม่ว่าจะไปออกช่องไหน-รายการใคร..
ดูเหมือนจะสุขุมลุ่มลึกและเต็มเปี่ยมไปด้วยภูมิด้านกฎหมาย ที่สำคัญคล้ายลึกๆ จะมั่นใจ อย่างไรเสียอุ๊งอิ๊งก็ไม่น่าจะรอด!
ครับ..คุณสุรพงษ์ไม่ต้องตอบก็ได้ว่าคุณแพทองธารจะอยู่ได้ทันปลดปล่อยคนไทยให้หลุดพ้นความยากจนใน 2 ปีหรือไม่?
แต่อยากให้พูดประเด็นนี้สักนิด ก็ที่อดีตศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งจำคุกนายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นเวลา 1 ปี ไม่รอลงอาญา ปรับ 2 หมื่นบาท
กรณีที่มีการอนุมัติแก้ไขสัญญาสัมปทานโครงการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ (ฉบับที่ 5) เพื่อลดสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มาแล้วนั่นแหละ
คุณสุรพงษ์ไม่รู้สึกเคอะเขิน กระดากใจบ้างเลยหรือ จริงอยู่ท่านเป็นบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ แต่ในฐานะ “ที่ปรึกษานายกฯ” คงหนีไม่พ้นเสียงซุบซิบนินทา..
หาคนที่มือสะอาดสะอ้าน ไม่เคยถูกจำคุกมาก่อน ไม่ได้แล้วรึไง?
นี่..คุณสุรพงษ์จะไม่พูดก็ไม่เป็นไร แต่ให้รู้ว่า การที่คนเป็น “ที่ปรึกษา” เคยติดคุก คดีแก้สัมปทานเอื้อชินคอร์ปมาก่อนนั้น..
ย่อมเป็นธรรมดาที่ประชาชน-สังคมจะพลอยระแวง ระวัง ไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี!
แต่คิดอีกทีก็น่าเห็นใจ..นายทักษิณได้ใช้คนติดคุกแทนมาจนแทบหมดพรรคแล้ว ก็จำเป็น..