ผักกาดหอม
อัปเดตสถานการณ์ “โอมิครอน”
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น กลับไปดูการสรุปตัวเลขผู้ติดเชื้อโดยกระทรวงสาธารณสุข วันที่ ๒๐ ธันวาคมที่ผ่านมา
ณ วันนั้นอยู่ที่ ๖๓ ราย
๗ วันผ่านไป ๒๗ ธันวาคม พบ ๕๑๔ คน กระจายใน ๑๔ จังหวัด
แม้ ๒ ใน ๓ จะเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ แต่ทั้งหมดใช้บริการสาธารณสุขในประเทศไทย
แต่ก็พอโล่งใจได้บ้าง เพราะผู้ติดเชื้อโอมิครอนมีอาการน้อย
ส่วนใหญ่ไอ เจ็บคอ
เชื้อไม่ลงปอด พบที่หลอดลมมากกว่า
ถ้าแบ่งตามอาการ
น้อยจนถึงไม่มีอาการ ๙๐%
อาการเล็กน้อย ๑๐%
อาการมาก ๓-๔%
สัมพันธ์กับข้อมูลจากประเทศอังกฤษ ที่มีการศึกษาความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลของผู้ป่วยติดเชื้อโอมิครอน ลดลงเมื่อเทียบกับเดลตา
สายพันธุ์เดลตาโอกาสเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมี ๕๐% และนอนโรงพยาบาล ๑ วันขึ้นไป ๖๑%
ส่วนสายพันธุ์โอมิครอนรักษาที่โรงพยาบาลอยู่ที่ ๒๐-๒๕% นอนโรงพยาบาล ๑ วันขึ้นไป ๔๐-๕๐%
แล้วสถานการณ์การระบาดของโอมิครอนในไทยอยู่ในระดับไหน
ระดับเตือนภัยถูกวางไว้ ๕ ระดับ
๑.สีเขียว ใช้ชีวิตตามปกติ เปิดโควิดฟรีเซตติงทุกแห่ง การเดินทางข้ามประเทศได้ปกติ
๒.สีเหลือง ให้เร่งเฝ้าระวัง จำกัดเข้าพื้นที่ปิด เริ่มระบบ Test&Go
๓.สีส้ม จำกัดการรวมกลุ่ม ปิดสถานบริการ ทำงานจากที่บ้าน คัดกรองก่อนเดินทาง และเปิดระบบแซนด์บ็อกซ์
๔.สีแดง ปิดสถานที่เสี่ยง เปิดเฉพาะสถานที่จำเป็นต่อชีวิต ชะลอการเดินทางข้ามพื้นที่ ใช้ระบบกักตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศ แบบลดวันกักตัว
๕.สีแดงเข้ม จำกัดการเดินทางและกิจกรรม เคอร์ฟิว และใช้ระบบกักตัวผู้เดินทางทุกราย
เราอยู่ระดับ ๓ สีส้ม พร้อมที่จะขยับเป็นสีแดงได้ตลอดเวลา
ข้อมูลล่าสุดพบว่าสายพันธุ์โอมิครอนมีระยะฟักตัวค่อนข้างสั้นคือ ๒-๖ วัน และมีอาการประมาณ ๑-๙ วัน น้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา
ฉะนั้นเรื่องความเร็วในการระบาด ไม่มีข้อกังขาใดๆ อีกแล้ว
อีกเดือนสองเดือนข้างหน้าไทยจะไปถึงจุดไหน?
กระทรวงสาธารณสุข โดย คุณหมอเกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เสนอฉากทัศน์พยากรณ์ในกรณีที่มีการแพร่ระบาดของโอมิครอนใน ๓ รูปแบบ
รูปแบบที่ ๑ ระดับรุนแรงที่สุด
พบการระบาดของเชื้อโควิด-๑๙ และฉีดวัคซีนใกล้เคียงช่วงเดือนธันวาคม ประชาชนให้ความร่วมมือน้อย ไม่มีการป้องกัน
ขณะทำกิจกรรมรวมคน สถานประกอบการ จัดกิจกรรมไม่สามารถปฏิบัติตาม VUCA ได้ ทำให้ควบคุมการแพร่ระบาดได้ยาก โดยใช้เวลา ๓-๔ เดือนกว่าจะควบคุมโรคได้
จะมีการติดเชื้อรายวันถึง ๓ หมื่นราย และมีผู้เสียชีวิต ๑๗๐-๑๘๐ รายต่อวัน
รูปแบบที่ ๒ ระดับปานกลาง
โอกาสติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ฉีดวัคซีนใกล้เคียงช่วงเดือนธันวาคม ขณะที่ทุกภาคส่วนยังคงปฏิบัติตามมาตรการ VUCA อย่างเคร่งครัด
อาจจะพบผู้ติดเชื้อประมาณ ๑.๕-๑.๖ หมื่นรายต่อวัน
ใน ๑-๒ เดือนตัวเลขผู้ติดเชื้อก็ค่อยๆ ทรงตัว และจะลดลงมาตามลำดับ
มีผู้เสียชีวิต ๑๐๐ รายนิดๆ ต่อวัน
และรูปแบบที่ ๓ ระดับดีที่สุด
ผลจากโอกาสติดเชื้อเพิ่มปานกลาง ฉีดวัคซีนได้เร็วขึ้นทุกกลุ่ม ลดกิจกรรมรวมกลุ่มคนจำนวนมาก และปฏิบัติ VUCA อย่างเคร่งครัด
ตัวเลขสูงสุดจะอยู่ที่ ๑.๓ หมื่นราย หลังจากนั้นจำนวนผู้ติดเชื้อจะทรงตัว และลดลง ส่วนผู้เสียชีวิตจะอยู่ที่ ๖๐-๗๐ และจะลดลงในที่สุด
ใน ๓ รูปแบบ อยากได้แบบไหน อยู่ที่ทุกคนให้ความร่วมมือแค่ไหน
ท่องให้ขึ้นใจที่ชุมนุมชน พื้นที่อับอากาศ คือจุดเสี่ยงของการระบาด
แต่อย่างไรเสีย มันมาแน่!
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ย้ำเตือนรายวัน
…ข้อมูลการตรวจหาสายพันธุ์ โอมิครอน ในกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากต่างประเทศ แล้วตรวจพบเชื้อ covid-19 รวมทั้งกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสเชื้อโรคที่ต้องสงสัยในประเทศไทย
จะเห็นว่าอัตราการตรวจพบเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่วันที่ ๙ ธันวาคมมาจนถึงวันที่ ๒๔ ธันวาคม โดยศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก จุฬาฯ จำนวนที่ตรวจพบ โอมิครอน ในกลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และกลุ่มเสี่ยงที่ต้องสงสัยในประเทศไทย เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ขณะนี้ ๗๐-๘๐ เปอร์เซ็นต์ จะเป็นสายพันธุ์ โอมิครอน มากกว่าสายพันธุ์เดลตา
โดยเฉพาะผู้เดินทางมาจากยุโรป และคลัสเตอร์ที่พบในประเทศไทยหลายคลัสเตอร์ ในกรุงเทพฯ เป็นสายพันธุ์ โอมิครอน
จากการที่พบขึ้นรวดเร็วและมี คลัสเตอร์ขึ้นในประเทศไทย รวมทั้งบางคลัสเตอร์ไม่สามารถหาต้นตอ หรือผู้ที่เดินมาจากต่างประเทศได้
แสดงให้เห็นชัดเจนว่าได้มีการระบาดในประเทศบ้างแล้ว
จึงมีความต้องการที่ให้ทุกคน ระวังเคร่งครัดเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการรวมกิจกรรมคนหมู่มาก ถึงแม้ว่าจะฉีดวัคซีนครบ ๒ เข็มแล้ว ก็ยังสามารถที่จะติดเชื้อได้
ยิ่งถ้าอาการไม่รุนแรง ก็จะมีอำนาจในการแพร่กระจายโรคได้มากขึ้น เพราะผู้ติดเชื้อจะไม่ได้ตระหนักและได้รับการตรวจ ก็จะแพร่กระจายไปได้มาก
เราไม่อยากเห็นภาพการระบาด อย่างในประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส…
จะเห็นได้ว่าประเทศแถบยุโรป อเมริกา มีผู้ป่วยลักษณะก้าวกระโดด ฝรั่งเศส อังกฤษ อเมริกา ทะลุหลักแสนต่อคนต่อวัน ปัญหาหลักมาจากประชาชนส่วนใหญ่ไม่สวมหน้ากากอนามัย
ต่างจากคนไทยชนิดหลังเท้าเป็นหน้ามือ
หากทุกคนให้ความร่วมมืออย่างดีเหมือนที่ผ่านมา สถานการณ์ของไทยร้ายแรงสุด จะอยู่ในรูปแบบที่ ๓ ผู้ป่วยรายวันจะสูงสุดที่ ๑.๓ หมื่นราย เสียชีวิตที่ ๖๐-๗๐ คน
ก็เท่ากับช่วงการระบาดของเดลตาในเดือนกันยายนที่ผ่านมา
เป็นช่วงที่ประเทศไทยเริ่ม คลายมาตรการ ล็อกดาวน์ ลดเวลา เคอร์ฟิว เฟสแรก ในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม บางจังหวัด
ฉะนั้นหากสถานการณ์เป็นไปตามนี้ ก็จะไม่เลวร้ายเกินไป
การใช้ชีวิตปกติยังสามารถดำเนินต่อไปได้
แต่ก่อนจะถึงวันนั้น อย่าลืมว่า โอมิครอน ไม่ใช่ เดลตา
การรวมกลุ่มคือหายนะ
เลวร้ายสุดติดเชื้อวันละ ๓ หมื่นราย
ตายเฉียดๆ วันละ ๒๐๐ คน
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า