พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า กรณีมีป้ายโฆษณาภาษาจีน ระบุเกี่ยวกับการรับทำหนังสือเดินทางและขอสัญชาติตามกฎหมายประเทศต่างๆ บริเวณสี่แยกห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร และมีการเผยแพร่ลงในโลกสื่อออนไลน์ มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากนั้น
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ตรวจสอบกรณีดังกล่าวโดยด่วน ถึงที่มาของป้ายโฆษณาดังกล่าว ผู้ใดเป็นเจ้าของ และมีความผิดตามกฎหมายในเรื่องใดบ้าง และติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายในทุกมิติโดยเร็ว โดยล่าสุดตรวจสอบพบว่าได้มีการปลดป้ายดังกล่าวลงมาแล้ว
พร้อมกำชับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ให้ตรวจสอบคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยให้เป็นไปตามกฎหมายคนเข้าเมือง ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตือนว่า การเข้าเมืองจะต้องมีหลักเกณฑ์ เงื่อนไขหรือเอกสารถูกต้องตามกฎหมาย เป็นไปตามกฎหมายคนเข้าเมือง ซึ่งมีโทษทางอาญา ผู้กระทำความผิดไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติต้องได้รับโทษตามกฎหมายทุกกรณี
นอกจากนี้ ทางด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เบื้องต้นได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจลงตรวจสอบ พร้อมประสานความร่วมมือกับเขตห้วยขวางในการหารือและแนวทางการสอบข้อเท็จจริง โดยในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ค.) เวลา 09.30 น. จะมีการลงพื้นที่ไปตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง และตรวจสอบใน 3 ประเด็น คือ 1.เรื่องของป้ายโฆษณาดังกล่าว ในฐานะเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง มีการขอติดตั้งโดยได้รับการขออนุญาตอย่างถูกต้องหรือไม่ 2. เรื่องของการเสียภาษีป้ายโฆษณาครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ และ 3.เรื่องข้อความที่ปรากฎในป้ายโฆษณา มีความผิด หรือกระทบต่อภาพลักษณ์ความมั่นคงของประเทศหรือไม่ ซึ่งทั้ง 3 ประเด็นนี้ ทางนิติกรของสำนักงานเขตห้วยขวางจะมาช่วยพิจารณาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และหากพบความผิดก็จะต้องส่งเรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษให้กับ สน. ห้วยขวางดำเนินคดีต่อไป
เบื้องต้นทาง สน.ห้วยขวาง ทราบข้อมูลของทั้งเจ้าของอาคาร เจ้าของป้าย และผู้ว่าจ้างให้มาโฆษณาป้ายดังกล่าวแล้ว โดยเป็นชาวไทยที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติด้วยเช่นกัน ส่วนประเด็นเรื่องการซื้อขายสัญชาติที่เกิดขึ้นนั้น ตนได้ส่งเจ้าหน้าที่สืบสวนประสานกับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง เพื่อจะได้ตรวจสอบขอเท็จจริงให้เป็นที่ยุติว่าข้อความในป้ายโฆษณาที่ปรากฎขึ้นนั้นหมายถึงอะไร และมีความผิดในไทยหรือต่างประเทศไหม ซึ่งส่วนนี้จะมีการประสานกับ ตม. อีกครั้งเพื่อให้ได้ข้อยุติเพื่อนำข้อมูลมาประกอบ