สันต์ สะตอแมน
“ผมบินไปพบคุณทักษิณที่ฮ่องกงจริงครับ”!
ประโยคเดียวแท้ๆ ทำให้คนที่ยังเป็นสาว-เป็นแส้ กลาย “เป็นหมา” ไปในชั่วข้ามคืน และหากผู้อ่านอยากจะให้อารมณ์ดี ต้องนู้น..
เปิดดูการ์ตูนล้อเลียน “ยุคแสนสำราญ” ของ “บัญชา/คามิน” ในผู้จัดการออนไลน์ ผมน่ะยกนิ้วให้..ช่างคิด-ช่างหยิกกัดซะเหลือเกิน!
เอ้า..แล้วนั่นจะใช่หยิกกัดรึเปล่าแล้วแต่จะคิด แต่ไม่ว่าจะอย่างไรผมก็ให้เห็นด้วยกับคุณเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.-อดีตคนคุก ที่โพสต์เฟซบุ๊ก..
“..ในฐานะนักโทษคนหนึ่ง ที่ถูกจองจำในเรือนจำมาเป็นเวลา 16 เดือน ขอเป็นตัวแทนความรู้สึกของนักโทษทุกคน ไม่อยากให้รัฐบาลเลือกปฏิบัติ หรือปฏิบัติแบบ 2 มาตรฐาน
ต่อนักโทษคนใดคนหนึ่งเป็นกรณีพิเศษ แต่ต้องใช้การปฎิบัติมาตรฐานเดียวกันต่อนักโทษทั้งประเทศ ภายใต้กฎหมาย หรือกฎระเบียบของกรมราชทัณฑ์
จึงสนับสนุนให้รัฐบาลบังคับใช้ และปฏิบัติตามกฏหมายโดยเคร่งครัด ไม่ควรเลือกปฎิบัติ ทั้งกรณีของ น.ช.เชาวลิต ทองด้วง และ น.ช.ทักษิณ ชินวัตร
เพราะพฤติกรรมของนักโทษทั้ง 2 คนนี้ ท้าทายกระบวนการยุติธรรมมาก ถ้ายังจัดการอะไรไม่ได้ ก็นับว่าเป็นความล้มเหลวของกระบวนการยุติธรรมโดยสิ้นเชิง”
ครับ..ความคิดหรือความหวังจะใช้กลยุทธ์เอา “เงินดิจิทัล” 10,000 บาทมาเบี่ยงเบนความสนใจของสื่อ สังคม-ประชาชนแบบลูกไม้ตื้นๆนั้น เห็นจะใช้ไม่ได้กับยุคสมัยนี้
เพราะในท่ามกลาง “คนตาบอดไม่กลัวเสือ” ก็ยังมี “คนตาดีที่รู้ทันทักษิณ” อีกดาษดื่น ที่จะไม่ยอมปล่อยให้นักโทษเทวดาได้เสวยสุขอยู่นอกคุกไปตลอดรอดฝั่งหรอก!
อย่าท้าทายกับไฟอารมณ์ อย่าคิดว่าลำพังคุณพิชิต ไชยมงคล อดีตโฆษกเวทีพันธมิตรฯและอดีตแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนฯ จะไม่อาจสั่นคลอนตึกรพ.ตำรวจได้
นี่..ไม่ได้เตือน-ไม่ได้ขู่ แต่เท่าที่หูได้ยินแว่วๆมา ถ้ารัฐบาลยังเลือกปฏิบัติ หรือปฏิบัติแบบ 2 มาตรฐานให้นักโทษนอนชั้นวิมานอยู่ต่อไป ก็ให้หวาดเสียวใจแทน!
เออ..ส่วนนั่นไม่ได้ 2 มาตรฐาน เพียงแต่เป็นความรู้สึกส่วนตัวเสียมากกว่า ผมหมายถึง “มิสยูนิเวิร์ส 2023” ที่สาวงามจากนิการากัว “เชนนิส ปาลาซิออส” ได้เป็นผู้ครองมงกุฎไป
โดยตัวแทนจากประเทศไทย คุณแอนโทเนีย โพซิ้ว ได้แค่รองชนะเลิศอันดับ 1 มาครอง แต่ดูเหมือนกองเชียร์จะยังข้องใจ สงสัยมีการ “ล็อกมง” กันหรือไม่?
เดือดร้อนคุณแอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ เจ้าขององค์กรมิสยูนิเวิร์ส ต้องออกมาอธิบาย-ไลฟ์สดบางช่วงบางตอน (ขออนุญาตคัดลอกจากมติชนออนไลน์) ว่า..
“..ขอให้ทุกคนเข้าใจว่าเราเป็นเจ้าขององค์กร สิ่งที่เราพัฒนาได้ เราจะทำ สิ่งที่เราก้าวล่วงล้ำความเป็นมืออาชีพ หรือการไม่เคารพตามกติกาที่ดีของบิวตี้โอลิมปิก ที่ต้องรู้แพ้รู้ชนะ
อย่างนั้นเราไม่ทำ..จะให้ทุกคนตีหน้า หรือมาตำหนิว่า ได้คนไทยเป็นเจ้าของแล้วเราจะจิ้มใครก็ได้ มันคงไม่ควรทำ ถูกไหม ถ้าไม่มีกติกาจะแข่งขันกันไปทำไม
กรรมการไม่มีก็ไม่ต้องดูกันหรอก มันไม่ใช่การแข่งขันหรอก ถ้าอย่างนั้นก็แข่งคนเดียว และให้มงกุฎไปเลยก็จบ ซึ่งมันก็ไม่ควร นี่คือเรื่องที่พูดแล้วพูดอีก แต่ก็ต้องพูด..
กรรมการก็มีหลายประเทศ มีคนเอเชียด้วย มีทั้งละติน อเมริกา ยุโรป ทั้งชายทั้งหญิง เราเอาใจทุกคนเป็นไปไม่ได้ แต่เอาตามความถูกต้องเป็นไปได้
แอนสวมหมวกสองใบ ใบแรกคือเจ้าขององค์กรที่เป็นสากลก็ต้องพูดตามสากล ไม่ต้องกลัวว่าคนจะโกรธหรือจะเกลียด เพราะพูดตามเหตุผลว่านี่แหละคือสิ่งที่ใช่
หมวกอีกใบหนึ่งคือเป็นคนไทย เราก็ต้องเชียร์ แอนกอดและให้กำลังใจน้องแอนโทเนีย เขาเป็นคนที่สมบูรณ์แบบทุกอย่าง
การแข่งขันมีแพ้มีชนะ เราแพ้สักพันครั้ง แต่ครั้งสุดท้ายเราชนะ เราไปชนะอย่างอื่นในชีวิต หน้าที่การงาน ครอบครัว เราชนะได้หมด
ความสำเร็จมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ขอให้แอนโทเนียประสบความสำเร็จต่อไป..”
อ่านแล้ว.. ให้คะแนน10/10 เลยเอา!