สันต์ สะตอแมน
พรุ่งนี้-2 มีนา. หนัง “ขุนพันธ์3” ลงโรงฉาย!
แต่วานซืน..สหมงคลฟิล์มฯ-ผู้สร้างได้เปิด “รอบสื่อ” ให้นักข่าวดูก่อนใครตามธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้ว ซึ่งผู้ที่ได้ชมก็คงจะได้นำไปเขียนวิพากษ์-วิจารณ์..
หรือบ้างก็รีวิว-สปอยกันตามหลากช่องทางสื่อสาร อย่างที่แซวกันว่า..มีมือถือเครื่องเดียวก็เป็นนักข่าวได้นั่นแหละ!
ส่วนผมไม่ได้ไปดู ก็อาศัยอ่านตามที่คนนู้นโพสต์ คนนี้โพสต์ เช่นคุณบัณฑิต ทองดี อดีตนายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ได้โพสต์..
“..ช่วงหลังๆ ไม่ค่อยได้ออกมาดูหนังรอบสื่อเท่าไหร่ น่าจะเกือบ 2 ปีแล้ว..กลับมาดูรอบสื่ออีกครั้งก็เพราะเรื่องนี้เลย ขุนพันธุ์ 3 เพราะ traille ชวนให้ติดตามมากๆ
มีอะไรในตัวอย่างที่น่าดูมากมายไปหมด แต่ แต่ แต่ ………………………อย่าเพิ่งคิดว่า ในตัวอย่างใส่ทุกอย่างหมดแล้ว ในหนังก็คงมีแค่นั้นแหละ
ขอสปอยล์แบบอ้อมๆ ว่า ในตัวอย่างมีทีเด็ดเพียงแค่ 30%เท่านั้น ในหนังเต็มมีของเด็ดๆ อีกเพียบ แบบที่ว่าต้องถามโขมว่า เอ็งเล่นแบบนี้เลยเหรอ555555
หนังจัดเต็มมาก ใส่ทุกอย่างที่จะทำให้คนดูนั่งไม่ติดเก้าอี้ ใส่มาทุก genre ในหนังเรื่องเดียวยกเว้นแค่ erotic 5555
โขมปล่อยไม้สุดท้ายของแฟรนไชส์หนังเรื่องนี้แบบไม่กั๊กอะไรไว้ ใส่ความแรงบันดาลใจในวัยเด็กที่มีต่อมังงะญี่ปุ่นยุค 80 แบบพวกหมัดเทพเจ้าดาวเหนือ โรงเรียนนายร้อยเดนตาย
หรือแม้แต่ kamen rider หรือไอ้มดแดงขวัญใจของเด็กๆ ยุค 80 เข้ามาอย่างสนุกสนาน
โดยรวมหนังสนุกมากครับ มีอะไรให้ตื่นเต้นตลอดเวลา แต่หนังยาวไปหน่อย ก่อนเข้าโรงควรเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยจะได้ไม่ต้องนั่งบิดเอวขณะจ้องหนวดอนันดาเหมือนผม..
7/10 ตัดคะแนน 1 คะแนนจากความยาวหนังที่บางช่วงเรื่องไม่ค่อยเดิน และ 1 คะแนนที่ไม่ค่อยมีหน้าสาวๆ ให้ผมดูมีแต่ผู้ชายเต็มจอ 5555
และตัดคะแนนที่ 3 เพราะในหนังมีคำบูลลี่ผมบ่อยมาก BANDIT DAM ใช้บ่อยมากก็รู้แล้วว่าดำจะย้ำบ่อยทำไม 555555”
เนี่ย..ถ้าลองคุณบัณฑิตผู้กำกับตัวดำๆ ให้ 7 จากคะแนนเต็ม 10 ผมก็เห็นจะต้องไปพิสูจน์ให้เห็นกับตาแล้วล่ะ!
ครับ..พูดถึงหนังเรื่อง “ขุนพันธ์” ก่อนจะไปดูหนัง ผมมีเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ จะเล่า..ที่ร้านอาหารบ้านๆ แห่งหนึ่งณ.ตำบลคลองแห อ.หาดใหญ่
ผมนั่งจ้องภาพ “ขุนพันธรักษ์ราชเดช” ในชุดตำรวจเต็มยศ (ยุคนั้น) ที่ติดข้างฝาผนังอยู่นานก่อนจะสะกิด คุณธนิตย์ จิตนุกูล ที่กำลังกรึ่มอยู่ข้างๆ พลางพูด..
“ในฐานะที่เราเป็นคนใต้ พี่กับผมน่าจะทำหนังเรื่องขุนพันธ์เพื่อเชิดชูตำรวจน้ำดีที่สร้างเกียรติประวัติเป็นตำนานที่ยิ่งใหญ่กันดีไหม”
“ดี” คุณธนิตย์หรือ “พี่ปื๊ด”ของผมตอบสั้นแต่ชัดเจน ก่อนถาม.. “พี่สันต์ขอลิขสิทธิ์จากทายาทได้ไหมล่ะ”
“ไม่น่ายาก เพราะเรามีเจตนาจะทำเพื่อเชิดชู-ยกย่องขุนพันธ์นี่น่า” ผมตอบ.. “งั้นเอาเลย” พี่ปื๊ดจับมือผมเขย่าแรงๆ.. “ผมจะเป็นฝ่ายหาทุน ส่วนพี่ติดต่อเรื่องลิขสิทธิ์”
และเหมือนมีใจบันดาลแรง ผมยกหูหาพรรคพวกเพื่อนฝูงใน จ.นครศรีธรรมราช ให้ช่วยเชื่อมต่อพี่หนุ่ยลูกชายท่านขุนพันธ์ไม่เว้นวัน
แต่ระหว่างผมเจรจากับพี่หนุ่ยอยู่นั้น พี่ปื๊ดก็ได้แจ้งข่าว.. “พี่ นายทุนที่เคยคุยกันไว้ ตอนนี้เขามีปัญหาเรื่องเงิน สงสัยต้องเข้าไปปรึกษาเสี่ยแล้วล่ะ”
ตัดภาพฉับ..“เอาซี” เสี่ยเจียง-คุณสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ เจ้าของฉายา “จอมยุทธ์หนังไทย” เจ้าสำนักสหมงคลฟิล์ม ได้ฟังที่ผมกับพี่ปื๊ดยกแม่น้ำทั้งห้าขึ้นมากล่อมก็ตกปากรับคำทันที
“มึงลงไปเซ็นสัญญาเลย แล้วให้ไอ้ปื๊ดกำกับ”.. “ครับประธาน” รับคำเสร็จผมก็บึ่งลงนครศรีฯ คุยกับพี่หนุ่ย-พี่ศรีจบทุกเรื่อง พร้อมเซ็นสัญญิง-สัญญาด้วยความชื่นมื่น!
ก็..เล่าให้ฟังแค่นี้แหละ ส่วนทำไมคุณปื๊ดไม่ได้กำกับฯ ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับหนัง นั่นเป็นด้วยโชคชะตา-ฟ้าลิขิต..
บอกแล้ว..โลกนี้ไม่มีคำว่าบังเอิญ ถูกกำหนดอย่างไร ก็ตามนั้น!
ฉะนั้น..ที่คุณชูวิทย์ต้องเปิดศึกใหญ่กับพรรคภูมิใจไทยอยู่ในขณะนี้ ก็ให้คิดเสียว่า..
ถูกกำหนดไว้แล้ว นั่นแล!