กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แจ้งความคืบหน้าคดีผู้กระทำผิด 6 ราย ที่กระทำผิดเงื่อนไขสมุนไพรควบคุม (กัญชา) 2565 ย่านทองหล่อ
จำคุก 2 เดือน รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 5,000 บาท ขอให้ผู้ประกอบการดำเนินการทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อช่วยกันคุมการใช้กัญชาในสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ
นพ. ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบตีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก แจ้งความคืบหน้ากรณีคดีผู้กระทำผิด 6 ราย จากย่านทองหล่อ ว่า สืบเนื่องจากประเด็นการปฏิบัติการ เมื่อค่ำวันที่ 13 ธันวาคม 2565 กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับตำรวจ สน.ทองหล่อ ลงพื้นที่ผ่านทองหล่อ ตรวจใบอนุญาตประกอบกิจการ/ร้านค้าต่างๆว่าจำหน่ายกัญชาได้ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
เพื่อกำกับติดตามให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับใหม่ลำสุด เรื่อง “สมุนไพรควบคุม (กัญชา)พ.ศ. 2565” พบผู้กระทำผิดจำนวนทั้งสิ้น 6 ราย จำแนกเป็นรถเร่ (food truck) 5 ราย กระทำการจำหน่ายหรือแปรรูปสมุนไพรควบคุม (กัญชา) (พันลำ /จำหน่ายช่อดอก) โดยไม่ได้รับอนุญาต ในจำนวนดังกล่าว พบว่ามี 3 ราย ได้แสดงใบอนุญาตเข้าข่ายเป็นเท็จเนื่องจาก รถเร่ หรือแผงลอย ที่ไม่มีที่อยู่แน่นอนไม่สามารถให้การอนุญาตได้ อีก 1 ราย มีสถานประกอบการชัดเจนแต่จำหน่ายหรือแปรรูปช่อดอกกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาตพนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้เจ้าพนักงานตำรวจ ยึด อายัดของกลาง
สั่งปิด พร้อมส่งเจ้าพนักงานตำรวจดำเนินการ ณ สน.ทองหล่อ ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
“เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลได้ตัดสินลงโทษผู้กระทำผิดกฎหมาย 6 ราย ผลการลงโทษผู้ต้องหา ที่กระทำความผิดเป็นไปตามมาตรา 46 กรณีจำหน่ายหรือแปรรูปสมุนโพรควบคุม โดยมีได้รับอนุญาต มีบทกำหนดโทษเป็นไปตามมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 ระบุโทษ จำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
กรณีนี้ ศาลจึงมีคำสั่งโทษให้จำคุก 2 เดือน รอลงอาญา 2 ปี โดยต้องมีการ ติดตามพฤติกรรม หรือให้ไปรายงานตัวต่อศาลเป็นระยะตามศาลนัด และปรับเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท ทั้งนี้ศาลริบของกลางของผู้กระทำความผิดไว้ทั้งหมด”
อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทย ยังกล่าวอีกว่า “การดำเนินการครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงตัวบทกฎหมายบังคับใช้ได้จริงสำหรับ ผู้ฝ่าฝืนหรือกระทำผิด ต้องโทษตามกฎหมาย จึงขอย้ำไปยังผู้ประกอบการทุกคน ดำเนินการให้ถูกต้องตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อร่วมกันควบคุมกัญชาในสังคมให้เกิดประสิทธิภาพต่อไป”