ผักกาดหอม
“ตู้ห่าว” จะทำให้ “ตู่ห้าว” หรือไม่?
ครับ…ช่วงเวลานี้คอการเมืองสนใจประเด็น “หาวเจ๋อตู๋” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ตู้ห่าว” กันเป็นพิเศษ เพราะมีควาวเกี่ยวพันไปถึงพรรคการเมืองหลายพรรค ในหลากหลายแง่มุมที่แตกต่างกัน
เอาประเด็นซื้อบ้าน ๕๐ หลังๆ ละ ๕๐ ล้านบาท ด้วยเงินสด
ประเด็นนี้ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ชี้แจงมา ๓ ข้อ ดังนี้
๑.บริษัทประกอบธุรกิจด้วยความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี โดยยึดหลักไม่กระทำผิดกฎหมาย บ้านทุกหลังในทุกโครงการ ขายให้เฉพาะคนไทยและนิติบุคคลไทยเท่านั้น
๒.ในการซื้อขายบ้านพร้อมที่ดิน บริษัทกำหนดให้ผู้ซื้อจะต้องชำระเงินผ่านธนาคารเท่านั้น
๓. ผู้ถือหุ้นบริษัทไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องใด ๆ กับการซื้อขายบ้านของบริษัทในทุกกรณี
ลงนาม โดยนายสมบูรณ์ คุปติมนัส เลขานุการบริษัท
ก็ถือว่า เอสซี แอสเสท ใช้สิทธิในการชี้แจงแล้ว
แต่อ่านจบ ตอบข้อสงสัยครบถ้วน หรือสงสัยเพิ่ม เอสซี แอสเสท ก็ต้องรับไปทั้งหมด
ที่ถามกันอยู่คือ เหตุใดผู้ขายและสำนักงานที่ดินไม่รายงานความผิดปกติของการใช้เงินสด
หรือไม่มีหน้าที่ต้องทำ นอกจากขายอย่างเดียว โดยไม่สนใจพิรุธที่ลูกค้าใช้เงินสดซื้อบ้านในโครงการถึง ๕๐หลัง จาก ๖๖ หลัง
หรือเป็นเรื่องปกติที่โครงการอื่นๆของ เอสซี แอสเสท ก็ซื้อกันแบบนี้
ประเด็นถัดมา มีข้อสงสัยว่าทำไมพรรคเพื่อไทยถึงไม่อยากแตะ “ตู้ห่าว” โดยเฉพาะในช่วงหลังถึงกับเงียบกริบ ผิดกับช่วงแรกๆ ที่ขึงขังจะเล่นงานพรรคพลังประชารัฐกรณีเงินบริจาค ๓ ล้านบาท
อาจจะเป็นจุดตายของระบอบทักษิณที่เริ่มต้นโดย “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” อีกครั้ง หลังเคยทะลวงเครือข่ายชินคอร์ปจนยับเยิน
รอบนี้ “เรืองไกร” มือปราบพเนจร ยื่นให้ป.ป.ช. ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินในส่วนเงินลงทุนของ “ศราวุธ เพชรพนมพร” ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ว่า ได้ยื่นบัญชีเงินลงทุนในบริษัท เอฟเวอร์ยูเนียน จำกัด ของคู่สมรสคือ “นุดีพร เพชรพนมพร” มูลค่า ๗,๕๐๐,๐๐๐ บาท โดยถูกต้องครบถ้วน หรือไม่
บริษัท เอฟเวอร์ ยูเนียน จำกัด ในบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.๕) ที่นำส่งนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ที่ผ่านมานี่เอง ณ วันประชุมผู้ถือหุ้น วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๕
มีชื่อ “ตู้ห่าว-ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์” ถือหุ้นลำดับที่ ๑ จำนวน ๘ หมื่น หุ้น
นุดีพร เพชรพนมพร ถือหุ้นลำดับที่ ๒ จำนวน ๗.๕ หมื่นหุ้น
วัทนารีย์ กรณ์ชายานันท์ ภรรยาตู้ห่าว ถือหุ้น ลำดับ ๓ จำนวน ๒ หมื่นหุ้น
เมื่อย้อนไปตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของ “ศราวุธ เพชรพนมพร” ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒ แจ้งชื่อคู่สมรสคือ “นุดีพร เพชรพนมพร” ในส่วนเงินลงทุนมีการแจ้งไว้เพียง ๔ รายการ
ไม่มีการแจ้งรายการเงินลงทุน บริษัท เอฟเวอร์ยูเนียน จำกัด แต่อย่างใด
เหตุใดส.ส.พรรคเพื่อไทยรายนี้จึงไม่แจ้งให้ครบถ้วน
จะหลงลืม หรือบกพร่องโดยสุจริตก็ว่ากันไป แต่ต้องตรวจสอบให้กระจ่าง
“ตู้ห่าว” มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทยและพลังประชารัฐแค่ไหน?
เพจเฟซบุ๊ก The METTAD ระบุถึงไทม์ไลน์ไว้ดังนี้
๒๕๕๑ “ตู้ห่าว” ได้เวิร์กเพอร์มิต เข้ามาทำงานในไทย
๓ สิงหาคม ๒๕๕๔ ตู้ห่าว ซึ่งเดิมมีสัญชาติจีน ชื่อของเขาอยู่ในทะเบียนบ้านพื้นที่แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย กับกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ กรณีเป็นสามีของบุคคลสัญชาติไทย
๒๕๕๕ ตู้ห่าวกับภรรยาถูกคนร้ายคดีเผาสวนงู จ.ภูเก็ต ซัดทอดว่า เป็นผู้จ้างวาน-พยายามฆ่า
๘ มิถุนายน ๒๕๕๖ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ระหว่างวันที่ ๑ ต.ค. ๒๕๕๕-๓๐ ก.ย. ๒๕๕๘ เป็นประธาน เสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับสัญชาติ
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย เป็นผู้พิจารณาอนุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทย
เมีย ตู้ห่าว เป็นหลานของ ประชา พรหมนอก ดังนั้น “ตู้ห่าว” จึงมีศักดิ์เป็นหลานเขย
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็น อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
พบแกนนำเพื่อไทย รมต. บิ๊กตำรวจ ร่วมงานกับ ตู้ห่าว อย่างแน่นแฟ้น รวมถึง ธรรมนัส ที่ตอนนั้นยังอยู่กับเพื่อไทย
บริษัท เอฟเวอร์ ยูเนียน ธุรกิจให้เช่าอสังหาฯ ร้านค้าปลอดอากร ใน จ.ภูเก็ต ปรากฏชื่อ นางนุดีพร เพชรพนมพร (เป็นบุตรสาว อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นภรรยา นายศาวุธ เพชรพนมพร ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย) ถือหุ้นลำดับ ๒ ตั้งแต่ปี ๒๕๕๗
๒๕๕๗ อนุพงษ์ รมว.มหาดไทย เซ็นคำสั่งให้สัญชาติไทยแก่คนต่างด้าว ซึ่งในนั้นมีตู้ห่าวรวมอยู่ด้วย ตามขั้นตอนของมหาดไทย ที่อนุญาตไว้ตั้งแต่ปี ๒๕๕๖ สมัย จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เป็นรมว.มหาดไทย
ตู้ห่าว เปลี่ยนชื่อเป็น “ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์”
ธ.ค. ๒๕๖๐ อัยการมีหนังสือชี้แจงสั่งไม่ฟ้อง ๒ สามีภรรยา ในคดีเผาสวนงู และถือว่าคดีถึงที่สุด
๕ พ.ค. ๒๕๖๔ ตู้ห่าว ( ในฐานะคนสัญชาติไทย) บริจาคเข้า พปชร ๓ ล้านบาท (ตู้ห่าว มีคอนเนกชันทาง ธรรมนัส)
๒๖ ต.ค. ๒๕๖๕ ตำรวจบุกผับจินหลิง คุมตัวนักเที่ยวชาวจีนตรวจหาสารเสพติด หลังบุกจับผับหรูย่านสาทร-เจริญราษฎร์ พบปัสสาวะสีม่วง ๑๐๔ คน เตรียมทำเรื่องเพิกถอนวีซ่า ส่วนเจ้าของผับอยู่ระหว่างขยายผล เชื่อเป็นกลุ่มนายทุนจีน
ในอาคารแบ่งเป็นห้องคาราโอเกะ เกือบ ๒๐ ห้อง ประดับด้วยไฟแสงสี และมีห้องลับเก็บตู้เซฟ ใช้เก็บยาเสพติด หลายร้อยซอง เช่น เคตามีน แฮปป์วอเตอร์ เฮโรอีนผง ๓๒๓ ซอง ยาอี ๙๑ ซอง ยาอีผงบรรจุในซองกาแฟ ๗๑ ซอง ยาอีผง ซองสีเหลือง ๑๖๗ ซอง ยาเคตามีน ๑๖ ถุง เงินสด ๑.๓ ล้านบาท ตู้เซฟ ๖ ใบ
๒๗ ต.ค. ๒๕๖๕ พบ เจ้าของผับคือ ตู้ห่าว ชาวจีนสัญชาติไทย และเคยบริจาคเงินให้ พปชร.
๒๘ ต.ค. ๒๕๖๕ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ชลน่าน รับเพื่อไทยยังไม่ตรวจสอบยื่นเอาผิดเงินบริจาค พปชร. บอกไม่เห็นด้วย กับการยุบพรรค โดยไม่มีเหตุผล
๒๓ พ.ย. ๒๕๖๕ ตู้ห่าวมอบตัว ยันไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
๒๙ พ.ย. ๒๕๖๕ ตำรวจบุกค้นหมู่บ้านทุนจีน พบซื้อเงินสด ๕๐ หลัง กว้านซื้อเกือบยกหมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านหรูในโครงการของ SC ASSET
ครับ…ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เคยปรากฎเป็นข่าวร่วม ๑๕ ปีที่ผ่านมา
ใครเป็นใคร ใครมีสายสัมพันธ์กับใคร มาปฏิเสธกันตอนนี้คงเชื่อได้ยาก
ว่าแต่ “ตู่ห้าว” อย่าได้เกรงใจใคร
น่าจะปัดกวาดให้เรียบ
