ผักกาดหอม
ตกลงสภามีไว้ทำอะไร?
เริ่มรู้สึกว่า ไม่มีสภาก็ไม่เดือดร้อนอะไร
ครับ…ส.ส.เอาสภามาเล่นเกม จนเลอะไปหมด
มีสนามให้เล่น แต่ไม่อยากเล่น ก็ระวังเอาไว้เถอะ ในวันที่ไม่มีสนามให้เล่นอย่าโวยวาย
มันช่างน่าเบื่อ!
ก็ได้ข้อสรุปชัดเจนแล้วครับ ไม่ต้องพิสูจน์กันอีกต่อไป สาเหตุที่สภาล่มซ้ำซากเป็นเพราะนักการเมือง เป็นเพราะ “เล่นเกม”
ไม่ว่าประกอบอาชีพอะไร การซื่อสัตย์ต่ออาชีพที่ทำ ถือเป็นคนมีคุณภาพ
ใครก็ตามมีพฤติกรรมเหยียบย่ำอาชีพตนเอง ต้องแช่งครับ ล่มจม อย่าได้เจริญ
สภาพของสภาตอนนี้ ไม่ต่างหญิงสาวถูกจับขัง แล้วแก๊งหื่นเวียนกันชำเรา
ในวันที่กฎหมายรัฐบาลเข้า ฝ่ายค้านเซ็นชื่อว่ามาทำงานรับเงินเดือน
ถึงเวลาพิจารณากฎหมาย ไม่แสดงตน เพื่อให้สภาล่ม
วันที่กฎหมายของฝ่ายค้านเข้า ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเซ็นชื่อว่ามาสภา
แต่ถึงเวลาพิจารณากฎหมาย ไม่แสดงตนบ้าง ไปอยู่นอกห้องประชุมบ้าง เพื่อให้สภาล่ม
และเมื่อต้องประชุมร่วมรัฐสภา เช่นวันพุธที่ผ่านมา ฝ่ายค้านเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ริบอำนาจ ส.ว. ห้ามไม่ให้มีส่วนร่วมในการเลือกนายกฯ
ก็เข้าสู่รายการถอนแค้น
ส.ส.รัฐบาลกับ ส.ว. ไม่แสดงตน
สภาล่ม ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญค้างเติ่ง
สภาจะปิดสมัยประชุมปลายเดือนกุมภาพันธ์ครับ ฉะนั้นยังมีเวลาให้ประชุมสภาอีกเดือนเศษๆ
ก็จะล่มไปเรื่อยๆ
ในสายตานักการเมือง นี่คือเกมชิงความได้เปรียบ แต่ในสายตาประชาชน พวกนี้ทรยศแม้กระทั่งอาชีพตัวเอง
พูดไปก็เท่านั้น
ยุบสภาเสียเลยจะดีมั้ย
แต่ดูแล้ว คนยุบ ยังไม่พร้อม
ยังปรับตัวเป็นนักการเมืองไม่ค่อยได้
ครับ…ช่วงนี้ ส.ส.ทยอยลาออก ย้ายค่ายกันเยอะเป็นพิเศษ
ไอ้ที่หวังแลนด์สไลด์ก็อย่าฝันหวาน
พรรคที่ยังไม่พร้อม แต่คุยคำโต จะได้ ส.ส.ร้อย ก็เพลาๆ หน่อย
แรกๆ ก็คิดว่าเลือกตั้งเที่ยวนี้ พรรคครอบครัวนักโทษหนีคุกจะลอยลำ ไปๆ มาๆ เริ่มเห็นเค้าลาง ไม่มีใครชนะขาด
มีแต่หายใจรดต้นคอเป็นทอดๆ
กระแสคนเสื้อแดงเปลี่ยนขั้ว แรกทีเดียวฟังหูไว้หู
เพราะพวกที่ชอบ “ทักษิณ” ยังมีอยู่เยอะ
นับวันเริ่มชัดเจน ถีบส่ง “ทักษิณ” มากขึ้นเรื่อยๆ
เพื่อไทยมองคนเสื้อแดงเป็นของตาย แรกๆ ก็คงไม่รู้สึกกันเท่าไหร่ นานเข้าเริ่มรู้ถูกหลอกใช้
บวกกับ “ทักษิณ” บริหารปากมากไปหน่อย ไปเหน็บพรรคก้าวไกลเข้า ปฏิบัติการแยกเขาแยกเราจึงบังเกิด
“ถ้าแฟนคลับชอบแบบเอ็กซ์ตรีมก็ไปที่ก้าวไกล ชอบปากท้องต้องมาก่อนและประชาธิปไตยที่เหมาะสมก็มาเพื่อไทย”
พรรคก้าวไกล ในสายตา “ทักษิณ” คงเป็นพรรคที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ แต่มีความเสี่ยงสูง เลือกแล้วอะดรีนาลินกระฉูดมากกว่าทุกพรรค
ผิดกับพรรคเพื่อไทย ประชาธิปไตยกินได้
แดงตัวแม่อย่าง “อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” ถึงกับควันออกหู
“…ก้าวไกล เป็นพรรคการเมืองแบบ “ซ้าย-กลาง” หรือ “Centre-left politics”
คือพรรคที่มุ่งเชิดชูความยุติธรรม สร้างความเท่าเทียมในสังคม
ชูนโยบายรัฐสวัสดิการ
เน้นลดช่องว่างคนจนคนรวย สนับสนุนมาตรการลดช่องว่างทางเศรษฐกิจ เช่น เก็บอัตราภาษีก้าวหน้า แก้ไข กม.แรงงาน
ไม่เอ็กซ์ตรีม…”
๒ พรรคนี้ฐานเสียงเดียวกัน ใกล้เคียงกันมากที่สุด
แต่เมื่อ “ทักษิณ” บังคับให้ต้องเลือก ก็สนุกซิครับ
เสื้อแดงส่วนหนึ่งแยกตัวไปพลังประชารัฐ
บางส่วนไปรวมไทยสร้างชาติ
จำนวนมากทิ้งเพื่อไทยไปก้าวไกล
ไปภูมิใจไทยก็เยอะ
มาเจอ “จตุพร” ลากไส้รายวันอีก
อย่าหวังว่า แดงทั้งแผ่นดิน จะเกิดขึ้นอีก
พูดถึง ประชาธิปไตยกินได้ ภาพลวงตาที่ “ทักษิณ” สร้างขึ้นมาตั้งแต่เป็นพรรคไทยรักไทย
แต่สิ่งที่ “ทักษิณ” ทำคือประชาธิปไตยโกงได้
คนรุ่นใหม่อาจไม่ตระหนักถึงการคอร์รัปชันของระบอบทักษิณ เพราะถูกตัดตอนความคิดให้เริ่มต้นตั้งแต่รัฐประหาร ๒๕๔๙
ความลุ่มหลงใน ประชาธิปไตยกินได้ จึงเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง
ทั้งๆ ที่ไส้ในของประชาธิปไตยกินได้ คือทัศนคติที่มองประชาธิปไตยเป็นสินค้า
ประชาธิปไตย ในมุมมองของ “ทักษิณ” ไม่ใช่เรื่องสิทธิเสรีภาพ แต่คือการนำเสนอนโยบายประชานิยมสุดขั้ว
อัดฉีดจนประชาชนคิดว่า ประชาธิปไตยกินได้ เป็นเรื่องจริง
ทฤษฎีประชาธิปไตยนำมาซึ่งทุกสิ่ง โดยเฉพาะเศรษฐกิจดี ประชาชนเป๋าตุง ร่ำรวยถ้วนหน้า ดูจะโบราณไปเสียแล้ว
เพราะคอมมิวนิสต์อย่างจีน ฉีกทฤษฎีนี้เสียขาดวิ่น
เศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์จีน ก็สามารถหายใจรดต้นคอเสรีประชาธิปไตยอย่างอเมริกาได้
ฉะนั้นประชาธิปไตยมิใช่ตัวกำหนดการ กินดีอยู่ดีของประชาชน เสมอไป
และประชาธิปไตยมิใช่เครื่องการันตีว่ารัฐบาลจะมีธรรมาภิบาล บริหารประเทศด้วยความโปร่งใส เพราะเราเห็นประจักษ์ด้วยสายตาแล้วว่า ประชาธิปไตยโกงได้เป็นอย่างไร
ครับ… “ทักษิณ” บอกว่า อยากได้ประชาธิปไตยที่เหมาะสมให้มาเพื่อไทย
ควรพูดให้ชัดว่าเหมาะสมกับใคร
เพราะภาพจำที่ผ่านมามีแต่ ประชาธิปไตยโกงได้