วัดความสามารถผู้นำ – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

เหมือนจะเอาใจช่วย

แต่ฟังแล้วแช่งชัดๆ

วานนี้ (๑๓ กันยายน) ทีมเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทยตั้งโต๊ะแถลงข่าว หัวข้อ “มองไทย มองเทศ นานาประเทศมองไทยอย่างไร”

ไฮไลต์อยู่ที่การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ที่ไทยเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ ๑๘-๑๙ พฤศจิกายนนี้

ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยหยามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นนายกฯ มา ๘ ปี ไม่มีวิสัยทัศน์ เป็นเพียงรัฐบาลเผด็จการสืบทอดอำนาจ มือไม่ถึงในเรื่องเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศ

มีภาพลักษณ์ติดลบในสายตาต่างประเทศ

ทำลายหลักนิติธรรม นิติรัฐ

ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน

มีการคุกคามผู้เห็นต่างทางการเมือง

การปิดกั้นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการแสดงออกของประชาชน การจำกัดสิทธิเสรีภาพเรียกคนไปควบคุมตัวโดยไม่เปิดเผยสถานที่ควบคุมตัว ไม่ระบุจำนวนวันเวลาในการควบคุมตัว แล้วเรียกสิ่งที่ละเมิดประชาชนนั้นว่าการปรับทัศนคติ

การได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปก ก็ไม่ได้ช่วยให้ภาพลักษณ์ที่ติดลบตลอด ๘ ปี ดีขึ้น

ครับ…ก็ไม่แปลกใจอะไร เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน และค้านทุกเรื่องมาโดยตลอด

ค้านอีกครั้งจะเป็นอะไรไป

ขออย่างเดียวอย่าให้เหมือนวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๕๒ ที่เสื้อแดง มวลชนของพรรคเพื่อไทยบุกพังการ ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่โรงแรมรอยัลคลิฟบีช พัทยา

งานนั้นประเทศฉิบหายครับ

มีใครออกมาขอโทษสักคำแล้วหรือยัง

โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย

หลายคนยังจำฝันร้ายในวันนั้นกันได้นะครับ “อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง” พรรคพวก “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ผอ.ครอบครัวเพื่อไทยนี่แหละ พาคนเสื้อแดงกว่า ๕๐๐ คน ถือไม้ ถือก้อนหิน หนังสติ๊ก ยันปืน ระเบิดควัน บุกพังโรงแรม

ผู้นำอาเซียนหลายคนในโรงแรม ต้องหนีเอาชีวิตรอด

เจ้าหน้าที่ทูตบางประเทศถึงกับร้องไห้ ตกใจกลัว

ครั้งนั้นเป็นไงครับ ภาพลักษณ์ หลักนิติธรรม สิทธิมนุษยชน การคุกคาม จัดเต็ม

อับอายไปทั่วโลก

เพราะพฤติกรรมที่ออกมา แดนเถื่อนชัดๆ

ถามไปยังพรรคเพื่อไทย แกนนำเสื้อแดง วันนี้รู้สึกผิดกันหรือไม่ คิดจะขอโทษสังคมบ้างหรือเปล่า

อย่าบอกว่าไม่ผิด แค่ไปชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ลาออกเท่านั้นนะครับ เพราะกรณีนี้มีคำพิพากษาศาลฎีกา แปะหน้าผากคนผิดอยู่

เมื่อปี ๒๕๖๒ ศาลฎีกา พิพากษาจำคุก “อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง” พวกอีก ๑๒ คน ๔ ปี

ก็หนีเส้นทางธรรมชาติตามฟอร์มครับ

ฉะนั้นถ้าจะพูดเรื่องการสร้างความฉิบหายให้ประเทศ ด้วยการล้มเวทีประชุมนานาชาติ พรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดงทำมาแล้ว

ฟังพรรคเพื่อไทยแถลงข่าวทุกครั้งเป็นต้องหยิบอดีตมาเปรียบเทียบทุกทีอย่างอดไม่ได้ เพราะสิ่งที่นำมาแถลงข่าวที่เหมือนจะทำให้คนแถลงดูชาญฉลาดนั้น คือสิ่งที่ระบอบทักษิณเคยทำมาก่อนแทบทั้งสิ้น

ชัดเจนที่สุดคือคำแถลงของ “พิชัย นริพทะพันธุ์” ระดับหัวของทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย

ตามนี้ครับ

“…ขาด Rule of Law ต้องยอมรับความจริงว่าระบบยุติธรรมของไทยในสายตาต่างประเทศยังดูย่ำแย่ จากหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ความน่าเชื่อถือของไทยลดต่ำ ต้องหาทางปรับแก้เรื่องนี้

เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำสุด จนกลายเป็นคนป่วยของเอเชีย ตั้งแต่ก่อนมีการระบาดของไวรัสโควิด และป่วยหนักยิ่งขึ้นเมื่อเกิดวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด ทำให้เศรษฐกิจไทยไม่เป็นที่น่าสนใจของต่างประเทศ อีกทั้งความเหลื่อมล้ำของไทยยังสูงสุด

เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าที่สุด หลังจากที่ผ่านพ้นวิกฤตโควิด เศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เกินกว่าที่ตกลงมา แต่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้ายังไม่ถึงที่ตกลงมา

ระบบราชการล้าสมัย เป็นอุปสรรคในการทำธุรกิจ ควรต้องเปลี่ยนเป็น Digital Transformation

การคอร์รัปชันเพิ่มขึ้นมาก ทำให้นักลงทุนต่างประเทศเอือมระอา ต้องกำจัดการคอร์รัปชันให้ได้

โครงสร้างพื้นฐานไม่ได้มีการพัฒนา โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล ทำให้อันดับโครงสร้างพื้นฐานของไทยตกลง รถไฟความเร็วสูงเชื่อมจีน-ลาว แต่ไม่ถึงไทย ต้องรีบแก้ไขปรับปรุง

อุตสาหกรรมที่มีอยู่เริ่มล้าสมัย ไม่มีอุตสาหกรรมต้นน้ำที่สำคัญสำหรับอนาคต เช่น ไมโครชิป และแบตเตอรี่ ต้องรีบเร่งให้เกิดขึ้นจริง

ผู้นำขาดวิสัยทัศน์ ไม่สามารถนำพาประเทศให้พัฒนาต่อไปนี้ อีกทั้งยังเป็นผู้นำสืบทอดอำนาจจากการปฏิวัติ…”

ถามจริงเถอะ ติดตามงานรัฐบาลกันบ้างหรือเปล่า

ขาด Rule of Law จริงหรือเปล่า หรือแค่ศาลพิพากษาแล้วไม่ถูกใจ

เศรษฐกิจแย่ทั่วโลก เพราะโควิดจริง แต่อาจแย่กว่าหากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เพราะวิธีจัดการโควิดของรัฐบาลนี้เพื่อไทยค้านทุกเรื่อง

โกงมากขึ้นอันนี้ชัดเจน ทำให้นึกถึงสมัยทักษิณ

โครงสร้างพื้นฐานไม่ได้มีการพัฒนา ถามจริงเถอะไปอยู่ไหนมา ควรศึกษาข้อมูลก่อนออกมาแถลงข่าว รัฐบาลนี้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมากที่สุดแล้ว ลองนับรถไฟฟ้าใน กทม.ดูว่า เกิดแล้วกี่สาย

โครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล ยิ่งแล้วใหญ่ ถึงได้มีอีอีซีแหล่งนวัตกรรม

ถึงต้องลงทุนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม ๓ สนามบิน

เขาทำไปเยอะแล้วครับ

ส่วนเรื่องผู้นำขาดวิสัยทัศน์ ก็ว่าไปเถอะ เพราะสิ่งที่วัดก็คือผลงาน ไปดูเขาวัดกับระดับโลกจะเห็นชัดเจนกว่า

โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) เปิดเผยรายงานการพัฒนามนุษย์ปี ๒๕๖๔ ประเทศไทยเป็นประเทศที่ ๔ ในอาเซียน ที่ได้รับการปรับระดับการพัฒนามนุษย์อยู่ ในระดับสูงมาก

เขาให้คะแนนตามนี้ครับ

สิงคโปร์ ๐.๙๓๙

บรูไน ๐.๘๒๙

มาเลเซีย ๐.๘๐๓

ไทย ๐.๘๐๐

นี่คือกลุ่มที่ขยับขึ้นไปเทียบประเทศพัฒนาแล้ว

ย้อนไปดูช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ว่าไทยอยู่ระดับไหน

ปี ๒๕๕๔ ไทยอยู่ในกลุ่มระดับกลางๆ ครับ

ได้ ๐.๖๘๒

ไม่ได้เขียนมั่วเอาเองเหมือนที่พรรคเพื่อไทยแถลงข่าวนะครับ

ฝรั่งหัวแดงเขารวบรวมตัวเลขทำสถิติมา


Written By
More from pp
ครม.เห็นชอบ 20,000 ล้านบาท เดินหน้าโครงการบ้านล้านหลัง เฟส 3 ดอกเบี้ย 3.00% ต่อปี 5
ครม.เห็นชอบ 20,000 ล้านบาท เดินหน้าโครงการบ้านล้านหลัง เฟส 3 ดอกเบี้ย 3.00% ต่อปี 5 ปีแรก เงินงวดคงที่นานถึง...
Read More
0 replies on “วัดความสามารถผู้นำ – ผักกาดหอม”