อยากเห็นผลงาน ‘ชัชชาติ’ – ผักกาดหอม

www.plewseengern.com

ผักกาดหอม

ต่ออีกสัปดาห์ครับ

ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคดี “นายกฯ ๘ ปี” ครั้งต่อไปในวันที่ ๑๔ กันยายน

ที่น่าสนใจคือศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดส่งสำเนาบันทึกการประชุม และรายงานการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ ๕๐๑ วันอังคารที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๑ ที่มีวาระการประชุม รับรองบันทึกการประชุม ครั้งที่ ๕๐๐ วันศุกร์ที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๑

รายละเอียดในบันทึกการประชุมครั้งที่ ๕๐๐ ผ่านตากันไปแล้ว

“สุพจน์ ไข่มุกด์” รองประธาน กรธ. พูดในที่ประชุมว่า

“….หากนายกรัฐมนตรีที่ดํารงตําแหน่งอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ ประกาศใช้บังคับ เมื่อประเทศไทยยังคงมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็ควรนับระยะเวลาที่ดํารงตําแหน่งดังกล่าว รวมเข้ากับระยะเวลาที่ดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ ด้วย…”

“มีชัย ฤชุพันธ์” ประธาน กรธ. ให้ความเห็นว่า

“เมื่อพิจารณาบทเฉพาะกาลในมาตรา ๒๖๔ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญนี้จะเข้ารับหน้าที่ และให้นําความในมาตรา ๒๕๓ วรรคสาม มาใช้บังคับแก่การดํารงตําแหน่งรัฐมนตรีด้วยโดยอนุโลม”

การบัญญัติในลักษณะดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า แม้จะดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับก็สามารถนับรวมระยะเวลาดังกล่าวรวมกับระยะเวลาที่ดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ ได้

ซึ่งเมื่อนับรวมระยะเวลาที่ดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องมีระยะเวลาไม่เกินแปดปี…”

แต่เอกสารหลุดวันก่อน มีการระบุว่า บันทึกการประชุมครั้งที่ ๕๐๐ นี้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญยังไม่ได้รับรอง

แล้วการประชุมครั้งที่ ๕๐๑ ที่บอกว่ามีการรับรองบันทึกการประชุมครั้งที่ ๕๐๐ หมายถึงอะไร การจดรายงานครบถ้วนหรือไม่

สุดท้ายอาจไม่จบวันที่ ๑๔ กันยายน

ครับ…ไปดูน้ำท่วมกรุงและปริมณฑลกันดีกว่า

ในโซเชียลยังตอบโต้กันครื้นเครง ว่าใครต้องรับผิดชอบ

เห็นวิธีคิดของคนบางกลุ่มแล้ว ต้องทำใจ

เรื่องน้ำท่วม ฝนตก ดินถล่ม โรคระบาด มันไม่ได้แบ่งเขตจังหวัดหรือประเทศครับ

แต่ในโซเชียลเถียงกันคอเป็นเอ็น ถ้าน้ำท่วมรังสิต ปทุมธานี สำโรง สมุทรปราการ ห้ามด่าผู้ว่ากทม. เด็ดขาด เพราะอยู่นอกเหนือพื้นที่รับผิดชอบ

ไม่เกี่ยวกับ “ผู้ว่าชัชชาติ”

ต้องรอให้น้ำไหลมาท่วมดอนเมือง บางนา ก่อนค่อยว่ากัน

ความคิดแบบนี้ใช้ไม่ได้ครับ

กรุงเทพฯและปริมณฑลแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ดูน้ำท่วมใหญ่ปี ๒๕๕๔ เป็นตัวอย่าง มันต้องรับผิดชอบร่วมกันหมด ทั้งรัฐบาล ผู้ว่าฯกทม. ผู้ว่าจังหวัดปริมณฑล

ไม่มีใครทำงานเป็นพระเอกได้

“ผู้ว่าชัชชาติ” ไม่ใช่เทวดาครับ น้ำเหนือมากรุงเทพฯก็จมได้ หากรับมือไม่ดีพอ

ในอดีตบางคราวรับมือสุดฝีมือแล้ว ก็ยังท่วม

ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะการเอาชนะธรรมชาติไม่ใช่เรื่องง่าย

เพียงแต่มีความคิดสองมาตรฐานเกิดขึ้น ก็ทำนองถ้ารักมากดมตูดก็ว่าหอม

หลายวันมานี้ลองเปลี่ยน “ชัชชาติ” เป็น “อัศวิน ขวัญเมือง” ซิครับ

โซเชียลไฟลุก ด่า “อัศวิน ขวัญเมือง” เป็นหมูเป็นหมา ไล่ให้ลาออกสถานเดียว เพราะแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงไม่ได้

แต่พอเป็น “ชัชชาติ” เห็นมั้ยครับ ต้องให้โอกาสผู้ว่า เพราะเจอฝนร้อยปี “ผู้ว่าชัชชาติ” ทำเต็มที่แล้ว จะสนับสนุนต่อไป ฯลฯ

ที่จริงก็ไม่ผิด ใครจะสนับสนุนใครเป็นจริตทางการเมือง แต่มันต้องขึ้นกับข้อเท็จจริง

ข้อเท็จจริงวันนี้คืออะไร?

ผู้ว่าชัชชาติบอกว่า ปัจจุบันมีวิกฤตเกิดขึ้น ๔ เรื่อง

๑.คลองหลักในกทม.น้ำเต็มความจุทุกคลอง ยกเว้นคลองแสนแสบที่ยังพอรับได้อีกไม่มาก

๒.ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านกทม.พอดี ส่งผลให้เกิดกำลังดึงดูดฝนเข้ามา จึงมีโอกาสเกิดฝนตกเพิ่มขึ้นมากกว่านี้

๓.ปริมาณน้ำเหนือถูกปล่อยลงมาจำนวนถึง ๑,๘๕๐ ลูกบาศก์ต่อวินาที แม้จะยังไม่สูงเท่าช่วงวิกฤต แต่ปริมาณน้ำที่ขึ้นสูงระดับนี้กทม.ต้องสูบน้ำข้ามประตูน้ำเพื่อระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้การทำงานค่อนข้างลำบาก

และ ๔.ช่วงวันที่ ๗-๑๐ ก.ย.นี้ เป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูง

โดย ๔ ปัจจัยนี้ประกอบกันทำให้กทม.มีน้ำท่วมขังในบางจุด

ทั้ง ๔ เรื่องนี้คือข้อเท็จจริง เป็นแบบนี้มาหลายสิบปีแล้ว

น้ำทะเลไม่ได้เพิ่งจะหนุนในยุคนี้

น้ำเหนือไม่ได้ทะลักเฉพาะในยุคนี้

ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านกทม. มาแล้วนับแสนๆล้านๆปี

คลองหลักในกทม.ล้นตลิ่งมานานนมแล้ว

ผู้ว่ากทม.คนก่อนๆ เจอหนักกว่านี้ก็หลายคน

ฉะนั้นขอให้แฟนคลับ “ผู้ว่าชัชชาติ” ได้เข้าใจ อย่าไปคิดว่า “ผู้ว่าชัชชาติ” เก่งกว่าคนอื่น เหนือกว่าคนอื่นทั้งหมด เพราะการคิดแบบนั้นอาจต้องเสียใจในภายหลัง

เป็นผู้ว่ากทม.มา ๓ เดือนกว่า เรายังไม่เห็นศักยภาพที่แท้จริงของ “ผู้ว่าชัชชาติ” ว่าอยู่ในระดับไหน และมีความสามารถแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่

นอกจากการไลฟ์สดตรวจงาน วิ่ง เดิน กินก๋วยเตี๋ยว เข็นรถ

แต่ในระดับสั่งการในฐานะผู้ว่ากทม. แทบไม่เห็นการไลฟ์สดให้ชมกัน

ก็เป็นไปได้ว่าแอบสั่งการกันเงียบๆ “ผู้ว่าชัชชาติ” อาจมีอีกมิติหนึ่งคือไม่อยากโชว์ก็เป็นได้

เท่าที่เห็นผลงานเชิงประจักษ์ของ “ผู้ว่าชัชชาติ” มีอยู่เรื่องหนึ่ง คือลงนามในประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง จัดให้มีสถานที่เพื่อใช้สำหรับการชุมนุมสาธารณะ

ลานคนเมือง เขตพระนคร

ใต้สะพานรัชวิภา (ใกล้ซอยวิภาวดีรังสิต ๓๖) เขตจตุจักร

ลานจอดรถหน้าสำนักงานเขตพระโขนง เขตพระโขนง

ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา เขตมีนบุรี

ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ เขตทุ่งครุ

สวนมณฑลภิรมย์ เขตตลิ่งขัน

พื้นที่ทั้งหมดนี้ถูกจัดให้เป็นพื้นที่ที่ชุมนุมได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่เป็นผลงานที่ไร้ประโยชน์ เพราะไม่มีใครไปใช้บริการ กลุ่มเป้าหมายต้องการพื้นที่ถนน และย่านเศรษฐกิจกลางเมืองมากกว่า

งานของผู้ว่ากทม.ยังมีอีกมากครับ การพัฒนาเมืองยังรอคนมีความสามารถอยู่

ทำคลองให้ใสแบบคลองโอ่งอ่าง ทำอุโมงค์ทางลอด เช่นที่แยกมไหสวรรย์ สร้างสมัยผู้ว่าอัศวิน แล้ว “ผู้ว่าชัชชาติ” ยิ้มแป้นไปไลท์สดวันเปิดใช้นั่นแหละครับ

นโยบาย ๒๑๕ ข้อ ที่ใช้ตอนหาเสียง บอกว่าคัดสรรกลั่นกรองจากปัญหาจริงของชาวเมืองกรุง ผ่านอาสาสมัครและการเข้าพื้นที่พบกับคนที่อยู่อาศัยทั่วกรุงเทพฯ อยู่บนรากฐานของข้อมูลสถิติที่เป็นวิทยาศาสตร์ คิดสร้างสรรค์ร่วมกับนักวิชาการชั้นแนวหน้าจากหลายสถาบันการศึกษา และพร้อมที่จะลงมือดำเนินการได้ทันทีด้วยฝีมือของผู้บริหารคุณภาพ

อยากเห็นแล้วครับ


Written By
More from pp
“ปิยบุตร” อัดรัฐบาลใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ ตั้งข้อหากวาดหลายข้อหา ออกหมายจับและเลือกจับช่วงเวลากลางคืน มุ่งทำให้ประชาชนและผู้ชุมนุมอ่อนล้า
รัฐบาลทำเป็นใจกว้าง รับฟัง แต่อีกด้านก็ไล่จับแกนนำและใส่ร้ายป้ายสี พร้อมเรียกร้อง ตำรวจ ทหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ให้อยู่ข้างประชาชน
Read More
0 replies on “อยากเห็นผลงาน ‘ชัชชาติ’ – ผักกาดหอม”