8 กันยายน 2565-นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการ ระบุว่า คำชี้แจงของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ย้อนแย้งกันเองแบบหาตรรกะเหตุผลไม่ได้ว่า
พอกลับเข้าพรรคเพื่อไทยได้ไม่นาน นายจาตุรนต์ก็เร่งสร้างราคาให้ตัวเองเพื่อหวังจะได้กลับมามีบทบาทอีกครั้ง หลังจากที่ประชาชนเริ่มจะลืมว่านายจาตุรนต์คือใคร สมัยที่เป็นรัฐมนตรีทำผลงานอะไรไว้บ้าง
ทั้งนี้ ความเห็นของนายมีชัยถือเป็นอีกเหตุผลหนึ่งในฐานะพยาน ซึ่งสามารถให้ความเห็นได้ในฐานะอดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ แต่สุดท้ายแล้วศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้วินิจฉัยเอง ไม่ใช่นักการเมืองคนใดคนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ฝ่ายค้านเดินเกมส์กดดันศาลรัฐธรรมนูญ และควรต้องระมัดระวังว่าจะเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ด้วย แต่หากนายจาตุรนต์ไม่มีอะไรให้ทำจริงๆ ก็ลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านก็ได้ ไม่ใช่ทำตัวเป็นกูรูรายวัน เผื่อว่าการเลือกตั้งสมัยหน้า คนตระกูลฉายแสงลง ส.ส.เขตจะได้ไม่ถูกชาวบ้านปฏิเสธจนสูญพันธุ์เหมือนที่ผ่านมา
ส่วนกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ระบุว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม หยุด ประเทศไทยจะได้ไปต่อ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไปต่อ เป้าหมายแลนสไลด์ของพรรคเพื่อไทยจะยิ่งเป็นไปได้มากขึ้นนั้น ดูเหมือนพรรคเพื่อไทยยังคงหลอกตัวเองด้วยคำว่าแลนสไลด์เป็นรายวัน
ทั้งๆ ที่หากเปิดหูเปิดตาดูโลกแห่งความเป็นจริงบ้างก็จะพบว่า ก่อนจะนึกถึงแลนสไลด์นั้น เอาชนะคู่แข่งในพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกันอย่างพรรคก้าวไกลให้ได้ก่อนจะดีกว่า เพราะข่าวที่ออกจากคนพรรคเพื่อไทยทุกวันนี้ แทบจะหาเนื้อหาสาระอะไรไม่ได้ มีแต่สลับหน้ากันออกมาแดกดันเสียดสีรายวัน
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาอย่างไร ท่านนายกฯ ก็พร้อมน้อมรับคำวินิจฉัย ไม่ตีโพยตีพายแล้วหนีไปต่างประเทศเหมือนอดีตผู้นำบางคนอย่างแน่นอน