‘อุ๊งอิ๊ง’ หนูน้อยหมวกแดง #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

“ทักษิณ” จะเชื่อใคร…

ระหว่างกองเชียร์ กับกองแฉ!

นักกฎหมายฝั่งกองเชียร์ บอกว่า “ทักษิณ” รับโทษจำคุกไปแล้ว ฉะนั้นไม่ต้องกลัว ๑๓ มิถุนายนนี้ เป็นไปไม่ได้ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำสั่งให้กลับไปติดคุกซ้ำ

ศาลไม่มีอำนาจทำเช่นนั้น

“นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์” นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย แบกสมาคมทนายฯ มาการันตีเองเลยว่า

“…ที่ศาลใช้อำนาจไต่สวนกรณีการส่งตัวอดีตนายกทักษิณไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ จึงไม่ได้เป็นการใช้อำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๔๖ หากแต่เป็นการใช้อำนาจของศาลเองตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๘๙ ความว่า

หมายขังหรือหมายจำคุก ต้องจัดการให้เป็นไปตามนั้นในเขตของศาลซึ่งออกหมาย เว้นแต่บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่นในประมวลกฎหมายนี้ หรือกฎหมายอื่น

เมื่อความปรากฏตามที่มีผู้ร้องว่าอดีตนายกฯ ทักษิณ มิได้ถูกจำคุกตามหมายจำคุกของศาล จึงต้องมีการไต่สวน หากการไต่สวนได้ความว่าการใช้อำนาจของผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในการส่งตัวอดีตนายกฯ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ และการที่แพทย์ของโรงพยาบาลดังกล่าว มีความเห็นให้อดีตนายกทักษิณพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นไปโดยชอบด้วยมาตรา ๕๕ แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. ๒๕๖๐ ก็ถือได้ว่าอดีตนายกฯ ทักษิณได้ถูกจัดการตามหมายจำคุกแล้ว

โดยถูกจำคุกตามหมายจำคุกของศาลที่โรงพยาบาลตำรวจตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๕๕ ของกฎหมายราชทัณฑ์ อันเป็นกฎหมายอื่นตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๘๙ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแล้วทุกประการ…”

ถ้า “ทักษิณ” เชื่อตามนี้ วันที่ ๑๓ มิถุนายน เดินทางไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเองเลยครับ

ยืดอกไปเลย!

ให้สมกับอดีตผู้ป่วยวิกฤตหนัก เป็นตายเท่ากัน ห่างหมอไม่ได้

แสดงความกล้าหาญออกมาให้ประชาชนได้เห็น

หากทุกอย่างออกมาตามที่ทนายนรินท์พงศ์ว่า รับประกัน ร้อยบาทเอาขี้หมากองเดียว เลือกตั้งคราวหน้าพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์สมใจอยาก

มาดูฝั่งกองแฉกันบ้าง

“คมสัน โพธิ์คง” อดีตอาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ความเห็นไว้ดังนี้ครับ…

“…เรามาทำความเข้าใจว่าทักษิณต้องกลับไปจำคุก ถ้าศาลชี้ว่าการไปอยู่ของทักษิณไม่ได้ปฏิบัติตาม ป.วิฯ อาญา มาตรา ๒๔๖ จะอ้างว่าได้รับพระราชทานอภัยโทษแล้วไม่ได้

๑.การอภัยโทษที่ผ่านมา เป็นเพียงหลักเกณฑ์นักโทษคนใดเข้าเกณฑ์จะได้รับพระราชทานอภัยโทษ ไม่ใช่การอภัยโทษเป็นรายบุคคล และเป็นการตราตามวาระพิเศษต่างๆ ไม่สามารถใช้ได้ตลอดกาล

๒.คนได้รับพระราชทานอภัยโทษตามพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษฯ ต้องได้รับโทษมาแล้วและได้รับการเลื่อนชั้นเป็นนักโทษชั้นดีขึ้นไป แต่ทักษิณกำลังจะถูกชี้ว่า ได้รับการจำคุกตามหมายจำคุกของศาลหรือไม่ ถ้าศาลชี้ว่าการที่เรือนจำส่งไปชั้น ๑๔ ขัดกับ ป.วิฯ อาญา มาตรา ๒๔๖ เท่ากับยังไม่ได้รับโทษจำคุก

๓.ตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ฯ กำหนดให้นักโทษใหม่เป็นนักโทษชั้นกลาง ซึ่งพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษฯ กำหนดไว้ว่าจะไม่ได้รับการอภัยโทษ

๔.เมื่อยังไม่ได้รับโทษจำคุกจึงยังไม่ได้เป็นนักโทษชั้นใดเลย การเลื่อนชั้นนักโทษไม่มีเหตุเจ็บป่วยให้เลื่อนชั้น

๕.เมื่อไม่ได้เป็นนักโทษชั้นใดเลยต้องไปรับโทษก่อนเพื่อได้รับสถานะนักโทษชั้นกลางก่อน ซึ่งไม่อาจได้รับพระราชทานอภัยโทษได้

๖.การอภัยโทษที่ราชทัณฑ์ทำให้ทักษิณไปจึงเป็นการอภัยโทษที่ไม่เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาฯ เป็นการอภัยโทษที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

๗.ส่วนที่ทักษิณได้รับการพักโทษภายหลังจากได้รับการอภัยโทษให้ลดโทษก็ไม่เข้าเงื่อนไขเช่นเดียวกัน จึงเป็นการพักโทษที่่ไม่ชอบด้วยกฎหมายไปด้วย

เมื่อเป็นการอภัยโทษที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ต้องกลับไปรับโทษเสียก่อนตามเงื่อนไข ๑ ปี และไปรอการรับพระราชทานอภัยโทษครั้งใหม่ ซึ่งต้องมีพระราชกฤษฎีกาฯ ออกมาใหม่ตามวาระพิเศษต่างๆ

เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้…”

“ทักษิณ” อ่านแล้ว คงไม่ไปศาลวันที่ ๑๓ มิถุนายนแน่นอน

เพราะจะสิ้นอิสรภาพแบบฉับพลัน!

ครับ…ประเด็นข้อกฎหมายไม่หนีจากนี้ไปมากนัก

แต่ประเด็นทางการเมือง ผลพวงจากการไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะชี้อนาคตรัฐบาลแพทองธาร ในทันที

จะอายุสั้นกว่าที่คิด!

“ทักษิณ” กับรัฐบาลแพทองธาร ถูกหลอมเป็นเนื้อเดียวกัน จนไม่สามารถแยกออกจากกันได้

หลักฐานเชิงประจักษ์เรื่องที่ “ทักษิณ” ไม่ได้ป่วยวิกฤต ย่อมส่งผลต่อการบังคับโทษอย่างแน่นอน เพราะเป็นการเริ่มต้นบังคับโทษที่ไม่ถูกต้อง

หาก “ทักษิณ” หนี หรือต้องติดคุก สภาพรัฐบาลแพทองธาร จะยิ่งกว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์

เพราะ “ทักษิณ” เข้ามาเสือกทุกเรื่องในรัฐบาลแพทองธาร ทำให้ภูมิต้านทานต่ำเตี้ยเรี่ยดิน

ขณะที่ยิ่งลักษณ์ถูกแทรกแซงน้อยกว่า เพราะระยะทางไม่อำนวย พี่ชายดูแลไม่ทั่วถึง ยังพอที่จะเรียนรู้การเป็นผู้นำด้วยตนเอง จนสามารถอยู่ในตำแหน่งได้เกือบ ๓ ปี

แต่กับ “แพทองธาร” นั้นต่างออกไป

แน่นอนครับ “แพทองธาร” จะอยู่ในภาวะช็อก

ความใหม่ในการเมืองและระยะเวลาการดำรงตำแหน่งไม่ถึงปี แต่ต้องมาเจอสถานการณ์วิกฤตหนักห่างพ่อไม่ได้ เป็นตายเท่ากันนี้จะหันหน้าไปพึ่งใคร

“ภูมิธรรม” ไม่ใช่พ่อไม่อาจทำแทนได้ทั้งหมด

“แพทองธาร” จึงต้องเจอสถานการณ์ที่ยากลำบากกว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างแน่นอน เพราะยังมิได้เรียนรู้การเป็นผู้นำ

ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทยซึ่งกำลังขับเคี่ยวกับพรรคเพื่อไทยอย่างหนัก จะได้ประโยชน์จากการไม่สามารถอยู่ดูแลพรรคเพื่อไทยอย่างใกล้ชิดของ “ทักษิณ”

สงครามเย็นระหว่างแดงกับน้ำเงินจะพลิกโฉมทันที

เป็นเรื่องยากที่พรรคเพื่อไทยจะเข็นนโยบายที่มีความสุ่มเสี่ยงไม่ว่าจะเป็น แจกเงินหมื่น กาสิโน พนันออนไลน์ ฯลฯ เพราะแรงขับจาก “ทักษิณ” ไม่เพียงพอเสียแล้ว

เปรียบเทียบให้เป็นบวกหน่อยสภาพ “อุ๊งอิ๊ง” ไม่ต่าง หนูน้อยหมวกแดงในดงหมาป่า

เมื่อคนตัดไม้ไม่อยู่เสียแล้ว จะร้องตะโกนให้ใครช่วย

แล้วจะมีคนช่วยหรือเปล่า

หรือช่วยยำ.

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
“รมว.นฤมล” เปิดคูหาไทยในงาน International Green Week 2025 โชว์ความเป็นเลิศของสินค้าเกษตรไทย ชู “ผำ” ในเมนูบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ดันเป็นซูเปอร์ฟู้ดของโลก
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานเปิดคูหาไทย ภายในงาน International Green Week 2025 จัดขึ้นภายใต้ธีม “Agri-future: From...
Read More
0 replies on “‘อุ๊งอิ๊ง’ หนูน้อยหมวกแดง #ผักกาดหอม”