5 กันยายน 2565 09.00 น. ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแอนเจลา เจน แม็กดอนัลด์ (Ms. Angela Jane Macdonald) เอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อแนะนำตัว สรุปสาระสำคัญการหารือ ดังนี้
นายอนุชาฯ กล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตฯ และเป็นเกียรติที่ได้ให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตฯ ในวันนี้ ทราบว่าเป็นครั้งแรกที่เอกอัครราชทูตได้เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล ซี่งเอกอัครราชทูตฯ ชื่นชม และทราบดีว่ารองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฯ มีภารกิจมาก ซึ่งถือโอกาสนี้แสดงความยินดีที่รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้รับหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่ง
โดยทั้งสองฝ่ายได้กล่าวถึงผลลัพธ์และความสำเร็จของการประชุมระหว่างหน่วยงานต่างๆ ของทั้งสองประเทศในช่วงที่ผ่านมา และที่จะมีขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งเชื่อมั่นว่าผลสำเร็จจากการประชุมจะทำให้เป็นการขยายการพัฒนาการความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่าง ๆ
เอกอัครราชทูตฯ ได้สอบถามถึงสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทย ซึ่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองกล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เคารพและปฏิบัติตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ โดยได้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 65 แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ทางคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพลเอก ประยุทธ์ ฯ ได้ส่งเอกสารชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนระยะเวลาในการพิจารณาคงไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากเป็นอำนาจและการพิจารณาของศาลฯ
ในส่วนของความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทย-ออสเตรเลีย นั้น เอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่ารัฐบาลใหม่ ของออสเตรเลียให้ความสำคัญกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือว่าเป็นภูมิภาคที่มีผลต่อบริบท และมีความสำคัญต่อการกำหนดยุทธศาสตร์
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตได้กล่าวว่า รัฐบาลออสเตรเลียให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่อง สิ่งแวดล้อม การปล่อยก๊าซเรือนกระจก ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน
ซึ่งในโอกาสนี้ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฯ กล่าวว่าสอดคล้องอย่างมากกับการกำหนดนโยบายของไทยที่ให้ความสำคัญกับ โมเดลเศรษฐกิจ BCG รวมถึงสอดคล้องกับการกำหนดหัวข้อหลักในการจัดการประชุมเอเปค “Open. Connect. Balance.” ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนพฤศจิกายนนี้
ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือกันในประเด็นที่เป็นประโยชน์กับทั้งสองประเทศอีก เช่น พลังงาน และการศึกษา โดยรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฯ ได้กล่าวว่าหากเอกอัครราชทูตมีข้อติดขัดประการใดในการทำงานพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่เป็นประโยชน์กับประเทศ และประชาชนของทั้งสองฝ่าย