นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การประชุม Paris Peace Forum เป็นโอกาสสำคัญที่ผู้นำประเทศต่างๆ องค์การระหว่างประเทศ และภาคประชาสังคม จะร่วมระดมสมอง และถอดบทเรียน เพื่อหาทางออกที่เข้มแข็งและยั่งยืน ในประเด็นสำคัญของโลกหลังโควิด-19
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงความสำเร็จของไทยในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมของไทยอยู่ในหลักพัน และมีผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 60 คน ไทยยินดีแบ่งปันบทเรียนจากความสำเร็จของไทยในการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 กับทุกภาคส่วน ดังนี้
(1) การยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งเป็นเสาหลักสำคัญในการรับมือนี้ และการสร้างฐานชีวิตวิถีใหม่ให้สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในปี 2030
(2) ระบบการแพทย์ การสาธารณสุข และบุคลากรทางการแพทย์ที่เข้มแข็ง รวมทั้งการทำงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านกว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ เพื่อให้บริการกับประชาชนอย่างครอบคลุม
สำหรับการประชุม Paris Peace Forum ครั้งที่ 3 จะจัดวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 ผ่านระบบออนไลน์ ระหว่างเวลา 14.00-15.30 น. (เวลาท้องถิ่นกรุงปารีส ซึ่งตรงกับเวลา 20.00-21.30 น. ของประเทศไทย) มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือระหว่างประเทศในการแก้ไขวิกฤติการณ์โควิด-19 โดยผู้ที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมการประชุม ได้ที่ https://parispeaceforum.org/become-a/
อนึ่ง Paris Peace Forum เป็นองค์กรอิสระ ริเริ่มโดยนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส เพื่อเสริมสร้างสันติภาพ และระบอบพหุภาคีในโลก โดยนายกรัฐมนตรีเคยร่วมพิธีเปิดการประชุม Paris Peace Forum ครั้งที่ 1 รวมกับผู้นำอีก 64 ประเทศ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2561 ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส