นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา..
ท่านเป็น “ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่” คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วานนี้ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในฝั่ง “บุรุษเพศ” ซึ่งท่านผู้อ่านน่าจะได้ผ่านตากันไปบ้างแล้ว
เอาเป็นว่า ผมจะไม่ลงในรายละเอียด-ข้อมูลทางวิชาการให้เสียเวลาอีก ขอหยิบเอาแค่ที่นายแพทย์ธีระวัฒน์ ขึ้นต้น..
“ปั่มปั๊ม 21 ครั้งต่อเดือน ปลอดมะเร็งต่อมลูกหมาก” ก็น่าจะเป็นอันเข้าใจตรงกัน!
หรือหากจะมีใครสงสัย “ปั่มปั๊ม” อีหยั่งวะ-อะไรรึ? ผมก็จะช่วยขยายความให้ว่า การมีเพศสัมพันธุ์ หรือการ “เอากัน” ของผู้หญิงกับผู้ชายนั่นแหละ!
คุณหมอธีระวัฒน์ท่านคงจะเล็งเห็นว่า “ต่อมลูกหมาก” กำลังเป็นปัญหาด้านสุขภาพต่อบรรดาท่านผู้ชายอยู่ไม่น้อย จึงได้ศึกษาหาข้อมูลจนไปเจองานวิจัยชิ้นหนึ่งเข้า
และได้กรุณานำมาเปิดเผยเพื่อที่ให้บุรุษเพศทั้งหลายได้ตระหนักรู้ เผื่อใครปฏิบัติตาม-เอาอย่างได้ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่อมลูกหมากได้
ซึ่ง..21 ครั้งต่อเดือนสำหรับการ “ขับเคลื่อนน้ำกาม” นั้น จะว่ามากก็มาก จะว่าน้อยก็น้อย ผมหมายถึงถ้าอยู่ในวัยรุ่น-วัยหนุ่ม อย่าว่าแต่ 21 เลย..
ต่อให้ 31 ครั้งเต็มเดือนเลยก็ยังไหว ดีไม่ดีจะเกินเอาเสียด้วย!
แต่กับผู้สูงวัย ประเภท 60 ปีขึ้นไป และส่วนใหญ่ก็อยู่ในสภาวะเสี่ยงก่อเกิดต่อมลูกหมากเสียด้วยแล้ว อย่าว่าจะ 21 ครั้งต่อเดือนเลย..
พยายาม-ฝืนๆ เอาแค่ 10 ครั้งต่อเดือนก็ไม่รู้จะไหวมั้ย?
นี่..ไม่ได้หมายจะดูแคลน หรือเอาตัวเองวัด แต่แหมคนเกษียณแล้วจะยังให้เอาได้วันละหนก่อนหรือหลังอาหารอยู่ก็ดูจะเป็น “เฒ่าตัณหากลับ” ไปมั๊ง?
กระนั้น จะเอาได้-ไม่ได้อย่างไรก็อย่าไปวิตกกังวล และอย่าไปฝืนสังขาร (เอา) ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น หรือถ้าไม่ไหว-ไม่ได้แล้ว มันจะเป็นก็ต้องปล่อยมันเป็น..
เพราะเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ บางทีก็อยากให้คิดกันเสียว่า เป็น “กรรม” ของแต่ละคน บางคนดูแลตัวเองอย่างดี กินดี ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ปุ๊บปั๊บไปเสียแล้วก็มีถมถืด!
อย่าง “ต่อมลูกหมาก” ที่คุณหมอธีระวัฒน์ให้ข้อมูล ต้องเอาให้ได้ 21 ครั้งต่อเดือนจึงจะลดความเสี่ยงได้ ถ้ามีคนคิดพิเรนท์ๆ ถาม..
เอ้า..ยังงั้นหลวงลุง-หลวงพ่อตามวัดวาไม่เป็นต่อมลูกหมากโตกันไปหมดรึ?
เห็นทีจะทำให้อ้ำๆ อึ้งๆ ไปเหมือนกัน ด้วยไม่รู้จะยกเอาเหตุอะไรขึ้นมาอธิบาย!
ครับ..คุยกันเรื่องต่อมลูกหมากก็เลยนึกขึ้นได้ ตอนนี้ “ผู้กำกับภาพยนตร์” คนดังท่านหนึ่งกำลังป่วยด้วยโรคนี้นัยว่าอยู่ในขั้นที่ 4 แล้ว อาการไม่ค่อยสู้ดีนัก
เป็นที่วิตกกังวลของบรรดาลูกศิษย์ลูกหาเป็นอย่างมาก ซึ่งผมเองก็อยากประกาศชื่อ-แซ่ให้เป็นทราบ แต่เมื่อทางผู้ป่วยและญาติขอให้ปิดบังไว้ก่อนไม่อยากรบกวนผู้อื่น
ก็ต้องขอโทษที่ต้องบอกกล่าวกันเหมือนไม่ได้บอก แต่จะยังไงก็ต้องบอกว่า..ขอให้ผู้กำกับภาพยนตร์ท่านนี้ได้หายวัน-หายคืน..
ฟื้นตัว กลับมาสร้างผลงานคุณภาพดีๆให้คนรักหนังไทยได้อิ่มเอิบใจต่อไป!
ส่วนผมก็จะลองปฏิบัติตามที่คุณหมอธีระวัฒน์ชี้แนะด้วยความมานะ-อดทน..
ดูสิ..จะได้สักกี่มื้อ..แฮ่ะๆ!