คปภ. รุดช่วยเหลือประกันภัยเหตุสลดรถกระบะชนเสาไฟฟ้า “โค้งอันตราย” พบรถกระบะคันเกิดเหตุมีแค่ประกัน พ.ร.บ. ย้ำนำระบบประกันภัยช่วยเหลืออย่างเต็มที่

๓ มิถุนายน ๒๕๖๕-ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน บน 3698 ปราจีนบุรี เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า (โค้งอันตรายบริเวณฝั่งตรงข้ามศาลอาญา) ถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน ๕ ราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวน ๒ คน ถูกนำส่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเปาโลโชคชัย ๔ เหตุเกิดเมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๕ นั้น เบื้องต้นได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์และสำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ ในฐานะเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจสอบการทำประกันภัยพร้อมเร่งอำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้ประสบภัย

ตลอดจนติดตามรายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งให้ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการประกันภัยให้กับผู้ประสบภัยและครอบครัว เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม

ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และสำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ ในฐานะเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ ว่า รถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บน 3698 ปราจีนบุรี ได้ทำประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นคุ้มครองวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ สิ้นสุดวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๕ โดยคุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ๕๐๐,๐๐๐ บาทต่อคน กรณีบาดเจ็บสูงสุดไม่เกิน ๘๐,๐๐๐ บาทต่อคน

กรณีสูญเสียอวัยวะ ๒๐๐,๐๐๐-๕๐๐,๐๐๐ บาทต่อคน กรณีทุพพลภาพอย่างถาวร ๓๐๐,๐๐๐ บาทต่อคน และกรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ในจะได้รับค่าชดเชยรายวัน ๒๐๐ บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน ๒๐ วัน และจากการตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่ารถยนต์กระบะคันเกิดเหตุไม่ได้ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจไว้แต่อย่างใด

สำหรับการจ่ายค่าสินไหมทดแทนของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้โดยสารทั้ง ๔ ราย ในเบื้องต้นครอบครัวผู้เสียชีวิต จะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากการประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) รายละ ๕๐๐,๐๐๐

ทั้งนี้ ผู้ประสบภัยส่วนใหญ่เป็นชาวจังหวัดบุรีรัมย์ โดยสำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ ได้ประสานงานกับสำนักงาน คปภ. จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนต่อไป

ส่วนผู้ขับขี่ที่เสียชีวิต ในเบื้องต้นครอบครัวผู้เสียชีวิตจะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) จำนวน ๓๕,๐๐๐ บาท (ค่าปลงศพ) สำหรับผู้บาดเจ็บที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลเปาโลโชคชัย ๔ ทางสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงาน คปภ. และสำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ ได้ประสานโรงพยาบาลเพื่อแจ้งสิทธิประโยชน์ที่ผู้บาดเจ็บจะได้รับจากระบบประกันภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. จะบูรณาการการทำงานร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทยและสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บในอุบัติเหตุครั้งนี้มีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ ไว้ด้วยหรือไม่ หากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ประสบภัยมีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก ก็จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้ทุกประการ

“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้ และพร้อมจะดูแลในด้านประกันภัยอย่างเต็มที่ ทั้งนี้อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลาและกับทุกคน โดยเฉพาะการเดินทางในช่วงฤดูฝนอาจทำให้พื้นผิวการจราจรมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จึงขอให้ผู้ใช้รถตรวจสอบสภาพความพร้อมของรถ รวมทั้งเมาไม่ขับปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และเพื่อความอุ่นใจ ควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย

โดยเฉพาะการประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) การประกันภัยรถภาคสมัครใจ และการประกันภัยประเภทอื่น ๆ เพื่อให้ระบบประกันภัยช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัย สามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน คปภ. ๑๑๘๖” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย


Written By
More from pp
“จีรเดช ส.ส.พปชร” เดินหน้าสานฝันเกษตรกร จ.พะเยา ผลักดันสร้างอ่างกักเก็บน้ำให้ครอบคลุมพื้นที่ ช่วยเพิ่มรายได้ให้ลืมตาอ้าปากได้
6 กรกฎาคม 2566 นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ชาวพะเยาส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางด้านเกษตรกรรม ปัญหาหลักในตอนนี้ คือ...
Read More
0 replies on “คปภ. รุดช่วยเหลือประกันภัยเหตุสลดรถกระบะชนเสาไฟฟ้า “โค้งอันตราย” พบรถกระบะคันเกิดเหตุมีแค่ประกัน พ.ร.บ. ย้ำนำระบบประกันภัยช่วยเหลืออย่างเต็มที่”