เปลว สีเงิน
สนใจได้…….
แต่อย่าไปให้ความสำคัญมากนัก กับการเมืองช่วงใกล้เปิดสภา ๒๒ พฤษภา.นั่นน่ะ
แต่…เออ
ย้อนหลังกลับไป เมื่อ ๒๒ พฤษภา.ปี ๒๕๕๗ ก็วันนี้ เมื่อ ๘ ปีที่แล้ว “พลเอกประยุทธ์” นำคณะคสช.เข้าควบคุมอำนาจปกครองประทศในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
คือสมัยยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ช่วงนั้น การบริหารประเทศเกิดตกอยู่ในภาวะ “รัฐบาลผีหัวขาด”
เนื่องจาก กรณีการย้าย “นายถวิล เปลี่ยนศรี”
ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า การปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
“เป็นการก้าวก่าย แทรกแซง แต่งตั้ง โยกย้าย เนื่องด้วยปรากฎข้อเท็จจริงว่า พล.ต.อ เพียวพันธ์ เป็นพี่ชายคุณหญิง พจมาน เป็นเครือญาติของ นางสาวยิ่งลักษณ์
เชื่อได้ว่า การกระทำครั้งนี้ ไม่ได้ทำเพื่อประเทศชาติ หรือประชาชน แต่เป็นการทำเพื่อพวกพ้อง เป็นการกระทำอันขาดคุณธรรม จริยธรรม
ศาลรัฐธรรมนูญ จึงมีมติเอกฉันท์ เมื่อ ๗ พค.๕๗
“นายกฯยิ่งลักษณ์” ใช้ตำแหน่งแทรกแซงโยกย้าย ขัดรัฐธรรรมนูญ มาตรา ๒๖๖ มาตรา ๒๖๘ ทำให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตาม มาตรา ๑๘๒
“ไม่อาจอยู่รักษาการต่อไปได้”
และรัฐมนตรีที่ร่วมโยกย้ายนายถวิล ก็พ้นความพ้นตำแหน่งด้วย!
เมื่อบ้านเมืองตกอยู่ในสภาพนั้น ครม.รักษาการ ทั้งขาดการยอมรับจากประชาชน ทั้งไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ
บ้านเมืองเกิดการจลาจล ปั่นป่วน วุ่นวาย ยาวนาน-ต่อเนื่อง
พลเอกประยุทธ์ “ผบ.ทบ.” ขณะนั้น จำต้องนำคณะคสช.เข้าควบคุมอำนาจปกครองประเทศฯ ในที่สุด
เพื่อรักษาความสงบของบ้านเมืองและนำประเทศกลับคืนสู่ภาวะปกติ!
ซึ่งก็ทำได้ แม้เป้าหมายที่เข้ามาแก้ไข จะไม่สำเร็จทุกเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ก็ตาม
แต่ด้านพัฒนาประเทศชาติ ด้านเอาใส่ดูแลความเป็นอยู่ประชาชน โดยเฉพาะผู้ด้อยโกาส คนแก่-คนฒ่า รัฐบาล
คสช.วางรากฐานเป็น “เสาเข็มอนาคต” ชาติ เป็นที่น่าพอใจ
จนมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประกาศใช้ เมื่อปี ๒๕๖๐
และได้รัฐบาลเลือกตั้งเข้าบริหารประเทศตามวิถทางประชาธิปไตยอีกครั้ง ในปี ๒๕๖๒
“รัฐสภา” โหวตเลือก “พลเอกประยุทธ์” ในบัญชีรายชื่อนายกฯพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกฯจากการเลือกตั้ง
จะว่าไปแล้ว……
ช่วงพฤษภา.มีวัน-เวลาในหลายเหตุการณ์เวียนบรรจบ ทั้งเรื่องพฤษภาทมิฬ ปี ๒๕๓๕ ทั้งเรื่องเสื้อแดงเผาบ้าน-เผาเมือง ปี ๒๕๕๓
แล้วก็เรื่อง คสช.เข้าควบคุมอำนาจปกครองประเทศฯ ๒๒ พฤษภา.๕๗
และเหมือนบังเอิญ ๒๒ พฤษภา.นอกจาก รัฐสภาเปิดสมัยประชุมสามัญ ประจำปี ครั้งที่ ๑ แล้ว ยังเป็นวันเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.และผู้ว่าฯเมืองพัทยาด้วย!
แค่นี้ ก็ดูไม่มีอะไร
ถึงแม้ฝ่ายค้านจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลรายตัว หรือพรบ.งบประมาณประจำปี ๖๖ จะเข้าสภาก็ตาม
ซึ่งทั้ง ๒ เรื่องนี้ ฝ่ายค้านจะถือโอกาสปฏิบัติการ “คว่ำรัฐบาล” ได้ตามกลไกรัฐสภาก็จริง
แต่ก็นั่นแหละ ทำได้…. แต่ไม่สำเร็จหรอก!
ตราบใดที่กฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ๒ ฉบับ ยังไม่ผ่านวาระ ๒-๓ และยังไม่ผ่านขั้นตอนสู่การโปรดเกล้าฯ
ด้วยผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เพื่อความชัวร์ ได้เลือกตั้งบัตร ๒ ใบ
จึงทำให้มีสภาพเหมือนคน “ติดเกาะ” และมีแม่ไก่ตัวเดียว
จะฆ่าแม่ไก่กินเดี๋ยวนี้เลย
หรือจะต้องเลี้ยงไว้ เพื่อรอกินไข่ไปอีกซักระยะล่ะ!?
ง่ายๆ อย่างนี้ ผมจึงบอก ที่เอะอะ เกรียวกราว “ข่าวการเมือง” เรื่องนายกฯ สำรอง เรื่องนายกฯ คนนอก บอกเป็นนัยว่าเที่ยวนี้ “เปลี่ยนนายกฯ” ได้สำเร็จแน่ นั้น
จะสน ก็สนไป แต่ไม่ต้องเครียดจนท้องผูกหรอก!
มันก็มีไอ้ “หัวขาว-หัวดำ” คน-สองคน ที่เขารู้สันดานแต่ดั้งเดิมกันทั้งนั้น
ไม่มีใครเขาให้ “ราคา-ค่างวด” หรอก แม้กระทั่งกับฝ่ายค้านเองก็เถอะ
คือพอถึงเทศกาลต้องใช้เสียงโหวต “ชี้เป็น-ชี้ตาย” ในสภาที ก็เป็นเวลา “หากิน” ของพวกนี้เขาที
อัพเกรด-อัพราคา โดยอุปโลกน์ตัวเป็นหัวหน้าฝูง ทั้งที่ไม่มีใครเขาให้ราคา เที่ยวเร่ขอเขากินข้าวไปเรื่อยเพื่อกระซิบ
“สนมั้ย…ผมมีมือมาขาย”!
ไม่ต้องมีคลิปเสียงเปิดประจานที่ไหนหรอก พฤติกรรม-พฤติการณ์มันฟ้องในตัวอยู่แล้ว “ทุกครั้ง” ในนัดโหวตสำคัญ ก็หน้านี้ หัวสีนี้แหละ..ประจำ
ที่มีข่าวตอนนี้ว่า ฝ่ายจ้องล้มรัฐบาล มีการซื้อกันถึงหัวละเป็นสิบๆล้าน เพื่อให้โหวตล้มนายกฯนั้น
เสนอขาย อาจมี
แต่ฝ่าย “เสอนซื้อ” ไม่มีแน่
เหตุที่ไม่มี เพราะไม่มีใครโง่ถึงขนาดนั้นน่ะซี!
คิดดูซิ รัฐบาลนี้ จะครบเทอม ๔ ปี ต้องเลือกตั้งใหม่แน่ๆ ในต้นปี ๖๖ อยู่แล้ว
แล้วจะมีไอ้บ้าตัวไหน จะหน้ามืดยอมเสียเงินเป็นร้อยๆ ล้านเพื่อซื้อมือล้มรัฐบาล แค่หวังได้เป็นรัฐบาล-เป็นนายกฯอีกไม่ถึง ๑๐ เดือน?
อย่าว่า ๑๐ เดือนเลย ถ้าล้มได้จริงๆ ในเดือนกรกฏา-สิงหา.โดยเขายุบสภาซะก่อน
ตุลา-พฤศจิกา.ก็ยังไม่แน่ใจว่า ฝ่ายที่ชิงอำนาจได้ จะดวลมีด-ดวลปืน แย่งกันเป็นนายกฯ ได้ลงตัวหรือยัง และกว่ารัฐสภาจะโหวต กว่าจะตั้งครม.สำเร็จ
สิ้นปี ๖๕ สิ้นเทอมรัฐบาลพอดี!
แล้วอย่างนี้ ใครจะโง่ไปซื้อเสียง-ซื้อมือโหวต ยิ่งฝ่ายค้านด้วยแล้ว ใครโง่ไปซื้อ หัวหน้าหมารู้เข้า เตะออกจากคอกใต้ถุนบ้านไปเลย เพราะมันทำให้หัวหน้า “เสียหมา” ไปด้วย!
ชั่วดีถี่ห่าง ด้านการคิดสะระตะ ลุงป้อมยังเจ๋ง อย่างเลือกตั้งซ่อมแทนปารีณา ที่ราชบุรี
ใครๆ ก็นึกว่า พลังประชารัฐต้องส่งคนลงเพื่อรักษาพื้นที่แน่ เพราะเป็นเขตแดนประสิทธิภาพปารีณา ยังไงๆ ก็แพ้ไม่เป็นอยู่แล้ว
แต่พลิกล็อก พลังประชารัฐ “ไม่ส่ง”!
ใครมองด้านไหนผมไม่รู้
แต่สำหรับผม มองว่า ถ้าส่งคนลงสมัคร ขี้หมู-ขี้หมา ต้องควัก ๕๐ ล้านขึ้น เพื่อแลกกับ ๑ เก้าอี้สส.
เงินไม่ต่ำกว่า ๕๐ ล้าน แลก ๑ เสียง นับเทอมเวลาในสภาที่เหลือ มิถุนา-กรกฎา-สิงหา แค่ ๓ เดือน
ถึงกันยา.สภา “ปิดสมัยประชุม” ไปเปิดเอาต้นปี ๖๖
แล้วมันคุ้มมั้ยเนี่ย?
สู้เก็บ ๕๐ ล้านนี้ไว้ ไปเลือกตั้องเทอมใหม่ต้นปี ๖๖ ไม่ดีกว่าหรือ?
ผมจึงมองว่า ลุงป้อมเนี่ย เห็นไม่รู้..ไม่รู้..อย่างนั้นเถอะ จริงๆ แล้ว ยิ่งกว่าเซียนไฮโล มองทะลุฝาครอบถ้วย เห็นเม็ดในเลยเชียวแหละ!
กับพรรคเศรษฐกิจไทย ร้อยเอกธรรมนัสนั่นก็เถอะ เขาทำพรรคเอง เมื่อออกตลาด เขาก็ต้องเล่นบทผู้นำ จะให้เล่นบท “พรรคอะไหล่” ได้ไง ทักษิณจะได้ด่าว่า “โง่เหมือนนายกฯ ประยุทธ์” น่ะซี
ถ้าไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ตามจังหวะและสถานการณ์ โฉ่งฉ่างตลอดกาล จะไม่มีธรรมนัสอยู่ถึงวันนี้หรอก
ฉะนั้น ธรรมนัส คิดโกรธนายกฯ คิดแค้นนายกฯ คิดอยากหักนายกฯ เป็นธรรมดาคิด
แต่มี ๒ เหตุผล ที่ธรรมนัสไม่วู่วาม
๑.ไทมิ่ง
๒.ลุงป้อม
ฉะนั้น เดือนพฤษภา.นี้ อย่างที่เคยบอก จะมีอะไรให้ดู “ตื่นตา-ตื่นใจ” หลายเรื่อง แต่ไม่ต้องตกใจ
ทุกชีวิตในโลกนี้ ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าหมดแล้ว
เสน่ห์ชวนค้นหาของมัน มีอย่างเดียว
คือ โลกนี้ จะมีกี่ล้านของล้านล้านล้านล้านล้านวันในล้านล้านของล้านล้านล้านล้านปีก็ตาม
แต่เราทุกคน……
มีสิทธิ์ “รู้ได้” ทีละวันเท่านั้น!
-เปลว สีเงิน
๓ พฤษภาคม ๒๕๖๕