เอาเลย…ทอน…..”เดือนหน้า”ลงถนนเลย
ถ้าไม่ลงตามพูด “ลูกหมา” ห้าร้อยชาตินะ!
เห็นโฆษกี “ช่อ-พรรณิการ์” กระดี๊กระด๊าหน้าเหมือนนางขมูขี คุยโขมง
มากันเป็นหมื่น!
ปิยบุตร “ผู้ชำนาญกฎหมายทางไปสู่คุก” ก็เหมือนกัน ตัวเองเป็นทั้งสส.เป็นทั้งเลขาฯพรรค
มี “รัฐสภา” เป็นสถานที่ให้ใช้สำหรับแก้ปัญหาการบ้าน-การเมือง ตามวิถีประชาธิปไตย
แต่กลับหลอกให้ธนาธร “หัวหน้าพรรค” ลงไปเล่นการเมืองในถนน ซึ่ง “นอกกติกา” ประชาธิปไตย
แถม “ผิด” ตาม “พรป.พรรคการเมือง” ฉบับปัจจุบัน “เต็มตีน”!
เมื่อวันเสาร์นั้น ……….ปิยบุตรไปกะเขาเหมือนกัน แต่ไปแบบลีลาพอให้พวกลูกพรรคและแมงเท่าส้มเห็น
ประมาณว่า ข้าไม่ได้เก่งแต่ปากนะเว้ย ตัวก็เก่ง
แต่ด้วยรู้กฎหมาย จึงรู้หลบเป็นปีก-รู้หลีกเป็นหาง กร่างอยู่ข้างตีนธนาธรพอให้คนเห็น
ไม่ต้มยำวาทกรรมทรงเครื่องเหมือนตอนอยู่หน้าไมค์ในรั้ว ปล่อยให้เพื่อนรักไปสู่ทางตักษัยเต็มกระทอกคนเดียว
จับผิด-จับถูกกันมาก เรื่องปริมาณคนมาร่วมม็อบ
บ้างว่ามาก บ้างว่าไม่มาก
ในความเห็นผม นั่นไม่ใช่ประเด็น ก็ไปนัดม็อบในย่านชุมชน แถมพื้นที่แคบๆ
แบบนั้น ไม่ถึงต้องนัดม็อบหรอก
แค่มีหมามากัดกันย่านนั้น คนก็มุงดูหมาเป็นร้อย เมื่อคนเห็นคนมุง ก็จะมามุงในมุง จากร้อยเป็นพัน
ฉะนั้น เรื่องคนมาก-คนน้อย ไม่ใช่คำตอบขีดเส้นใต้
ที่ทอนเมาคนปนเปสกายวอล์คเมื่อวันเสาร์ แล้วคึกจัดตะโกน “เดือนหน้า” จะลงถนนนั้น
ลงแล้วเพื่อไม่ให้เสียหน้า ขอแนะให้ทอนม็อบทั้งในกรุง-นอกกรุง จากวันที่ ๒๘ ธค.-๒ มค.๖๓ จะตรงสเปก
คืน ๓๑ ต่อ ๑ มค.เขาเคาน์ดาวน์กันแถวไหน ก็นัดไปชุมนุมใกล้ๆ แถวนั้น
ตามต่างจังหวัด ได้ทั้งใต้-กลาง-เหนือ-อีสาน-ตะวันออก แหล่งกางเตนท์รับน้ำค้างปีใหม่มีแถวไหน
ทอนก็นัดตั้งวงตะโกน “เผด็จการออกไป-ประชาธิปไตยทักษิณกลับมา” แถวนั้น
รับรอง ถ่ายรูปออกมา……เห็นส้นตีนคน “เป็นล้าน” ถูกใจขมูขีแน่!
พูดกันจริงๆ นะ ถ้าตั้งเวทีในถนน เอากันให้รู้หมู่-รู้จ่ากันไปข้างละก็
ผมเชื่อ ธนาธร…กล้า
แต่ ช่อ กับ ปิยบุตร ผมไม่เชื่อ ว่า ๒ คนนี้ จะกล้า
คือกล้ากินในถนน นอนในถนน สู้ในถนน และพร้อมตาย-พร้อมเข้าคุก “คาถนน” เหมือนธนาธร?
ผมดูไทยพีบีเอส ที่ไลฟ์สดธนาธร ด้วยถือเป็นภารกิจตามติดของช่องนี้ต่อตำแหน่ง “นายกฯโซเชียล” เมื่อวันเสาร์ พอเห็นได้ว่า พวกที่มา เป็นพวกไหน?
พวกอาชีพเคลื่อนไหวรับจ้าง พวกอาจารย์ พวกนิสิต-นักศึกษา “สาวกปิยบุตร” ที่เก่งในรั้วมหา’ลัย มีซักกี่หัวกัน?
เห็นแต่พวกรุ่น “โลงเรียกพี่” เยาว์ขึ้นมาหน่อยก็รุ่น “น้องมุด-ขาประจำ”
จัดหมวดหมู่กันจริงๆ จะได้ ๒ หมวด
-หมวดเอ็นจีโอ ในคราบอนาคตใหม่
-หมวดนปช.แดงทักษิณ ปรับสีเป็นส้ม
สรุปแล้ว ถ้าทอนจะลงถนน จัดชุมนุมอย่างแดงนปช.เมื่อปี ๕๒-๕๓ ก็จะมีแค่ “มวลชนยืมกันใช้” แดงแปลงเป็นส้ม มารับซองกฐิน-ผ้าป่าอย่างที่เป็นอยู่
ที่จะมาปักหลักนอนอ้างข้างแรมนั้น คงมีทอนกับเพื่อนที่เคยร่วมงานมวลชนสมัยเป็นนักศึกษาคน-สองคนเท่านั้น
ช่อ สวยเกินจะกล้านนอนให้บูดคาถนน
ปิยบุตรคงบอก รู้งี้…ไปนอนปลุกระดมอยู่กับศรีภรรเมียที่ฝรั่งเศสสบายกว่า!
คือ ไม่ว่าจะมองด้านไหน หาเหตุผลจะให้คนพร้อมใจลงถนนไปร่วมปักหลักชุมนุมกับธนาธรไม่ได้เลย
รัฐบาลนี้ ก็มาจากเลือกตั้ง …………
คลอดจากหีบเลือกตั้ง หีบเดียวกัน-รูหย่อนบัตร รูเดียวกัน กับพรรคอนาคตใหม่
แล้วมีเหตุผลอะไร เมื่อตัวเองทำผิดกฎหมาย ก็ลงถนนเที่ยวตะโกน รัฐบาลนี้เป็นเผด็จการ ต้องออกไป
ต้องให้อนาคตใหม่อยู่ ให้ธนาธรเป็นนายกฯ
อย่างนั้น ถึงจะเป็นประชาธิปไตย!?
พวกมึงบ้าหรือดี หือ…….
หรือรับงาน “นอกชาติ” มาป่วน หวังสร้างรอยแยกในบ้านเมืองอย่างฮ่องกง เพื่อให้ “นอกชาติ” ฉวยโอกาสเข้ามาแทรก
เห็นหรอกน่า……..ว่าทุกเคลื่อนไหวธนาธร ไอ้มนุษย์หัวแดง ทั้งในคราบนักข่าว นักการทูต นักสิทธิมนุษยชน และเอ็นจีโอ แทรกซึมเข้าแซะทุกระยะ!
ประเด็น “ใครเป็นใคร” ในแฟลชม็อบนั้น “หมื่นทิวา พันราตรี -รูปนามแห่งกลลวง” เขาโพสต์เฟซ ไว้อย่างนี้
หมื่นทิวา พันราตรี -รูปนามแห่งกลลวง
หลายคน ที่เป็น FC ติดตามเพจหมื่นฯมานาน จะรู้ว่าทีมงานของหมื่นฯไม่เคยพลาด ทุกม็อบ ทุกเวทีและทุกสมรภูมิ
เพราะฉะนั้น ทุกเรื่องที่นำมาเล่าสู่กันฟัง หรือตั้งข้อสังเกต ล้วนเป็นสิ่งที่ “ได้เห็นกับตาได้ยินกับหู” ทั้งสิ้น!!!
๑๔ ธ.ค.๖๒ ก็เช่นกัน…
น้องๆ ในทีมหมื่นทิวาฯ ตั้งความหวังว่า จะได้เห็นหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ หน้าใสๆ มาร่วมชุมนุม มันจะทำให้หัวจิตหัวใจเลือดลมของทีมงานพุ่งพล่านได้บ้าง
ความรู้สึกที่ตั้งความหวังแบบนี้ก็น่าจะคล้ายๆกับทีมงานของ “นาทอนและพลพรรค”
แหมมมมมม ก็ “Target group” ของพวกพี่เค้าเป็น “หนุ่มสาวคนรุ่นใหม่” ก็ต้องหวังว่า คนรุ่นใหม่จะมาร่วมชุมนุมสินะ
แต่พอถึงเวลาจริง อ้าววววว ….
มีแต่ลุงๆ ป้าๆ หน้าคุ้นๆ เจอกันทุกงาน ทางทีมงานเลยขอเก็บภาพเป็นหลักฐาน เอ๊ย..เป็นที่ระลึก !!!
ส่วนลุงป้า ก็ไม่รีรอ โพสต์ท่าให้ถ่ายแต่โดยดี ได้ยินแว่วๆ ว่า จะเอาไปเบิกค่าตัว 55555 …
——————————
ประเด็นที่ต้องคิด คือ …
“คน GenY หายไปไหน”
——————————
จากภาพรวมที่ได้เห็นกับตาตัวเองในการชุมนุมครั้งนี้ … ยุวชน คนรุ่นใหม่ กลุ่ม “GenY” (อายุ18-25 ปี) ที่ตั้งใจมาร่วมชุมนุมจริงๆ มีน้อยมากๆ มีไม่ถึง ๓%
แสดงว่า “กลุ่มเป้าหมาย” ของ “นาทอนและพลพรรค” ไม่ให้ความสำคัญ “ไม่ให้ราคา” ในการชุมนุมครั้งนี้!!
โดยส่วนตัวแล้ว หมื่นฯ ขอมองในแง่ดีว่า “คนรุ่นใหม่” เริ่มเรียนรู้และเห็นตัวอย่างความพินาศของม็อบฮ่องกง!!!
กลุ่ม “GenY” พวกเค้าฉลาดพอที่จะรู้ว่า ยังไม่มีเงื่อนไขหรือความเสียหายอะไรกับประเทศชาติที่จะออกมาชุมนุมในตอนนี้ พวกเค้าฉลาดพอที่จะรอดูผลในทางคดีของนาทอนและพลพรรค ก่อนที่จะออกมาเคลื่อนไหว
โดยเฉพาะในการชุมนุมในครั้งนี้ “GenY” กลุ่มเป้าหมายของนาทอน รู้ว่า ทำเพื่อปกป้องนาทอน ทำเพื่อกดดันศาลและองค์กรอิสระ !!!!
ทุกๆ “Campaign” ของนาทอนและพลพรรคที่ออกมาเพื่อเรียกร้องความสนใจ หวังกระตุ้นยอดขายจากคนรุ่นใหม่ก่อนหน้านี้ รวมทั้ง “Campaign” ยกเลิกเกณฑ์ทหาร จึง “ล้มเหลวไม่เป็นท่า” !!!!
สรุปการชุมนุมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (๑๔ธ.ค.๖๒) หากมองที่เปลือก มองแค่ผิวเผิน ดูเหมือนว่า “น่าจะดี”
แต่ถ้ามองให้ลึกๆ จะรู้เลยว่า “Fail” เป็นการชุมนุมที่ตอกย้ำความ “พ่ายแพ้และล้มเหลว” ในงานด้านมวลชนของ “นาทอนและพลพรรค” อย่างชัดเจน
เป็นความเจ็บปวดลึกๆ ของ “นาทอนและพลพรรค” ที่พูดออกมาไม่ได้ เพราะ กลุ่มคนหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ที่ต้องการ “ไม่มา”
ส่วนพวกที่ “หอบสังขาร” มา……
เกือบ ๗๐ % ของผู้ชุมนุม จะเป็น “ผู้เฒ่าและแดงนปช.” ที่ยังอารมณ์ค้าง ผิดหวังและฝังใจกับความพ่ายแพ้จากการต่อสู้ของแกนนำในอดีต
แต่ยังยึดติดกับความรุ่งเรืองและรายได้จากการร่วมม๊อบเสื้อแดง แอบหวังว่าบรรยากาศ “รับของแจก-แหลกของฟรี” จะกลับมาอีกครั้ง !!!
“การรับของแจก-แหลกของฟรี” คงเป็นนิยามของคำว่า “เศรษฐกิจดี” ของคนกลุ่มนี้ สินะ !!!!
ดังนั้น สิ่งที่ “นาทอนและพลพรรค” ต้อง “จำยอม” เพื่อเรียกคนลงถนนหากอยากจะได้ “เปลือกสวยๆ” ดูเหมือนคนเยอะๆ อย่างการชุมนุมในครั้งนี้ ก็คือ ต้อง “กล้ำกลืน” ขอยืมลุงป้าและแดงนปช.ที่ยังอารมณ์ค้างเอามาใช้งานในการชุมนุมก่อน
เพราะ ฐานเสียงของตัวเอง เริ่มตื่นรู้ และมีน้อยลงทุกวัน แต่การยืมจมูกคนอื่นหายใจ ยืมมวลชนเค้ามา มันไม่ยั่งยืน
อย่าลืมนะ ของฟรีไม่มีในโลก ยังไงก็แพ้วันยังค่ำ!!!
ทำใจเถอะ นาทอน ไม่ต้องดิ้น … ประตูคุก ประตูนรก ไม่หนีไปไหน!!!
ส่วนประเด็นกฎหมาย ที่สส.ปิยบุตร สส.พรรณิการ์ สส.ทิม พิธา หลาน “ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์” คนรับใช้ทักษิณ และอีกหลายสส.อนาคตใหม่ ที่ร่วมแฟลชม็อบ
อ่านนี่้ไว้เป็นความรู้ คุณ “อัษฎางค์ ยมนาค” โพสต์ไว้เมื่อวาน ว่า………
งานจะเข้าอีก เพราะความอ่อนด้อยทางการเมืองและกฎหมายของอนาคตใหม่ นัดชุมนุมมีสิทธิ์โดนยุบพรรค
……………………….
อ.ชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เตือนส.ส.ปลุกม็อบ ระวังผิดถึงขั้นยุบพรรค
……………………….
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐
มาตรา ๔๕ ห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ดํารงตําแหน่งในพรรคการเมืองกระทําการ หรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทําการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี ของประชาชน หรือกระทําการอันเป็นการทําลายทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ
เมื่อเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน มาตรา ๔๕ กกต.ก็ต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้นตามมาตรา ๙๒
การที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคและนางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ชักชวนให้ประชาชนไปชุมนุมที่สกายวอล์ก หน้าหอศิลป์ ปทุมวันในวันนี้ที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๗ ถึง ๑๘ นาฬิกา
ถ้ามีบุคคลไปยื่นคำร้องต่อกกต.ว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา ๔๕ ขอให้กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคอนาคตใหม่ตามมาตรา ๙๒(๓)
นายธนาธรและนางสาวพรรณิการ์จะอ้างว่ามีสิทธิชุมนุมตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๔๔ ก็คงไม่ได้
บทบัญญัติในมาตรา ๔๔ เป็นการให้สิทธิแก่ประชาชนโดยทั่วไป
แต่เมื่อบุคคลใดเป็น ส.ส.หรือมีตำแหน่งในพรรคการเมืองก็ต้องยึดถือปฏิบัติตาม พรป.การเลือกตั้งและ พรป. พรรคการเมืองด้วย
นายธนาธรกับพวกชักชวนประชาชนไปชุมนุมเพราะไม่พอใจที่ กกต.มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคอนาคตใหม่จากกรณีที่นายธนาธรให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน ๑๙๑ ล้านบาทเศษ
โดยที่ยังไม่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งให้รับคำร้องของ กกต.ไว้พิจารณาหรือไม่ หากรับไว้พิจารณาจะมีคำชี้ขาดว่าอย่างไรก็ไม่อาจรู้ได้
ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับคำร้องของ กกต. หรือให้รับคำร้องไว้พิจารณา แต่พิจารณาแล้วมีคำวินิจฉัยให้ยกคำร้อง เรื่องก็ควรจบด้วยดี
แต่การนัดประชาชนไปชุมนุมในวันนี้ หากมีผู้ไปร้องต่อ กกต. ว่าเป็นกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา ๔๕ และ กกต.มีมติเห็นด้วย จึงยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคอนาคตใหม่อีก
นายธนาธร นายปิยบุตร และนางสาวพรรณิการ์ คงจะออกมาโวยว่ามีคนกลั่นแกล้งอีก
แต่ถ้าเมื่อใดคิดได้ว่า นักกฎหมายของพรรคอนาคตใหม่อ่อนด้อ ประสบการณ์ในการทำงาน ก็ควรไปปรึกษานักกฎหมายของ ปชป.
ส่วนที่มีพรรคการเมืองบางพรรคจะให้นักกฎหมายของพรรคมาช่วยนั้น ขอให้พิจารณาให้ดี
เพราะพรรคการเมืองพรรคนั้น ก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคมาแล้ว
ครับ….
เรียกว่า ซวยซับ ซวยซ้อน ซวยจนกล้วยก็ไม่เหลือนั่นแหละ!