สนทนาภาษาชาติกับธร – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

ธนาธร…….
คุณเชื่อผมหรือยังว่า “แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์”?

และที่ไทยชาติเดียวในภูมิภาคดำรง “เอกรัฐ-เอกราช” มาได้ตราบทุกวันนี้ โดยไม่ตกเป็นขี้ข้าชาติตะวันตก
ทั้งเติบใหญ่ไพศาลในอุษาคเนย์
แผ่ร่มเงาเกียรติขจร จนคนหมอนหมิ่นนอกชาติ หนีอดตาย ซัดเซ-เร่ร่อน เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร มากต่อมาก
ด้วยน้ำพระทัยแต่ละพระองค์ ก็มิรังเกียจเดียดฉันท์ หรือกีดกันด้วยเป็นคนต่างชั้น-ต่างชาติ จำกัดการเป็นอยู่และการประกอบอาชีพแต่อย่างใด นั้น

ธรเห็นใช่มั้ย?
ว่าพระมหากษัตริย์แต่ละพระองค์ ทรงครองแผ่นดิน ด้วยหลัก “สิทธิเสมอภาค” มาแต่อ้อน-แต่ออก เฉียด “สหัสวรรษ” แล้ว!

“สมบูรณาญาสิทธิราชย์” ไม่ใช่อำนาจกษัตริย์ผูกขาดอย่างที่พวกคุณใช้สถุลทางเจตนาเขียนเป็นตำรายัดเยียดสมองสมุน

“สมบูรณาญาสิทธิราชย์” ในแกนปฏิบัติ
คือ “ธรรมาธิปไตย”

“ธรรมาธิปไตย” แปลตรงตัวตามที่เห็นรูปธรรมจริงคือ “การครองแผ่นดินโดยธรรมและการดูแลอาณาประชาราษฎร์เสมอหน้ากัน”

หาใช่พระมหากษัตริย์ทรงใช้ “อำนาจสิทธิ์ขาด” โดยพลการและเลือกปฎิบัติ อย่างเหล่า “ปัญญาชนฉ้อฉล” ปั่นหัวนักศึกษาให้คิดเป็นขี้ข้าฝรั่ง

ถ้าธรเถียงว่าไม่จริง
ธรลองย้ายครอบครัวไปอยู่มาเลเซีย เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นจริงดูก็ได้!

แล้วธรจะรู้ “ต่างชาติ-ต่างสายเลือด-ต่างศาสนา” อย่างธรและครอบครัว จะได้รับสิทธิเสมอภาคทัดเทียม “ภูมิปุตรา” เหมือนที่ธรและครอบครัวได้รับความทัดเทียมกับทุกไทยแม้ต่างสายเลือด-ต่างศาสนา อย่างในไทยมั้ย?

และธรรู้มั้ย….
เพราะพระมหากษัตริย์ไทยแต่ละพระองค์ นับตั้งแต่กรุงสุโขทัยตลอดมา ทรงยึดมั่นใน “พระพุทธศาสนา” นั่นแหละ

“เสรีภาพ-เสมอภาค-ภราดรภาพ” จึงถูกใช้เป็นหลักปกครองของไทย โดยเรียกว่า “สมบูรณาญาสิทธิราชย์” มาก่อนสมัย “ปฏิวัติฝรังเศส” ตั้ง ๕๐๐ กว่าปีแล้วด้วยซ้ำ

ที่พวกคุณยกคำว่า “เสมอภาค-ทัดเทียม” มาปลุกเสก “รุ่นใหม่” วันนี้ ให้งั่ง นั่นน่ะ
ก็ฝรั่งเศสมันเลียก้น “สิทธิเสมอภาค” ไปจากไทย แล้วมันใหม่ตรงไหน ที่พวกธรหลอกเด็กให้ไปเลียก้นตามมันนั่นน่ะ?

นับแต่ พ.ศ.๑๘๐๐ ที่แต่ละเผ่าพันธุ์ ต่างชาติ ต่างศาสนา มาหลอมรวม “ร่วมเป็นชาติ” กลมเกลียวเสมอภาค “ไทยเนื้อเดียวกัน” ถึงทุกวันนี้

ก็เพราะหลักพระพุทธศาสนา สอนไม่ให้แบ่งชนชั้นวรรณะ ทุกคนเสมอกันในความเป็นคน นั่นแหละ
ให้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน ให้ซื่อสัตย์-สุจริตต่อกัน และให้เคารพกันตามอาวุโส และยึดมั่น-กตัญญู รู้คุณคน

-มีสัมมาทิฎฐิ ความเห็นที่ถูกต้อง
-มีสัมมาสังกัปปะ ความคิดที่ถูกต้อง

-มีสัมมาวาจา พูดจาที่ถูกต้อง
-มีสัมมากัมมันตะ การปฏิบัติที่ถูกต้อง

-มีสัมมาอาชีวะ เลี้ยงชีพประกอบกิจการงานที่ถูกต้อง
-มีสัมมาวายะ มีความเพียรที่ถูกต้อง

-มีสัมมาสติ การมีสติ รู้คิด รู้พูด รู้ทำ ที่ถูกต้อง และ
-มีสัมมาสมาธิ มีสมาธิที่ถูกต้อง

เช่นนี้แหละ ธร……

ที่แผ่นดินไทยนี้เกิดได้

๑.เพราะบรรพบุรุษก่อร่างสร้างชาติ อาณาประชาราษฏร์ ยกทูนผู้กล้ามากบุญญาบารมีนั้น สู่สถานะ “พระมหากษัตริย์”

๒.เพราะพระมหากษัตริย์แต่ละพระองค์ นับแต่ยุคสุโขทัย-อยุธยา-ธนบุรี ตราบรัตนโกสินทร์ยุค

ทุกพระองค์ทรงดำรงสถานะ “พุทธมามกะ” คือประกาศตนว่าเป็นผู้นับถือพระพุทธศาสนา

ดังนั้น การปกครองแผ่นดิน “สมบูรณาญาสิทธิราชย์” ก็คือปกครองระบอบธรรมาธิปไตย
ธรรมาธิปไตยคือ “ธรรมเป็นใหญ่”

ธรรม คืออะไร ธรรมก็คือ “ความเป็นอย่างที่เป็น ที่เรียกว่าธรรมชาติ”
แล้วธรรมชาติ คืออะไร?
ก็คือเสมอภาคหรือทัดเทียมกันตาม “ฐานานุรูป” ดังที่เป็นนั่นเอง

“ฐานานุรูป” คืออะไร คือการลดหลั่นสมควรตามฐานะ, สมควรแก่ตำแหน่ง หรือ สูง, ต่ำ, ดำ,ขาว, ยาว,สั้น ลดหลั่นกันไป ประมาณนั้น

ไม่ได้หมายความว่า ขึ้นชื่อว่าทัดเทียม คือต้องเหมือนกันหมด-เท่ากันหมด
ถ้าจะเอาแบบนั้น จะต้องให้ธรแบมือทั้ง ๕ นิ้วบนเขียง
แล้วเอาอีโต้ “สับเปรี้ยง”
ให้ทั้ง ๕ นิ้วสั้น-ยาวเท่ากัน นั่นแหละ คือความทัดเทียมกัน ตามนิยามงั่ง ๓ นิ้่ว!

แล้วธร ตรองตามต่อ ก็จะเห็นความเป็นตะแกรงแห่งตรรกะที่เกาะเกี่ยวกัน
เพราะมี “พระมหากษัตริย์” ความเป็นปึกแผ่นของแผ่นดินจึงหลอมรวม เป็นชาติ

เพราะพระมหากษัตริย์มี “พระศาสนา” และยึดหลักพระศาสนาประยุกต์เป็นหลักปกครอง พระมหากษัตริย์กับพระศาสนาจึงต้องอยู่คู่กัน

และเพราะมีพระมหากษัตริย์
แผ่นดินนี้ จึงมี “ชาติไทย”
และชาติไทยดำรงอยู่ได้ เพราะพระมหากษัตริย์มีธรรม

ก็นั่นแล ในตรรกะกันและกันนั้น…….

“สถาบันพระมหากษัตริย์” จึงเป็นทั้งรูปธรรมทางตัวบุคคลและนามธรรมทางจิตวิญญาน หลอมรวมจากพระมหากษัตริย์กับพระศาสนาเป็นองค์ ๓

เชื่อมโยง-จรรโลงเกื้อ “เนื้อในเนื้อ” แยกสิ่งหนึ่ง-สิ่งใดออกจากกันไปไม่ได้
จึงปรากฏนามประเสริฐว่า “ชาติ-พระศาสนา-พระมหากษัตริย์” คือชาติไทย เป็น “หัวใจ” คนไทย-ประเทศไทย

ที่พูดทั้งหมดนี้……
ธรพอจะมองเห็นและเกิดความเข้าใจอะไรในทางดีๆ พอจะไปสอนลูก-สอนเมีย ตลอดถึงหลานๆ และสมุนให้ “กลับใจสู่ฟากฝั่ง” ได้บ้างมั้ย?

ไม่ใช่อะไรหรอก ที่ผมปฐมศึกษาให้ฟัง ก็ด้วยสงสาร ที่เห็นสภาพคุณไม่ต่าง “กระดี่แถกดอน” ตอนนี้
ไปน่ะ..ไปเป็น

แต่เรื่อง “สิทธิไม่เสมอภาค” แอบไปฉีดแอสตร้า เซนเนก้า ทั้งที่ด้อยค่า ว่ากล่าวเจ้าไว้หนักหนาสาหัส เรื่อง “วัคซีนพระราชทาน-ใครได้ ใครเสีย” นั่นน่ะ

ก็บอกแล้ว ว่าแผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์นัก!
เลยถูก (สังคม) จับได้ ก็ไปไม่เป็น ถูไถ เถียงไปเปะปะ คว้าส่งเดช เหมือนคนปิดตาตีหม้อ ตีไป-ตีมา หม้อตูเองนี่หว่า

เห็นเขาฮากันขรมโซเชียล
นายกฯ โซเซียล จะมาตายน้ำตื้นกับโซเชียล ก็น่าอนาถนัก เห็นมีช่อคนเดียวออกมาช่วยอยู่พัก แต่ถูกทัก “คนนอกวงแขนมาตอบแทนเขาได้ไง” ก็เลยขวยๆ หายไป

สามสัส เหลือสัสเดียว น่าสงสาร ปิยบุตรเพื่อนรักอีกสัสก็ไม่รู้หายไปไหน
เฮ้อ…ขึ้นเร็ว-ลงเร็ว จริงๆ นะธร

“เกมล้มเจ้า” เปิดประตูได้บานเดียว ดูท่า ธรก็จะตูดบานตำจมูก “พีนอกคิโอ” ตัวเองซะแล้ว!
อาณาจักร “ไทยซัมมิท” ในประเทศ-นอกประเทศน่ะ ธรไม่มีวันล้ม

แต่ความเชื่อถือในตัวธรตอนนี้ มัน “ล้มละลาย” ไปแล้วรู้มั้ย?

จะเล่าอะไรให้ธรฟังเรื่องนึง…….
เมื่อ ๒๕ พฤศจิกา. ๖๓ “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” และ “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี” ทรงวางพวงมาลารัชกาลที่ ๖ แล้ว

ก็ทรงพระดำเนินทักทายราษฎรที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ
ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงแย้มพระสรวล มีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรอย่างใกล้ชิด

รวมทั้งทรงร่วมฉายพระบรมฉายาลักษณ์กับราษฎรอย่างไม่ทรงถือพระองค์
และ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ทรงพระอักษรลงบนสมุดภาพที่ประชาชนนำมารับเสด็จ ความว่า

“ขอบใจในความรักและภักดี
ขอให้ช่วยกันทำดี ทำสิ่งที่ถูกต้องกับส่วนรวม

ชาติอยู่ได้ เพราะประชาชนมีสุขและทำในสิ่งที่ดี
รักชาติ รักพี่น้องร่วมชาติ ทำเพื่อความสุขและประโยชน์ส่วนรวม

เราเองจะได้รับความสุขนั้นเอง
ความดีและความจริง

ไม่ตาย”
…………………………..
จำไว้นะ ธร บอกแม่ เมีย และลูกๆ ด้วย
ความดีและความจริง “ไม่ตาย”



Written By
More from plew
เสียงร้องทารกก่อน “ถูกยุบ”
ผมก็เป็น “นกไซบีเรีย”……….. บินหนีหนาวไปซะ ๒-๓ วัน พออุ่นๆ ก็บินกลับรัง แต่พอได้ยิน “นายปิยบุตร” พล่าม ที่อุ่น อุณหภูมิพุ่งปรี๊ด...
Read More
0 replies on “สนทนาภาษาชาติกับธร – เปลว สีเงิน”