ตรรกะคนเก่งไม่ผิด-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ไม่ใช่เล่นๆ นะครับ
ผลการศึกษาล่าสุดพบเด็กในอเมริกา ๑๒๐,๖๓๐ คน กลายเป็นเด็กกำพร้า เพราะพ่อ-แม่ เสียชีวิตจากโควิด-๑๙
ผลการศึกษาในวารสารกุมารเวชศาสตร์ (Pediatrics) ของอเมริกา เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ยังพบว่าเด็กอีก ๒๒,๐๐๗ คน สูญเสียผู้ดูแลรองจากพ่อแม่ คือ ปู่ ย่า ตา ยาย
ข้อมูลจาก ซูซาน ฮิลลิส นักวิจัยจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ คือ การกำพร้าพ่อแม่ผู้ปกครองจากโรคโควิด-๑๙ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลก และซ่อนอยู่ในมุมมืด

    อเมริกาเองก็เผชิญปัญหานี้ไม่ต่างกัน

    “…พวกเราทุกคน โดยเฉพาะลูกหลานอีกหลายรุ่น จะรับรู้ผลกระทบอันรุนแรงของปัญหานี้ ทั้งในทันทีและในระยะยาวต่อไป การแก้ปัญหาเหล่านี้ที่เด็กได้เผชิญและจะเผชิญต่อไปต้องเป็นหนึ่งในพันธกิจหลัก ที่ถูกผสานเข้ากับการรับมือภาวะฉุกเฉินอันรอบด้าน ทั้งในตอนนี้และในอนาคต…”

    อเล็กซานดรา เบลนกินซอป ผู้ร่วมทำการวิจัยจากราชวิทยาลัยลอนดอน เปิดเผยข้อมูล จำนวนเด็กที่ได้รับผลกระทบเป็นเครื่องเตือนใจถึงผลพวงจากโรคระบาดอันเลวร้ายตลอด ๑๘ เดือนที่ผ่านมา เด็กเหล่านี้กลายเป็นกลุ่มเปราะบางที่สุด ซึ่งควรได้รับการเอาใจใส่โดยตรง

    การศึกษาข้างต้นเป็นความร่วมมือระหว่างศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ ราชวิทยาลัยลอนดอน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และมหาวิทยาลัยเคปทาวน์ในแอฟริกาใต้

    ข้อมูลต้นเดือนกันยายน ขณะนี้เด็ก ๑.๕ ล้านคนทั่วโลกประสบกับการเสียชีวิตของพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย หรือผู้ดูแลที่เลี้ยงดูแลเด็กอันเนื่องมาจากโควิด-๑๙

    ในไทยมีการศึกษาเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน
ข้อมูลตั้งแต่วันที่ ๒๗ กรกฎาคม – ๔ กันยายน ๒๕๖๔ พบเด็กกำพร้าจำนวน ๓๖๙ คน และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

    กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  (พม.) ให้ข้อมูลเมื่อเดือนเมษายน ว่า พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงรับเด็กกำพร้า ๓๔๓ คน จากพ่อหรือแม่ติดเชื้อโควิด-๑๙ เสียชีวิต ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

    มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีโรงเรียน ๕๒ แห่งครบวงจร ได้เรียนหนังสือด้วยการพระราชทานทุนชีวิต

    ครับ…นั่นคือปัญหาที่เกิดและมีการแก้ไขอย่างเงียบๆ
ว่าไปแล้วเรื่องนี้เป็นประเด็นใหญ่มาก แต่กลับไม่มีการพูดถึง

    ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง ที่เอาแต่พ่นว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย มีพฤติกรรมอยากกลับเข้าสู่อำนาจ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ยิ่งแกนนำม็อบยิ่งแล้วใหญ่ เรื่องพวกนี้ไม่อยู่ในสายตา

    กว่าจะจบโควิดเด็กกำพร้าในไทยคงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างรอบคอบถี่ถ้วน

    เพราะ เด็ก เยาวชน คือผู้ที่จะสร้างชาติในอนาคต

    ครับ…เรื่องเด็ก เรื่องเยาวชนคนเก่ง เราก็มีอยู่ไม่น้อยครับ เป็นหน้าที่ที่ผู้ใหญ่ต้องส่งเสริม สนับสนุนไปให้สุดทาง
ถ้าเด็กหลงผิด ก็ต้องชี้ทางให้

    มีเรื่องเด็ก เยาวชน อยากจะมาแชร์ความรู้กันครับ

    วานนี้ (๘ ตุลาคม) มีข่าวออนไลน์ บอกว่า “ณัฐนนท์​  ดวงสูงเนิน” ผู้ก่อตั้ง http://SPACETH.CO เว็บไซต์ความรู้ด้านดาราศาสตร์และเทคโนโลยีอวกาศของไทย โพสต์ถึงกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ อุ้มตัว “เบนจา อะปัญ” นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ อินเตอร์ (SIIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

    ข้อความระบุตามนี้…

    …อุ้ม “เบนจา อะปัญ” ส่งดำเนินคดี สน.ทองหล่อ ชุมนุมคาร์ม็อบ ๑๐ ส.ค.

    คุณอาจจะรู้จักแพรวจากข่าว จากม็อบ แต่ผมรู้จักแพรว จากการทำสื่ออวกาศที่ชื่อว่า Spaceth จนเกิดเป็น community อวกาศในไทยขึ้นมา ซึ่งแพรวเองก็เคยอาสามาช่วยถ่ายงานหลายครั้งในช่วงปี ๒๐๑๘ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อยากให้ทุกคนรู้ว่า

    ๑.แพรว เบนจา คือเพื่อนของเรา
๒.แพรว มีความฝันอยากเป็นวิศวกรอวกาศ แพรวชอบ  Space Shuttle มาก ถึงกับปรินต์รูปติดไว้บนหัวนอน และมีความฝันว่าจะเรียนต่อจนจบ ป.เอก และทำงานกับหน่วยงานอวกาศภายใต้ NASA เช่น JPL และ Facilities, Research  Center สังกัด NASA ต่างๆ

    ๓.แพรวไม่เคยอยากติดคุก หรือโดนคดี หรือขึ้นปราศรัย  แต่คุณก็รู้ว่าวงการอวกาศ และวงการวิชาการในประเทศนี้มันเป็นยังไง

    ๔.แพรวเก่ง เก่งมาก และเก่งสัสๆ จบเตรียมอุดม และใช้เวลา Gap Year ในการศึกษาด้วยตัวเอง ทำงานที่ตัวเองชอบ  หาเงิน รับงาน แพรวทำงานเยอะมาก ประสบการณ์หลากหลาย อาจจะเป็นเพราะมันเป็นสาวก Apple และแม่งบ้า Gadget

แต่ประเด็นก็คือ แพรวไม่ใช่คนที่คาดหวังให้ได้อะไรมาง่ายๆ แพรวอยากรวยแต่ไม่เคยนอนเฉยๆ ให้เงินมาหา  แพรวอยากเก่งอยากทำงาน NASA แต่ก็ไม่เคยอยู่เฉยๆ และรอโอกาสอย่างเดียว แพรวอยากให้ประเทศนี้ ระบบการศึกษา สังคม ดีขึ้น แพรวจึงไม่อยู่เฉยๆ และแพรวรู้มันเสมอ มันจึงสื่อสารออกมาผ่านสิ่งที่แพรวทำทุกวันนี้

    ๕.แพรวคือความหวังของวงการวิชาการในประเทศนี้ครับ

    ผมไม่อยากให้พวกคุณแยกเด็กที่ทำกิจกรรม เด็กที่ทำม็อบออกจากเด็กโอลิมปิก เด็กสายวิชาการ เพราะมันคือเรื่องเดียวกัน พวกเขาต่อสู้อย่างกล้าหาญ กล้าพูดในสิ่งที่ถูกต้อง  แพรวแทบจะต้องแลกความฝัน แลกเส้นทางของตัวเอง เพื่อบอกว่าพวกคุณผิดตรงไหน เพื่อบอกว่าประเทศนี้มีอะไรที่ต้องแก้ ทำไมราคาของการพูดความจริงมันสูงถึงขั้นนี้

    แล้วเราจะต้องรู้สึกอย่างไร? จำวันนั้นได้มั้ยครับ ที่พวกคุณ #SaveNutnon กัน วันที่ผมโดนจับ พวกคุณให้เหตุผลว่าผมทำงานในวงการอวกาศ ช่วยพัฒนาประเทศ ไม่ควรต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ .. ผมฝากเพื่อนผมคนนี้อีกคนได้มั้ยครับ

ไม่ใช่เพราะเขาทำงานในวงการไหน แต่ไม่ควรมีใครเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก เพราะไม่ควรมีใครถูกจับเพราะตั้งคำถามครับ แพรวไม่ใช่นักกิจกรรม แพรวคืออนาคตของวงการอวกาศในประเทศนี้

    อย่าให้เราแบกรับความรู้สึกนี้ไว้เลย เราไม่ไหวแล้ว เราอยากสัมภาษณ์แพรวเพราะแพรวเป็นวิศวกรอวกาศครับ ไม่ใช่เพราะเป็นนักกิจกรรมหรือต้องติดคุก

    #ปล่อยเพื่อนเรา พรุ่งนี้มันต้องไปรับ iPhone ๑๓….

    ครับ…คดีนี้ศาลอาญากรุงเทพใต้ ท่านไม่ให้ประกันตัว

    เหตุผลคือ คดีมีอัตราโทษสูง ประกอบกับพฤติการณ์ตามคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาได้ก่อเหตุเกี่ยวกับสถาบันฯ ที่ผู้ก่อเหตุเคยถูกฟ้องที่ศาลนี้ ทั้งพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว จึงเห็นควรไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง

    แต่ประเด็นที่จะพูดคุยกันคือ คนเก่งอยากทำงาน NASA  ตำรวจต้องไม่จับ ศาลต้องให้ประกันตัว แม้คนคนนั้นทำผิดกฎหมายใช่หรือไม่

    ถ้าใช้ตรรกะนี้ ต่อไปอาชญากรต้องไม่ถูกจับกุมคุมขัง เพราะมีความฝันจะทำงานกับ NASA
มันต้องแยกประเด็นครับ

    การเคลื่อนไหวทางการเมือง แล้วไปทำผิดกฎหมาย ไม่สามารถละเว้นได้
แกนนำเหลือง แดง สามนิ้ว ขณะนี้อยู่ในคุกกี่คน

    นั่นเพราะทำผิดกฎหมาย
ถ้าเอาความฝัน ความเก่งสัสมาตัดสินว่า จะทำอะไรก็ได้ไม่ต้องติดคุก สังคมนี้จะอยู่กันอย่างไร

    “เบนจา อะปัญ” ทำผิดซ้ำซากในคดีเดิม
เป็นนักเคลื่อนไหวหัวรุนแรง และมีพฤติกรรมการแสดงออกที่รุนแรง

    ถ้าบอกว่านี่คือพฤติกรรมของคนฉลาด ก็คงจะไม่ใช่
เด็กทำม็อบ เป็นเด็กโอลิมปิกได้ ไม่มีกติกาอะไรห้าม

    แต่เด็กทำม็อบ และเด็กโอลิมปิก มีสิทธิ์ติดคุกได้
หากเด็กคนนั้นทำผิดกฎหมาย

    เด็กสมัยนี้ผู้ใหญ่ขัดเกลายากครับ มักจะถูกต่อต้าน เพราะเด็กเชื่อมั่นในวิถีของตัวเอง

    กลับกันเด็กดำดิ่งไปกับโซเชียล แทบไม่ตั้งคำถาม ไม่หาเหตุผล
นี่คือสิ่งที่สังคมไทยกำลังเผชิญอยู่



0 replies on “ตรรกะคนเก่งไม่ผิด-ผักกาดหอม”