ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
“ถ้าชนชั้นสูง หรือผู้มีอำนาจ ยังดื้อดึง แข็งกร้าว..
ไม่ประนีประนอม หรือออมชอมกับประชาชน โอกาสแตกหักค่อนข้างสูง เพราะสังคมถูกบีบให้มีทางเลือกน้อย จากการขีดเส้นของผู้มีอำนาจเอง
อาจนำไปสู่การนองเลือด ทำให้เกิดความสูญเสียในอนาคต ดังนั้น ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบดังกล่าวได้”
เนี่ย..ไม่รู้ว่าศ.ดร.ธเนศวร์ เจริญเมือง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เตรียมตัวจะออกมานำขบวนทัพหรืออย่างไรจึงได้ให้สัมภาษณ์ “มติชน” อย่างนี้
แต่หากจินตนาการเอาตามกิเลส-ตัณหาของตัวเอง ผมก็ขอถามดร.ธเนศวร์ล่ะครับว่า..สังคมถูกบีบ หรือพวก “สังคัง” ที่พยายามจะล้มล้างสถาบันกันแน่ที่ถูกบีบ?
เอะอะ ก็.. “จะนำไปสู่การนองเลือดๆๆ” สมองคิดอยู่แต่จะยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ส่วนตัวเองคอยซ่อนกายอยู่ใต้กระโปรงเด็ก ขี้ขลาด-ปากห้อย-ตาขาวอยู่ในรั้วมหาลัย..
หรือตอนนี้ถูกบีบ-ถูกต้อนให้เป็น “หมาจนตรอก” จนทนไม่ไหวแล้ว..งั้นก็กล้าๆ ออกมาเดินตามก้นรุ้งเลยสิ..ไว!
อ้อ..และที่ว่า “ชนชั้นปกครองหรือผู้มีอำนาจ ควรถอดบทเรียนจากประวัติศาสตร์เพื่อนบ้านว่าเป็นอย่างไร” นั้น
อาจารย์อย่างพวกท่านนั่นตะหาก “ควรถอดความคิด-ถอดบทเรียน” ว่าเมื่อล้มสถาบันแล้ว เพื่อนบ้าน-ประเทศเป็นอย่างไร?
เอ้า..แล้วเมียทนายสมชายที่ตายเพราะถูกอุ้มในยุครัฐบาลทักษิณก็อีกคน นางอังคณา นีละไพจิตร คิดอะไรอยู่เหรอถึงได้โพสต์เฟซบุ๊ก..
“คำวินิจฉัยที่อาจนำไปสู่จุดจบของการเรียกร้องอย่างสันติบนพื้นฐานประชาธิปไตย”!
คิดจะชี้โพลงให้กระรอกชิมิ แต่ถามก่อน..ที่เห็นเยาวชนปนไอ้แก่-อีแก่ป่วนกรุงอยู่ตามท้องถนนนั้น..
นางอังคณามองด้วยตา-สัมผัสด้วยใจว่า เป็นการเรียกร้องอย่างสันติบนพื้นฐานประชาธิปไตยจริงๆ หรือเป็นเพราะอคติส่วนตัวกับอดีตกันแน่..หือ?
ครับ..พูดถึงอดีต พอดีเห็นข่าวบันเทิงแนวหน้าออนไลน์รายงานว่า “คริสโตเฟอร์ เบญจกุล” อดีตดาราอนาคตไกล ที่ประสบอุบัติเหตุถูกรถชนหลังจากการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บริมถนน
ต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลถึง 3 ปี และส่งผลให้เขาร่างกายไม่ปกติ ต้องกินยาอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้
และเมื่อหายป่วยแล้วก็ไม่สามารถกลับเข้าสู่วงการได้อีก เนื่องจากรูปร่างหน้าตาที่เปลี่ยนไปจากการอุบัติเหตุในครั้งนั้น
ตอนนี้นอกจากการทำงานที่มูลนิธิ APCD ศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมคนพิการแห่งเอเชียและแปซิฟิกแล้ว คุณคริสยังมีอาชีพเสริมด้วยการเปิดท้ายขายน้ำส้มอยู่ที่สวนหลวงกับภรรยามาพักใหญ่
โดยขายเปิดท้ายและขายในแผงที่ตลาด เพราะรายได้จากการทำงานที่มูลนิธิไม่เพียงพอ และก่อนหน้านี้ก็ได้นำเงินเก็บมาลงทุนทำธุรกิจกับภรรยาแต่ก็เจอพิษโควิด
จนทำให้เงินเก็บก้อนสุดท้ายหายวับไปกับตา ต้องเป็นหนี้เป็นสิน แต่ก็ไม่ย่อท้อยังคงสู้ชีวิตต่อไป
“ผมบอกเขาว่า ท้อเอาไว้ให้ลิงถือ หมูถือท้อไม่ได้ สู้ต่อไปนะหมูน้อย ก็อยากจะให้กำลังใจทุกคน อย่าท้อนะครับ ท้อลิงถือ คุณไม่ใช่ลิงอย่าท้อนะครับ
คุณต้องสู้ครับ สู้ไปเรื่อยๆ ถ้าสู้คุณจะผ่านมันไปได้ ถ้าคุณไม่สู้ปัญหามันก็ยังอยู่นะครับ”
ก็..จริงอย่างคุณคริสว่า “(ลูก)ท้อเอาไว้ลิงถือ” จะเป็นผู้พิการหรือคนปกติอย่าได้ท้อแท้กับชีวิต..ตราบมีลมหายใจอยู่ก็จงสู้กันไป!
อยากให้กำลังใจ อุดหนุนน้ำส้มและน้ำผลไม้สกัดของคุณคริส เบอร์โทร 06-2232-9456 และ FB: happy and healthy..สอบถาม-สั่งซื้อกันได้..
ส่วนดารารุ่นใหม่ แม้จะไม่รู้จัก แต่ก็ควรจะรู้ไว้..พี่คริส น้าคริส อาคริส หรือลุงคริส พิการกายด้วยเพราะ..
ช่วยเหลือคน!