เปลว สีเงิน
ตอนปลายปี….
นายกเทศบาลนครยะลา ที่เป็นสัญลักษณ์เมืองยะลาไปแล้ว “คุณพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ” มาสวัสดีปีใหม่
ความจริง ท่านมาทุกปี “ไม่เคยขาด”
ตั้งแต่สมัยหุ่นพระเอกหนังฮ่องกง ที่ชาวยะลาเลือกให้เป็นนายกเทศบาลนครฯสมัยแรก ต่อๆมาจนถึงขณะนี้
พบคราวนี้ คงต้องเป็น “พ่อพระเอก” แล้วหละ
ซึ่งไม่น่าเชื่อ ป๊อบแป๊บๆ พบหน้าและสนทนาสารพัดเรื่องกันมาเฉียด ๒๐ ปี!
ที่พูดนี่ ไม่มีเหตุพิสดารอะไร
แค่ว่า ระยะนี้ ๓ จังหวัดใต้ นราธิวาส-ยะลา-ปัตตานี ฝนตกไม่ยอมหยุด จนท่วมบ้าน-ท่วมเมือง อย่างที่ทราบกัน
ตอนคุยกับท่าน ผมเย้าท่านนายกฯ ไปว่า
ว่าน่าอิจฉายะลานะ!
จังหวัดเดียว มีสนามบินให้ใช้ถึง ๒ สนาม แล้วยะลาจะไม่กลายเป็น “ไข่แดง ๓ จังหวัดใต้” ทางการท่องเที่ยวต่อจากนี้ได้อย่างไร?
ด้วยจุดเด่นหลายอย่าง ยะลาจะเป็น “ศูนย์กลางท่องเที่ยว” ของ ๓ จังหวัดแน่!
ก็ดูซี จะไปไหว้หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ หรือไปไหว้เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว หรือจะไปศูนย์พิกุลทอง ไปเที่ยวป่าพรุ ไปซื้อปลาเค็มตากใบ ที่นราธิวาส
ไม่ว่าจะหันซ้าย-หันขวา ยังไงๆ ก็หนีไม่พ้น ยะลาเป็นศูนย์กลาง ทั้งเครื่องบิน ทั้งรถไฟ ทั้งรถยนต์
ยิ่ง “สนามบินเบตง” เสร็จแล้ว….
รอชิโนแวกมาปราบโควิดให้สะเด็ดเก้ง ก็จะเปิดให้บริการ
ถึงตอนนั้น ผมซึ่งไปไหว้หลวงพ่อทวด มักย้วยไปยะลาด้วยก็หลายเที่ยว กระทั่งเส้นทาง “เบตง-ยะลา” ก็ไปสำรวจมาแล้ว ตั้งแต่ปี ๖๒
ยะลารุ่งแน่!
ทรัพยากรทางธรรมชาติ, แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ, สถานที่ทางประวัติศาสตร์ เยอะมาก
ทุกอย่างยังสมบูรณ์และบริสุทธิ์….
ทั้งป่า ทั้งเขา น้ำตกร่วม ๑๐ แห่ง ทั้งสวนผลไม้หลายหลาก บ่อน้ำร้อนให้นอนแช่ก็ยังมี ทั้งวัฒนธรรมถิ่น เรียกว่าทุกอย่างพร้อม
ยื่นจมูกไปจุดไหนที่ยะลา แค่หายใจเข้าเบาๆ ละมุนแห่งสายลมอ่อน ระรื่นไหล ทะลุโล่ง โปร่งหัวถึงสะดือ
ผมหมายถึงตามเส้นทาง “เบตง-ยะลา”
ถ้าจำไม่ผิด จะผ่าน ๓-๔ อำเภอ เช่น ธารโต บันนังสตา แต่ละที่ จาระไนตรงนี้ไม่ทัน สวยบริสุทธิ์ เหมือนสาวรุ่น วัย ๑๕-๑๖ เปล่งระเรื่อด้วยนวลปรางไรๆ อย่างไรอย่าง-นั้น
ลงสนามบินหาดใหญ่ นั่งรถต่อไปยะลา ผ่านปัตตานี ส่วนใหญ่ จะเป็นบ้าน-เป็นเมือง ก็สวยชินตาไปหมดแล้ว
“สนามบินเบตง” อยู่ที่อำเภอเบตง ของจังหวัดยะลาเอง เมื่อเปิดใช้ สนามบินหาดใหญ่ คงจะน้อยใจ ที่จะไม่ใช่ศูนย์กลางของ ๓ จังหวัดใต้ ทางการเดินทางอีกต่อไป
หาดใหญ่ เป็น “สาวใหญ่” ที่ปล่อยเนื้อ-ปล่อยตัว
มีหรือจะสู้เบตง “สาวรุ่น” ได้
เฉพาะตัว “เบตง” เอง ขายตัวเองได้อยู่แล้ว โด่งดัง กล่าวขาน เป็นที่รู้จักกันเกือบทั้งโลก ใครๆ ก็อยากไปเที่ยว
ทั้งสถานที่ให้เที่ยว ทั้งทางธรรมชาติ ทางเอกลักษณ์ถิ่น ทางประวัติศาสตร์ ทั้งทางวัฒนธรรม รวมถึงอาหาร-การกินครบเครื่อง
ต่อจากนี้ ใครไป ๓ จังหวัดใต้ บินไปลงเบตงไม่เก๋กว่าหาดใหญ่หรือ?
แวะดู-แวะชม ธรรมชาติบ่มเมืองที่เบตง ซึ่งหาดใหญ่จำเจ-คร่ำคร่า ไม่พัฒนาตัวเอง ปล่อยตกยุค น่าเสียดาย
พูดถึงระยะทาง จากสนามบินหาดใหญ่ไปยะลา หรือจากสนามบินเบตงไปยะลา พอๆกัน
แต่เสน่ห์รายทาง “ต่างกัน” มาก ไม่ได้อวดสรรพคุณแทนหากแต่ผมไปมาแล้ว
ไปสำรวจกระทั่งเส้นทาง “มาเลย์-เบตง” ออกทาง “ด่านประกอบ” นาทวี สงขลา เข้ามาเลเซีย ไปทะลุด่านเบตง
วันว่าง วันหยุด คนฝั่งมาเลย์ เข้ามาเที่ยวฝั่งไทย ที่เบตงกันแทบทั้งนั้น!
นี่…
อารัมภบทคร่าวๆ ถึงเรื่องที่คุยกับนายกฯพงษ์ศักดิ์ คือท่านนายกฯ พงษ์ศักดิ์บอกว่า
คนยะลา ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาเมือง ยะลามีจุดเด่นหลายด้าน ถึงขั้นพูดได้ว่า…เยี่ยม
ผังเมืองเยี่ยม ไทยพุทธ-ไทยมุสลิม รักสามัคคีกันเยี่ยม การพัฒนาเมืองสู่ยุคดิจิทัล การศึกษา การกีฬา การดนตรี รวมถึง สนามแข่งนกเขาชวา เยี่ยม
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเยี่ยม ผลไม้ เช่น ทุเรียนพื้นถิ่น “มูซันคิง” เยี่ยม ลองกอง ส้มโชกุน กาแฟ เยี่ยม
๒-๓ ปีก่อน….
ขอให้ “คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ” อดีตรองนายกฯ นำมวยไทยไฟต์ไปต่อยให้พี่น้อง ๓ จังหวัดใต้ดู
พี่น้องไทยพุทธ-ไทย มุสลิม แห่แหนมากัน ๖-๗ หมื่นคน เงินสะพัดไหลคืนเดียว พ่อค้า-แม่ขาย ขายได้กันรายละเป็นพัน-เป็นหมื่น
เรื่องความปลอดภัยจากโจรผู้ร้าย ไม่ต้องพูดถึง
“แก้วซักใบ” ยังไม่มีแตก!
เรื่องที่ผวา กลัวโจร นั้น ความจริง ในพื้นที่จริง กับข่าวในหน้าจอ หน้ากระดาษ มันตรงกันข้ามเลย
ลึกเข้าไปในป่า-ในดง มีเหตุเกิด ก็เป็นข่าวปาวๆ คนดู-คนฟัง ก็จินตนาการตามว่าบ้านเมือง ๓ จังหวัดใต้ เต็มไปด้วยภัยโจร
มันก็มีบ้าง แต่ในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งไม่ต่างทุกพื้นที่-ทุกจังหวัด เมื่อมีคน มันก็ย่อมมีเหตุการณ์โน่น-นี่เป็นธรรมดา
โดยภาพรวม โดยเฉพาะในตัวเมืองยะลา ไทยพุทธ-ไทยมุสลิม อยู่กันเป็นพี่-เป็นน้อง-เป็นเพื่อน แทบไม่มีปัญหาอะไร
นอกจาก คุณสมบัติบริหารของนายกฯพงษ์ศักดิ์ ทำให้โจรก่อการร้ายไม่เข้ามาวอแว ด้วย “ได้ใจ” ซึ่งกันและกันแล้ว
สิ่งหนึ่งที่ “ยอด” เหนือ “เยี่ยม” คือ……
“ศาลหลักเมืองยะลา”!
ตรงนี้ “ผมเห็นด้วย” เพราะได้ไปกราบสักการะและสังเกตภูมิทัศน์มาแล้ว ยอดเหนือเยี่ยมอย่างไร ไม่อยากเล่า “ปัจจัตตัง” น่ะครับ
อยากพิสูจน์ ต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง!
ก็คุยกันหลัดๆ กับท่านนายกฯ พงษ์ศักดิ์เรื่องน้ำไม่เคยท่วมเมือง แต่เมื่อวาน (๑๓ มค.๖๔) ทางเขื่อนบางลางออกประกาศ
“…………..ฝนได้ตกหนักเหนือเขื่อนบางลางตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา จนถึงเดือนมกราคมปีนี้ ซึ่งระดับน้ำในแม่น้ำต่างๆ ของตัวเมืองยะลา และบังนังสตาเริ่มล้นตลิ่ง เช่นเดียวกับน้ำในเขื่อนที่สูงขึ้น ซึ่งสาเหตุที่ไม่ระบายน้ำออกก่อน เพราะจะกระทบกับพื้นที่จังหวัดปัตตานี ซึ่งขณะนั้นถูกน้ำท่วมหลายชุมชน
และหลังกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนฝนตกหนักช่วงวันที่ 4 –7 มกราคม ก็มีฝนตกเกินกว่า 200 มิลลิเมตร ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
ทำให้พื้นที่ต้นน้ำ ทั้งอำเภอบังนังสตา ธารโต และภายในเขื่อน มีปริมาณน้ำมากขึ้น จนเกินเก็บกัก 115 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นอันตรายต่อโครงสร้างเขื่อนจึงจำเป็นต้องปล่อยน้ำ”
เอาละซี….
น้ำจะท่วมยะลาซะละมัง!
แต่ไม่หรอก เขื่อนบางลางอยู่อำเภอบันนังสตา มากขนาดไหน ไหลไปลงแม่น้ำหมดแหละ มาไม่ถึงตัวจังหวัดหรอก
อ้าว…แล้วกัน!
แค่เกริ่น หมดเวลาซะแล้ว ไว้วันหลังค่อยมาลงรายละเอียดด้านว่า ที่เยี่ยมๆ นั่นน่ะ มันคืออะไร อยู่ตรงไหน?
วันนี้ ขอไปนอนก่อนละ!
ขอบคุณภาพเขื่อนบางลาง จาก www.egat.co.th
