เลือกตั้งซ่อมเลือกใคร-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

เร่เข้ามา…

โค้งสุดท้ายเลือกตั้งซ่อมเขต ๙ หลักสี่

ประกอบด้วย แขวงทุ่งสองห้องและแขวงตลาดบางเขน และเขตจตุจักร (บางส่วน) ประกอบด้วย แขวงลาดยาว แขวงเสนานิคม และแขวงจันทรเกษม

อาทิตย์ที่ ๓๐ มกราคม เข้าคูหาหย่อนบัตร

ผู้สมัครมี ๘ คน จาก ๘ พรรค ดังนี้

หมายเลข ๑ นายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ พรรคไทยภักดี

หมายเลข ๒ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี พรรคกล้า

หมายเลข ๓ นายสุรชาติ เทียนทอง พรรคเพื่อไทย

หมายเลข ๔ นางสาวกุลรัตน์ กลิ่นดี พรรคยุทธศาสตร์ชาติ

หมายเลข ๕ นายรุ่งโรจน์ อิบรอฮีม พรรคไทยศรีวิไลย์

หมายเลข ๖ นายกรุณพล เทียนสุวรรณ พรรคก้าวไกล

หมายเลข ๗ นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ พรรคพลังประชารัฐ

หมายเลข ๘ นายเจริญ ชัยสิทธิ์ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน

ดูหน้า ดูพรรค ดูนโยบาย ชอบแบบไหนก็กาเบอร์นั้นครับ

เลือกตั้งซ่อมสนามนี้จะเป็นการย่อส่วนภาพการเมืองใหญ่ของประเทศได้ชัดเจนกว่าการเลือกตั้งซ่อมหลายเขตก่อนหน้า

เท่าที่โหมกระหน่ำกันในโซเชียล ก็เป็นไปตามกลุ่มก้อนความขัดแย้งในสังคม

มีทั้งพรรคล้มเจ้า

พรรคจงรักภักดีสถาบัน

พรรคพยายามทำตัวกลางๆ

พรรคเจ้าถิ่น

พรรคผู้ท้าชิง

การหาเสียงจึงสะท้อนบุคลิกพรรค และโค้งสุดท้ายแบบนี้มีประเด็นน่าสนใจ ไม่พูดถึงคงไม่ได้

พรรคก้าวไกล ตกเป็นที่จับตามอง

ไม่ได้มองแบบตัวเก็ง แต่มองในมุมจะจัดการกับอดีตที่ตามหลอกหลอนอย่างไร

นั่นคือ กรณีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และท่าทีต่อกองทัพ ที่พรรคก้าวไกล แสดงความก้าวร้าวมาตลอด

เมื่อต้องเข้าไปหาเสียงในค่ายทหาร พรรคก้าวไกลจึงตกเป็นที่จับตามองมากกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ

ไม่ได้มองว่า พรรคก้าวไกล จะไปชูนโยบายอะไร

แต่เป็นเรื่อง ท่าที เมื่อเข้าไปในค่ายทหาร

แล้วมันก็ชัดครับ!

จากการปราศรัยของ “อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” ที่มีตำแหน่งเป็น กรรมการบริหารพรรค ไม่ต่างจากเข้าไปขอกินน้ำแล้วไปบอกว่าบ้านนี้ไม่น่าอยู่

“ก่อนที่จะเดินทางมาปราศรัยในวันนี้ คิดอยู่นานว่าจะพูดอย่างไรให้มัดใจทหารทุกท่าน เลยตัดสินใจได้ว่าจะต้องพูดความจริง มีงานวิจัยออกมาว่า ไม่มีประเทศใดในโลกเจริญได้จากการทำรัฐประหาร

และไม่มีประเทศใดที่จะเจริญก้าวหน้าได้จากการขนนายพลในกองทัพมาบริหารประเทศ หากนับจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ระยะเวลากว่า 90 ปีที่ผ่านมา ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาที่ตกต่ำของระดับสิทธิมนุษยชนของคนไทยทั้งประเทศ เวลา 8 ปีของคุณประยุทธ์นั้นมากเกินพอแล้ว

มีแต่พรรคก้าวไกลเท่านั้น ที่เป็นฝ่ายค้านและเป็นกองหน้าตัวจริงในสภา พวกเราใช้เวลาทุกวินาทีในสภา ปกป้องผลประโยชน์ให้กับประชาชนทุกคน เราต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารชั้นผู้น้อย

เพราะถ้านายพลสามารถบริหารประเทศได้ดีจริง ป่านนี้กองทัพคงจะทันสมัยไปแล้ว เพราะเรามีนายพลในกองทัพเกือบจะมากที่สุดในโลก เมื่อเทียบสัดส่วนมากกว่าประเทศที่เจริญแล้วเสียอีก

แต่กองทัพเราก็ยังไม่ทันสมัย อยากเห็นกองทัพที่เล็ก แต่ทันสมัย ทหารมีช่องทางที่จะเจริญก้าวหน้าในอาชีพ จากทหารเกณฑ์มีช่องทางที่จะเป็นนายสิบ นายร้อย ต่อไปเรื่อยๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

ดิฉันอยากเห็นคนหนุ่มๆ ที่อยากเป็นทหาร ได้เป็นทหาร คนหนุ่มๆ ที่ไม่อยากเป็นทหาร ก็ไม่ต้องเป็น อยากเห็นการเป็นทหารโดยสมัครใจ ไม่ใช่บังคับ ไม่อยากเห็นคนหนุ่มที่จบวิศวะ จบจากต่างประเทศ ที่ไม่อยากเป็นทหาร จะต้องเสียเส้นทาง เสียอนาคตของเขาที่กำลังก่อร่างสร้างตัว กำลังมีอนาคตที่สดใสจะต้องสงัดไปเป็นทหารเกณฑ์ 2 ปี และดิฉันก็ไม่อยากเห็นคนที่ใฝ่ฝันอยากมีอาชีพทหาร แต่จับได้ใบดำก็อดเป็นทหาร”

คำปราศรัยบางส่วนก็อาจจะจริง แต่เจ้าของบ้านฟังแล้วจะชอบหรือเปล่า…ไม่รู้

แต่บางอย่างไม่น่าเชื่อว่าระดับแกนนำพรรคก้าวไกลที่ต้องเป็นพวกหัวกะทิระดับสุดยอด จะไม่รู้

คนที่อยากเป็นทหารเขาเข้าไปสมัครได้เลยครับ ไม่ต้องจับใบดำใบแดง

ไม่ต้องมานั่งร้องไห้โอดโอยว่า อยากเป็นทหารใจจะขาด แต่ดันจับได้ใบดำ

จอมพลฟรันซิสโก ฟรังโก ของสเปน แม้จะได้ชื่อว่าจอมเผด็จการ ในช่วงระยะแรกของสงครามโลกครั้งที่ ๒ ซึ่งยืนอยู่ฝั่งเยอรมนีและอิตาลี แต่หลังจากนั้น “ฟรังโก” เปลี่ยนนโยบาย พาสเปนออกจากการเกี่ยวข้องกับฝ่ายอักษะ

หลังจากนั้น “ฟรังโก” ต่อต้านคอมมิวนิสต์ ทำให้สเปนเป็นส่วนหนึ่งของยุโรปตะวันตกอย่างสมบูรณ์

ถ้าบอกว่าไม่มีประเทศไหนก้าวหน้าเพราะมีผู้นำเป็นนายพล ดูจะคิดน้อยไปหน่อย

หรือถ้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรีไทยที่ชื่อ พล.อ.เปรม ตินสูลานนท์ สร้างรากฐานของประเทศ ให้คนรุ่นหลังต่อยอด เก็บเกี่ยวมีกินกันอยู่ในวันนี้

ไม่ทราบว่า “อมรัตน์” รู้จัก โครงการอีสเทิร์นซีบอร์ดหรือเปล่า

แต่…ระดับมันสมองของพรรคก้าวไกล จะไม่รู้จักได้ไง

ต้องรู้จัก

แต่ไม่ให้เครดิต เพราะอะไร ก็น่าจะรู้ๆ กันอยู่นะครับ

ฉะนั้น ทหารจะกาเบอร์ ๖ หรือเปล่าก็ไม่รู้

หรือจะหกคะเมนตีลังกา อันนี้ก็ไม่รู้

อีกพรรคที่น่าสนใจคือ เพื่อไทย

เห็น “สิระ เจนจาคะ” ไปร้อง กกต.ให้ตรวจสอบกรณีที่ “สุรชาติ เทียนทอง” ผู้สมัครหมายเลข ๓ พรรคเพื่อไทย ขึ้นป้ายหาเสียง “รถไฟฟ้า ๒๐ บาทตลอดสาย ลดรายจ่ายประชาชน” ว่า เข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา ๗๓(๕) ที่ระบุว่า หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคามใส่ร้ายด้วยความเท็จจูงใจให้เข้าใจผิด ในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง หรือไม่

น่าคิดนะครับ นี่ไม่ใช่เลือกตั้งใหญ่ แค่เลือกตั้งซ่อม ถ้า “สุรชาติ” ชนะ ค่ารถไฟฟ้าจะ ๒๐ บาทตลอดสายเฉพาะที่เขตหลักสี่หรือเปล่า

ประเภทพอได้เป็น ส.ส. แล้วพูดอีกอย่างว่า ต้องให้เพื่อไทยเป็นรัฐบาลก่อนจึงจะทำได้ อย่าเชียวนะครับ แบบนั้นมันเข้าข่ายหลอกลวงจริงๆ

ต่อให้ “สุรชาติ” ชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์ ถล่มทลาย พรรคอื่นไม่ได้แม้แต่เสียงเดียว “สุรชาติ” ก็ทำให้รถไฟฟ้า ๒๐ บาทตลอดสายไม่ได้

ถ้าจะพูดความจริง เพื่อไทยเคยได้รับโอกาสเป็นรัฐบาลมาแล้ว และเคยใช้ประเด็นนี้หาเสียงมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำ

ไม่ใช่ทำไม่ได้นะครับ

ไม่ได้ทำ

ในคราวเลือกตั้งปี ๒๕๕๔ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” แถลงนโยบายรถไฟฟ้า เอ็มอาร์ที ๒๐ บาทตลอดสาย ว่า

“นโยบายนี้มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินการเพื่อเป็นการแก้ปัญหาการจราจร เพราะปัจจุบันมีรถจำนวนมาก เพื่อลดค่าใช้จ่าย ลดมลภาวะ และนโยบายนี้เริ่มทำมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช แล้ว ทั้งหมดนี้เราจะเร่งทำให้เสร็จโดยเร็ว”

ไม่ใช่สายเดียวนะครับ เพื่อไทยบอกว่าทำได้ ๑๐ สาย มันน่าตะลึงตรงที่สายที่ยังไม่สร้างก็ทำได้

สุดท้ายไม่ได้ทำ!

มีคนบอกว่า ที่ไม่ได้ทำนั้นไม่ใช่ความผิด “ยิ่งลักษณ์” แต่เพราะเกี่ยวข้องกับสัญญาสัมปทานที่รัฐบาลก่อนๆ ทำไว้ จึงทำไม่ได้

นี่เลย…สองสามวันที่แล้ว เพื่อไทย ยืนหน้ากระดานเรียงหนึ่งแถลงยืนยันว่า ทำได้! เป็นนโยบายเรื่องลดรายจ่ายให้ประชาชน

แต่พอฟัง “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” ส.ส.เชียงใหม่ แถลงแล้วน้ำตาจะไหล เข้าใจเลยว่าทำได้จริงๆ

“หน้าที่ ส.ส. คือการกระตุ้น ทั้งการตั้งกระทู้ถามหรือหารืออภิปรายในสภา เพื่อชี้ช่องทางให้รัฐบาลกระจ่างว่า เรื่องการทำราคาค่าครองชีพให้ต่ำเป็นหน้าที่ของรัฐและสามารถทำได้ไม่ยาก”

สรุปคือ ถ้า “สุรชาติ” ได้เป็น ส.ส.กทม. ก็จะเข้าไปถามรัฐบาลในสภาว่า “ขอ ๒๐ บาทได้มั้ย”

ฮ่วย! ตอนนี้เพื่อไทยไม่มี ส.ส.กทม.เข้าไปตั้งกระทู้ถามรัฐบาลในสภาเลยหรือไร

คิดกันได้แค่นี้จริงๆ หรือ?



Written By
More from pp
นายกฯ ติดตามสถานการณ์ PM2.5 กำชับประสานความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน เร่งบรรเทาผลกระทบระยะยาว ขอความร่วมมือปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่ป่า ยืนยันรัฐบาลมุ่งมั่นทำงานเต็มที่ เดินหน้าขับเคลื่อนงานทุกมิติ
18 เมษายน 2566 เวลา 12.40 น. บริเวณทางเชื่อมตึกสันติไมตรีและตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม...
Read More
0 replies on “เลือกตั้งซ่อมเลือกใคร-ผักกาดหอม”