น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ติดตามความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในชุมชนต่างๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่ได้รับจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีพี่น้องประชาชนหลายคนได้แสดงความวิตกกังวลว่าต่อสถานการณ์การชุมนุมของมวลชนกลุ่มต่างๆ จะส่งผลต่อการเมือง การแก้ไขปัญหาโควิด-19 และการฟื้นฟูประเทศ
ซึ่งตนได้ให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความมุ่งมั่นและจริงใจ พยายามทำทุกวิถีทางที่จะคลี่คลายสถานการณ์ทั้งวิกฤติโควิด และวิกฤติการเมืองไปพร้อมๆกันอย่างดีที่สุดและเร็วที่สุด
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า พี่น้องประชาชนยังตั้งข้อสังเกต กรณีที่มีนักการเมือง เช่นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์หลังการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมว่า มาทำไมตอนจบ เรื่องนี้ตนเชื่อว่า พี่น้องประชาชน รวมทั้งกลุ่มมวลชนต่างๆ รู้เท่าทันนักการเมืองแล้วว่า มีเจตนาอะไร การแสดงตนในพื้นที่ในช่วงเวลาที่สถานการณ์จบลง แล้วถ่ายภาพเผยแพร่ในโซเชียล เพื่อเรียกคะแนนนิยมช่วงชิงมวลชนใช่หรือไม่ เพราะหากมีความจริงใจและเป็นผู้นำที่แท้จริง ต้องลงพื้นที่ช่วยพูดคุยควบคุมและนำมวลชนให้เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบสันติวิธีและไม่ผิดกฎหมาย จึงจะเป็น “ฮีโร่” ที่แท้จริง ไม่ใช่เดินเกมแก้เก้อหวังผลทางการเมือง หวังคะแนนมวลชนแบบหลบหลังม็อบแบบนี้
“สิ่งที่นายพิธาและพรรคก้าวไกล ควรทำคือ ช่วยกันรณรงค์สื่อสารให้ม็อบทำการชุมนุมโดยสันติ ไม่พกพาอาวุธ ไม่ยั่วยุเจ้าหน้าที่หรือกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายและไม่ทำให้ประชาชนทั่วไปได้รับความเดือดร้อนจากการชุมนุมที่ฝ่าฝืนกฎหมายและฝ่าฝืนมาตรการควบคุมการแพรระบาดโควิด-19 ช่วยกันสร้างเวทีพูดคุยที่ลดการปะทะลดการยั่วยุอย่างสร้างสรรค์เป็นธรรม ไม่ใช่ออกมาแสดงแบบหลบหลังม็อบ สิ่งที่นายพิธาทำ ลงทุนน้อย แต่หวังกำไรมาก เชื่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเองก็ดูออกแล้วว่า ธาตุแท้ของนักการเมืองทำนาบนหลังม็อบ ที่คอยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อย่างที่ตนเองย้ำมาตลอดนั้น หน้าตาเป็นแบบไหน” น.ส.ทิพานัน กล่าว