11 ตุลาคม 2566 เวลา 10.30 น. ณ บริเวณหน้าตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เนื่องจากในวันนี้ครบ 15 วัน ที่ได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
อันดับแรกขอขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และเยี่ยมชมโครงการหัวโทนโมเดล เป็นโครงการแก้ไขปัญหาผู้ติดยาเสพติด โดยใช้ระบบผ่านแอพพลิเคชัน LINE เพื่อประมวลผลติดตามแก่ผู้ติดยาเสพติด
ซึ่งเป็นโครงการที่ได้ผลและทำให้ผู้ที่ติดยาเสพติดในพื้นที่ตำบลหัวโทน อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด จากผลการดำเนินโครงการทำให้ผู้ป่วยทุกคนกลายเป็นผู้ป่วยสีเขียว ใช้ชีวิตอยู่กับสังคมได้ สามารถทำงาน ใช้ชีวิตอยู่กับสังคมได้ตามปกติ ซึ่งปัจจุบันไม่มีสถิติการแจ้งเหตุผู้ป่วยจิตเวชในพื้นที่อีก
นายคารม กล่าวอีกว่า รัฐบาลและตัวเองมีความห่วงใยกลุ่มแรงงานไทยที่ไปทำงานประเทศอิสราเอล ซึ่งเมื่อวานนี้ ได้ติดต่อทางสำนักงานจัดหางานจังหวัด เช่น จังหวัดนครพนม จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดร้อยเอ็ด ที่มีประชาชนไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลประมาณ 193 คน แต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิต
โดยได้รับการแจ้งความประสงค์ที่จะเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว ทั้งนี้สำนักงานจัดหางานจังหวัด ได้ลงพื้นที่ให้คำปรึกษา รวมถึงให้กำลังใจ และมอบสิ่งของให้แก่ญาติผู้ใช้แรงงานด้วย
นายคารม กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มีโอกาสพูดคุยกับรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน จากการเข้าร่วมประชุมอยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวยุติลงโดยเร็ว ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลดีให้กับผู้ใด
ขอให้ประชาชนและญาติผู้ใช้แรงงานติดตามข่าวสารของกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานรายงานความคืบหน้าของสถานการณ์การอพยพคนไทยกลับมาในประเทศไทย เนื่องจากตอนนี้มีความประสงค์จะกลับประไทยจำนวนกว่า 1,000 คน
“ในส่วนประเด็นของอาวุธปืน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยได้นำเรื่องเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบ ซึ่งมีความคืบหน้าในการควบคุมอาวุธปืน กำกับไม่มีให้มีการออกใบอนุญาต (แบบ ป. 4) ควบคุมไม่ให้มีใบอนุญาตพกพา รวมถึงควบคุมการใช้แบลงค์กัน (สิ่งเทียมอาวุธปืน) นายคารม กล่าว”