ผักกาดหอม
ก็น่าจะครบทีม
เสื้อแดง สามนิ้ว พรรคฝ่ายค้าน สามประสานโค่นรัฐบาลลุงตู่
ที่จริงก็งงๆ อยู่เหมือนกัน “ลุงตู่” อยู่มาได้ไง ๗ ปีแล้ว
อายุมากกว่าทุกรัฐบาลหลังยุครัฐบาลป๋าเปรม
ในรอบ ๓๐ กว่าปีที่ผ่านมา “ลุงตู่” เป็นผู้นำยาวนานที่สุด
ทักษิณ ชินวัตร ยังทำได้แค่ ๕ ปี กับ ๒๒๒ วันเท่านั้น
อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุด ๔ ลำดับตามนี้ครับ
๑.จอมพล ป. พิบูลสงคราม ๙ ปี ๑๖๑ วัน
๒.พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ๘ ปี ๑๕๔ วัน
๓.จอมพลถนอม กิตติขจร ๗ ปี ๓๔๓ วัน
๔.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ขาดไม่กี่วันจะครบ ๗ ปี แต่หากรวมตำแหน่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เข้าไปด้วย ก็ทะลุ ๗ ปีไปแล้ว
ถ้า “ลุงตู่” ดำรงตำแหน่งครบวาระ คือเดือนมีนาคม ๒๕๖๖ จะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานเป็นลำดับที่ ๒ ทันที
แซง “ป๋าเปรม” ไปเฉียดฉิว
การเป็นนายกรัฐมนตรียาวนานของ จอมพล ป. จอมพลถนอม พออธิบายได้ว่า มีความเป็นเผด็จการเบ็ดเสร็จ
และยุคสมัยนั้นไม่มีโซเชียล
ไม่มีแรงกระเพื่อมแบบข้ามคืนเหมือนยุคนี้
แต่ปัจจุบัน มีหมดทุกอย่าง โซเชียล เฟกนิวส์ ปลุกม็อบโดยไม่ต้องเห็นหน้ากัน ไม่ต้องมีแกนนำ เพราะสั่งการจากโทรศัพท์มือถือ
“ลุงตู่” อยู่มา ๗ ปีแล้ว
ถ้าบอกว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลเบ็ดเสร็จ เป็นทรราช ๗ ปีที่ผ่านมาถือเป็นความล้มเหลวของกระบวนการเรียกร้องประชาธิปไตย อย่างสิ้นเชิง
ฉะนั้น….ขบวนการที่ไล่รัฐบาลลุงตู่ คือขบวนการประชาธิปไตย โดยฝ่ายประชาธิปไตยจริงหรือไม่
น่ากังขา!
ปรากฏการณ์ เสื้อแดง สามนิ้ว พรรคฝ่ายค้าน ไหลมารวมกัน ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่าประเทศไทยยังมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนัก ทุกพื้นที่
ขี้หมูไหล
การปรากฏตัวของ “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” เด่นชัดในการเชื่อมโยง สามนิ้ว เสื้อแดง และพรรคการเมืองในระบอบทักษิณ ว่าหลังจากนี้คือการเคลื่อนไหวทั้งในและนอกสภา
สอดประสานโค่นรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงให้ได้
ภายใต้เงื่อนไขประเทศบอบช้ำจากโควิด
ใช่แล้วครับ ๗ ปีผ่านมา กลุ่มเรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยเอา “ลุงตู่” ไม่ลง เพราะไม่มีเงื่อนไขที่สุกงอมพอจะสร้างพลังได้
มาวันนี้ สามนิ้ว เสื้อแดง และพรรคการเมืองในระบอบทักษิณ ใช้การระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ เป็นเงื่อนไขหลักในการโจมตีรัฐบาล
บริหารวัคซีนผิดพลาด
เศรษฐกิจพินาศ
สังคมแตกสลาย
มีคนตายเผาไม่ทัน
มีผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่รัฐบาลลุงตู่ต้องรับผิดชอบ
ในและนอกสภาจะตีประเด็นเดียวกัน เป้าหมายคือเปลี่ยนรัฐบาล
ฉะนั้นเบื้องหลังการขับเคลื่อน หนีไม่พ้น “การเมือง”
เสื้อแดง สามนิ้ว ไม่ใช่อื่นไกล มีความสัมพันธ์ไขว้กัน และชื่นชอบระบอบทักษิณ อยากให้ทักษิณกลับมาบริหารประเทศ
ถ้าเป็นคณิตศาสตร์ นี่คือโจทย์เดิม ที่ “ซ.ต.พ.” ไปแล้ว
เผาไปเลยครับผมรับผิดชอบเอง!
คนไทยค่อนประเทศยังจำประโยคนี้ได้
และคนที่ไม่รับผิดชอบกลับมานำม็อบอีกครั้ง
การชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ
มาตรา ๔๔ บัญญัติว่า
..บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ
การจํากัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทํามิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ตราขึ้นเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยสาธารณะ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อคุ้มครองสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น…
แต่รัฐธรรมนูญไม่ได้ให้เสรีภาพในการชุมนุมแบบไร้ขีดจำกัด
มองตามเกม Car Park นั่งรถกินลมชมวิว ขวางทางรถพยาบาลเล่น ของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ยังเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
ที่น่ากลัวกว่าและมาเงียบๆ คือมีการสร้างชุดข้อมูลมานานนับปีด้วยเฟกนิวส์ในโลกโซเชียล
และขณะนี้กำลังผลิดอกออกผล เป็นความเคียดแค้น ชิงชัง
กลายเป็นความเกลียด และแสดงออกด้วยความรุนแรงทั้งภาษา และพฤติกรรม
ซึ่งพบเห็นได้ทุกครั้งที่มีการชุมนุม
ถ้าเผาเลยครับพี่น้องผมรับผิดชอบเองในวันนั้นคือจุดพีกสุดของการชุมนุม
ในครั้งนี้ก็อาจไม่ต่างกันนัก เพราะมีการซ้อมเผากันมาเป็นระยะๆ แล้ว
“ชัยเกษม นิติสิริ” หนึ่งในรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตำหนิรัฐบาล ปกป้องม็อบสามนิ้ว ว่าประเทศชาติจะตกอยู่ในกลียุค เหลือเพียงซากปรักหักพัง รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จะได้ชื่อจารึกว่าเป็นรัฐบาลทรราชที่ทำให้ประเทศตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย
ดูเหมือนเป็นการประกาศตัว เพื่อไทยตัดสินใจให้ “ชัยเกษม นิติสิริ” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหนึ่งเดียวของพรรคแน่นอนแล้ว
เป็นการยืนยันว่า “สุดารัตน์-ชัชชาติ” คือคนนอกพรรคเพื่อไทยไปแล้วโดยปริยาย
ถ้าเปลี่ยนนายกฯ จาก “พลเอกประยุทธ์” มาเป็น “ชัยเกษม” ภาพที่เห็นรำไรคือ ไม่ต่างจาก “สมชาย วงศ์สวัสดิ์”
แค่หุ่นเชิด
ครับ…ต้องยกนิ้วให้ “ทิพานัน ศิริชนะ” ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พูดถึง “ชัยเกษม” ได้อย่างไม่มีที่ติ
…เรื่องซากปรักหักพัง พรรคเพื่อไทย และท่านชัยเกษม “อาบน้ำร้อนมาก่อน” ย่อมรู้ดีว่าซากปรักหักพัง การเผาบ้านเผาเมืองเป็นอย่างไร ขอให้รำลึกและนึกถึงเสียงประชาชนที่บริสุทธิ์ที่ถูกทำลายชีวิตและทรัพย์สินในเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองปี ๒๕๕๓ บ้าง และท่านชัยเกษมในฐานะที่เคยทำหน้าที่ผดุงความยุติธรรมมาก่อน ขอให้ท่านพิจารณารอบด้าน ครอบคลุม ยึดหลักนิติธรรม ด้วยใจที่ “เป็นธรรม” อย่าปล่อยให้มีการชุมนุมที่กระทบสิทธิเสรีภาพของประชาชนทั่วไป อย่าปล่อยให้การชุมนุมลุกลามเป็นการเผาบ้านเผาเมือง และอย่าปล่อยให้ผู้ต้องหาทำลายความศักดิ์สิทธ์ของกระบวนการยุติธรรมโดยการหลบหนีออกนอกประเทศอีกเลย…
คนเขารู้ทัน เล่นเกมเก่าที่โอเวอร์ไปแล้ว บทสรุปก็ไม่ต่างจากเดิม
สัมภเวสี พเนจรในขุมนรกต่อไป.