ปลัด สธ.ลงพื้นที่ตรวจโควิดเชิงรุกชุมชนวัดสร้อยทอง เขตบางซื่อ กทม.

 หากผลเป็นบวกนำเข้าระบบรักษาที่บ้านหรือชุมชน จัดตั้งศูนย์พักคอยวัดมัชฌันติการามรองรับ 100 เตียง

5 สิงหาคม 2564 ที่วัดสร้อยทอง เขตบางซื่อ กทม. นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และนายแพทย์วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันควบคุมป้องกันโรคเขตเมือง (สปคม.) ลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยบริการเชิงรุกในชุมชน CCR Team ในเขตบางซื่อ

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ในพื้นที่ กทม.ยังมีการติดเชื้อสูง เฉพาะวันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,160 ราย มาตรการป้องกันและควบคุมโรคจึงมีความสำคัญ ทั้ง การค้นหาเชิงรุก คัดกรองแยกตัวผู้ติดเชื้อเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อในครอบครัวและชุมชน ฉีดวัคซีนโควิด 19 ในกลุ่มเสี่ยง

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดหน่วยบริการเชิงรุกในชุมชน CCR Team สนับสนุนการดำเนินงานในพื้นที่ กทม. ตรวจคัดกรองด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit หากพบผู้ติดเชื้อจะส่งเข้าระบบการดูแลรักษาที่บ้าน (Home Isolation) หรือที่ชุมชน (Community Isolation) มีศูนย์บริการสาธารณสุขหรือคลินิกชุมชนอบอุ่นใกล้บ้านติดตามให้การดูแลรักษา และการฉีดวัคซีนโควิด 19 ในกลุ่มเสี่ยง 608 คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป เพื่อลดอัตราการป่วยอาการรุนแรงและเสียชีวิต ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม ถึง 4 สิงหาคม 2564 รวมแล้ว 2,579 ชุมชน มีหน่วยบริการและโรงพยาบาลให้บริการดูแลรักษาที่บ้านมากกว่า 238 แห่ง

สำหรับพื้นที่เขตบางซื่อ หน่วย CCR Team ได้ลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ดำเนินการได้ครบตามเป้าหมายทั้ง 50 ชุมชนจดทะเบียน ได้ฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยงก่อนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วประมาณวันละ 2-3 พันราย และดำเนินการต่อในชุมชนที่ไม่ได้จดทะเบียน 6-7 ชุมชน วันนี้ได้นำหน่วย CCR Team เป็นบุคลากรทางการแพทย์จากสถาบันป้องกันและควบคุมโรคเขตเมือง ร่วมกับสำนักอนามัย กทม. ลงพื้นที่วัดสร้อยทอง เพื่อตรวจคัดกรองเพิ่มเติม ติดตามประชาชนบางส่วนที่ยังเข้าไม่ถึงบริการ โดยเฉพาะผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง

ตั้งเป้าหมายตรวจเชิงรุกจำนวน 170 ราย มีทั้งชาวบ้านในชุมชนวัดสร้อยทอง กลุ่มเสี่ยงจากชุมชนอื่นและกลุ่มเสี่ยงที่อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) ค้นหาและนัดเข้ามารับการตรวจ โดยแต่ละวันจะหมุนเวียนลงพื้นที่แต่ละชุมชนอย่างต่อเนื่อง และวันพรุ่งนี้จะลงพื้นที่ชุมชนวัดเลียบราษฎร์บำรุง และชุมชนวัดเขมาภิรตารามในวันถัดไป

“การลงพื้นที่เชิงรุกในชุมชนเขตบางซื่อเพิ่มเติมนี้ และสัปดาห์นี้จึงเป็นการลงพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดการปะปนกันของกลุ่มเสี่ยง โดยใช้กลไกของเขตในการนัดกลุ่มเสี่ยงเข้ามาตรวจ เพื่อป้องกันการมารวมตัวแออัด โดยผู้ที่มีผลตรวจ ATK เป็นบวก ก็จะได้รับการประเมินจากเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. เพื่อเข้าสู่การรักษาที่บ้านหรือที่ชุมชน หากเข้ารักษาที่ชุมชนก็จะมีศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อเขตบางซื่อ ตั้งอยู่ที่วัดมัชฌันติการาม มีขนาด 100 เตียง เปิดบริการเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีบุคลากรโรงพยาบาลนพรัตนราชธานีมาร่วมดูแล ขณะนี้รับผู้ติดเชื้อแล้วประมาณ 22 ราย” นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าว