ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
จั่วหัวนี้ เป็นชื่อ พ็อกเกตบุ๊ก ของคุณสมบัติ เมทะนี ที่เขียนเล่าเรื่องราวชีวิตตัวเองน่ะ
พอดี วันหยุดผมนั่งคัดแยกหนังสือเก่า เพื่อนำไปบริจาค ก็จ๊ะเอ๋เอากับหนังสือเล่มนี้เข้า ซึ่งคุณสมบัติได้เขียนและสำนักพิมพ์ดอกหญ้าได้จัดพิมพ์ครั้งแรกเมื่อเดือนกุมาภา ปี 2539 นู้น
เจอปุ๊บ รีบเปิดอ่านปั๊บ และด้วยเพลิดเพลิน-สนุกกับเรื่องเล่าทั้งที่เคยผ่านตามาก่อน ก็เลยวางไม่ลง อ่านจบ (อีกเที่ยว) ซะจนได้!
พูดถึงพระเอกหนังไทยในอดีต ใครจะรัก-ชอบใครมีให้เลือกอยู่หลายหล่อ สำหรับผม.. “คุณสมบัติ เมทะนี” ดูจะเป็นรักเดียวที่เหนียวแน่น..
เรื่องไหน-เรื่องนั้นที่คุณสมบัติแสดงนำ ผมต้องดู!
และอย่าว่าโน้นนี้ ทุกวันนี้ก็ยังพยายามค้นหาหนัง (เก่า) ตามยูทูป ที่อดีตพระเอกตลอดกาลแสดงนอนดูอยู่เลย
นี่ ถ้าหนูกระแต อาร์สยาม เสพติดความเซ็กซี่ อวดหุ่นแบบโนสนโนแคร์แบบสื่อว่า อย่างผมก็เห็นจะต้องเรียกว่า “เสพติดสมบัติ” ได้อยู่กระมัง?
“ชีวิตผมเวียนว่ายอยู่กับวงการที่เรียกว่า “มายา” นี่มา 36 ปี (เขียนปี2539) เต็มแล้ว ซึ่งก็มีทั้งคนดีมาก ดีปานกลาง ดีน้อย และคนเกือบดี ได้สัมผัสกับบุคคลต่างอาชีพ ต่างศักดิ์ ต่างจิตใจ มาจนนับไม่ถ้วน
ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาของโลกที่จะต้องมีทั้งคนดี และไม่ดีคละกันไป แม้กระทั่งพระผู้ทรงศีล นายแพทย์ผู้มีจรรยา ผู้พิพากษาผู้มีความยุติธรรม ครูผู้เสียสละ คือทุกอาชีพ ก็มีทั้งคนดีและคนเลว
ในแวดวงการเมืองแทบไม่ต้องพูดถึง วิญญูชนย่อมจะดูออกจากพฤติกรรมของพวกท่านว่าใครเป็นอย่างไร สรุปแล้ว นักการเมืองเป็นนักแสดงที่เก่งกว่านักแสดงอาชีพหลายคน
แต่ก็ยังมีนักการเมืองที่ยังมีอุดมการณ์อีกหลายท่านที่ผมนับถือ อยากให้มาบริหารประเทศชาติไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง
เพราะเวลานี้ยังมีปัญหาอีกนานัปการที่ต้องการคนเก่ง คนดี และมีคุณธรรมมาแก้ปัญหาเหล่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาปากท้องของคนในชาติ ปัญหาการจราจร ปัญหายาเสพติด ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ที่นับวันแต่ละปัญหาก็ยิ่งทวีคูณ ไม่รู้ว่าผมจะมีสิทธิ์ที่จะได้เห็นไหมนี่”
ครับ..ก็เป็นบางถ้อยคำนำของผู้เขียน ซึ่งวันที่ 26 มิถุนานี้ คุณสมบัติจะมีอายุครบ 84 ปีเต็ม จะได้เห็น “คนเก่ง คนดี มีคุณธรรม” มาเป็นผู้นำแก้ปัญหาประเทศชาติได้ดังใจปรารถนารึยังก็มิทราบได้?
แต่ที่ได้ทราบ-ได้รู้ ในยุคที่ชื่อเสียงเฟื่องฟูนั้น คุณสมบัติมี “ทนายความ” ประจำตัว นาม “คุณชวน หลีกภัย” ส่วนจะใช่นักการเมืองที่อยากเห็นหรือไม่ คุณสมบัติบันทึกไว้แค่..
“หลังเสร็จสิ้นคดีที่ขับรถชน คุณชวนก็ลาลงไปสมัครเลือกตั้งที่ จ.ตรังบ้านเกิดของท่าน ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และได้เป็นนายกรัฐมนตรีในเวลาต่อมาสมดังปณิธานของท่าน”
เอ้า..แล้วตอนคุณสมบัติหันเล่นการเมือง ทำไมไม่สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แต่กลับไป “ซบเพื่อไทย” ล่ะ? หลายท่านอาจคาใจ เหมือนผมที่สงสัย..
โดนใครหลอกกระมัง?
