ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
“ขอโอกาสเข้าสภาไปด่าประยุทธ์”
เนี่ย..ก็ไม่รู้พ่อแม่พี่น้องเขต 9 จตุจักร-หลักสี่ (กรุงเทพฯ) จะให้โอกาสกับนายกรุณพล เทียนสุวรรณ หรือ “เพชร” ดารา-นักแสดงที่ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมในนามพรรคก้าวไกลขอหรือไม่?
แต่ถ้าไปลง “สะพานสูง” เขตบ้านผม ก็จะบอกเขาว่า..กลับไปยึดอาชีพดารา-นักแสดงเหอะ ที่ตรงนั้นเหมาะแล้ว!
เปล่า..ไม่ได้เหมาะในความหมายที่ไม่ดี แต่เหมาะเพราะฝีมือการแสดงของนายเพชร-กรุณพลได้รับการยอมรับทั้งจาก “ผู้สร้าง-ผู้กำกับฯ” ทั้งจากคนดู-ผู้ชม..
ไม่งั้นจะมีงานแสดงให้เห็นทางหน้าจอโทรทัศน์ตั้งแต่ปี 2544 เรื่อยมาจนปัจจุบันได้อย่างไร?
หรือว่า หลังจากที่ประกาศจุดยืนสนับสนุนผู้ประท้วงขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ เริ่มจะรู้สึกตัว ผู้สร้าง-ผู้กำกับชักเมิน-เหินห่าง ไม่ค่อยจะป้อนงานให้แสดง..
จึงฉวยโอกาสในช่วงที่พอจะมีกระแสติดตัวอยู่บ้าง (จากการด่านายกฯ ลุงตู่) ดีดตัวออกจากวงการ หวังจะได้มีงาน มีหน้ามีตาอยู่ในสังคมใหม่ ที่เรียกว่า “นักการเมือง”!
ซึ่งจะสมหวัง-สมคิดหรือไม่ วันอาทิตย์ที่ 30 มกรา.นี้ ก็จะได้รู้กัน แต่ที่นายเพชร-กรุณพลหาเสียงว่า..
“พรรคก้าวไกลและผมเห็นตรงกันว่า เราต้องการให้ประชาชนมีเสรีภาพ ทุกคนต้องเท่าเทียมกัน การสาธารณสุข การศึกษา สวัสดิการถ้วนหน้าต้องเกิดขึ้น พรรคก้าวไกลจึงส่งผมมาเป็นผู้สมัคร ส.ส.
หลายคนอาจจะมองว่าผมเป็นดารา แต่อยากย้ำว่าดาราเป็นเพียงอาชีพที่ใช้ทำมาหากิน แต่ดาราคนนี้เรียนจบเศรษฐศาสตร์ ดาราคนนี้เคยทำธุรกิจ
และดาราคนนี้พร้อมเข้าไปด่า พล.อ.ประยุทธ์ ในสภาฯ” นั้น
ดารา-นักแสดงรุ่นพ่อรุ่นแม่ได้ฟังแล้วจะรู้สึกอย่างไรไม่อาจทราบได้ แต่มีอยู่ 2-3 ท่านที่ได้ปรารภกับผม ถ้าคนเป็นดาราเป็นนักแสดงคิดได้แค่.. “ดาราเป็นเพียงอาชีพที่ใช้ทำมาหากิน”
ก็ดูจะเป็นคำกล่าวที่น่าเศร้า-สะเทือนใจ เพราะการเป็นดาราสำหรับคนรุ่นเก่านั้น เขาคิดถึง “สถาบันการแสดง” อาชีพที่แม้จะถูกนินทาด้อยค่าหยามหยัน “เป็นพวกเต้นกินรำกิน”
แต่พวกเขาคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ก็ไม่ย่อท้อหรืออับอาย ด้วยรัก-ศรัทธาในศิลปะการแสดง ต่างได้ช่วยกันสร้างสรรค์ ยกระดับการแสดงให้เป็นอาชีพที่สังคมยอมรับ จนสามารถลบล้างคำดูถูกนั้นลงได้
ดาราจึงไม่เพียงอาชีพที่ใช้ทำมาหากิน หากแต่เป็นอาชีพที่มีเกียรติ มีคุณค่า มีศักดิ์ศรีเหมือนเฉกเช่นทุกๆ อาชีพ กระทั่งอาชีพนักการเมือง!
เออ..แล้วนี่หากนายเพชร-กรุณพลได้รับโอกาส (ให้เข้าสภาไปด่าประยุทธ์) เป็นส.ส. วันข้างหน้าเขาจะพูดไม่หนอ..
“ส.ส.เป็นเพียงอาชีพที่ใช้ทำมาหากิน” น่ะ..หือ?