“คนปล้นชาติ” ที่โหยหา-เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

ยุคห้ามรถบรรทุกเข้ากรุงในชั่วโมงเร่งด่วน
“ประตูน้ำพระอินทร์” ย่านรังสิต
กลายเป็น “เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์” ไปโดยปริยาย
เพียงแต่ไม่มีบ่อน (เปิดเผย) แต่มีซ่อง (เปิดอ้าซ่า)!
ซ่องปลูกแบบชั่วคราว ทรงเดียวกันหมด
เป็นสิบ-เป็นร้อยซ่อง ใต้ถุนสูง ทรงศาลพระภูมิ เพื่อให้สอดคล้องกับพื้นที่ทุ่ง ซึ่งตอนปลายปี ทุ่งรังสิต เป็นพื้นที่รองรับน้ำเหนือหลาก

ถ้านั่งเครื่องบินตอนกลางคืนแล้วมองลงมา เผลอๆ อาจนึกว่า นี่เป็น “เมืองทิพย์-แดนสวรรค์” ที่ไหนซักแห่ง “ตามนิยายปรำปรา”

เพราะตรงนั้น จะเห็น “แผ่นดินเรืองแสงจ้า” กระจุกหนึ่ง ทั้งสีแดง น้ำเงิน เหลือง ขาว ยาวพรืดเป็นกิโลๆ ขนานไปกับถนน

และถ้ามองดีๆ…….
จะเห็นรถบรรทุกขนาด ๑๐ ล้อขึ้นไป จอดเรียงรายไปตามแนวถนน-แนวไฟนั้น ยาวนับเป็นกิโลๆ เช่นกัน
ยุคนั้น เขาเรียกว่ายุค “รักสิบล้อ ต้องรอสิบโมง”!

คือ ไม่ว่าสมัยนั้น..สมัยนี้ หรือสมัยไหน กรุงเทพฯ รถติดเหมือนกันหมด เพราะในตัวกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางทุกอย่าง รวมทั้งเป็น “ศูนย์กลางขนส่งสินค้า” ด้วย
รถบรรทุกจึงเป็น “เจ้าพ่อ”

สินค้าจาก “ใต้-เหนือ-ออก-ตก” จะวิ่งมารวมศูนย์ รวมโกดังในตัวกรุงเทพฯ หมด หรือจะทะลุต่อไปไหน ก็ต้องผ่านจากตัวกรุงเทพฯ ออกไปก่อน

รัฐบาลเลยออกมาตรการ ยังไม่ถึง ๑๐ โมงเช้า ห้ามรถ ๑๐ ล้อวิ่งเข้ากรุงเทพฯ!
เลยเกิดชุมทางรถสิบล้อขึ้น ทางเหนือ-อีสาน วิ่งมาจอดรอเวลา ๑๐ โมงเช้า ที่ย่านประตูน้ำพระอินทร์ เป็นร้อยๆ คัน

เมื่อมารวมกันอยู่เป็นนิคมคามเป็นปีๆ ก็เป็นธรรมชาติของสัตว์สังคม ที่ “สถานบริการครบวงจร” จะเกิดขึ้นตามเป็นเงาสังคม

ฝั่งหนึ่ง เป็นร้านโต้รุ่งล้วน เหล้ายาปลาปิ้ง มีครบ อีกฝั่งเป็นซ่องล้วน มีสะพานไม้พาดถนนกับซ่องบริการเสร็จสรรพ
สังคมยุคนั้น เรียกว่าเป็นยุค “บานบุรี”

คือผู้คนการเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่การสนุกสนาน นอกจากเรื่องคอมมูนิสต์ที่อเมริกันเข้ามาปลุกปั่นให้คนไทยตื่นกลัวแล้ว อย่างอื่นแทบไม่มี

ที่จู่ๆ ผมก็หยิบเอาเรื่อง “รังสิต-ประตูน้ำพระอินทร์” สมัยพระเจ้าเหามาคุย ทุกท่านคงสงสัยว่า เอ๊ะ…วันนนี้ ผมจะมาไม้ไหน?
ไม่ไม้ไหนหรอกครับ

คือบังเอิญวานซืน เห็นตึงตึง-โครมครามกัน เรื่องป้ายขนาดใหญ่ จู่ๆ โผล่ขึ้นตำตาคนขับรถ-ขับราแถวทางด่วนย่านแจ้งวัฒนะ ด้วยข้อความว่า
โจรปล้นชาติจะกลับมา
ประเทศชาติจะอยู่อย่างไร?

มุมขวาของป้าย มีตัวหนังสือเล็กๆ ว่า “พรรคไทยภักดี”
แจ้งวัฒนะ ย่านทางด่วนที่ติดป้าย……

มันทางเดียวกับที่จะไปประตูน้ำพระอินทร์-รังสิต ผมเห็น ก็เลยนึกถึงย่านนั้นขึ้นได้ ก็เท่านั้น ไม่มีอะไรหรอก
แต่ก็เป็นที่เปรี้ยวตาผู้พบเห็น ถึงขั้น ซี๊ดซ๊าด..ฮือฮากันมาก ถามกันขรม

“ใครวะ…โจรปล้นชาติ?”

แล้วเมื่อวาน “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” หัวหน้าไทยภักดี มือปราบ “รอแป๊บ…เดี๋ยวหนูถึง” ที่บุญทรงชะเง้อรออยู่ถึงทุกวันนี้ ก็ออกมาโพสต์ ว่า

Warong Dechgitvigrom
มีหลายคนถามผมว่า ข้อความที่ป้าย แถวทางด่วนแจ้งวัฒนะ “โจรปล้นชาติจะกลับมา” ผมหมายถึงใคร? ทำอะไร? อย่างไร?

ผมเลยอยากถามพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ กลับว่า ข้อความนี้คิดถึงใคร? ทำอะไร? อย่างไร?
ดูซิว่า แต่ละคน เราคิดตรงกันไหมครับ สำหรับความคิดผม จะเฉลยทีหลังครับ
อ้าว…แล้วกัน!

นึกว่าเจ้าของป้ายจะมาเฉลยถึงตัวคนปล้นชาติ กลับมาเล่น “กล่องสุ่ม” กับลูกค้าซะนี่
มันกว้างไปนิดนะคุณหมอ

เพราะคุณหมอใช้ศัพท์ว่า “คนปล้นชาติ” เดายาก เพราะมันเป็น “นปุงสกลิงค์” จะสุ่มว่าผู้ชาย ก็ไม่แน่ใจ หรือจะผู้หญิง ก็สองจิต-สองใจ

เพราะ “คนปล้นชาติ” นั้น มันเป็นได้ทั้งกับผู้ชายและกับผู้หญิง จะว่าไป มันก็มีเกิดขึ้นแล้วจริงๆ ทั้งชาย-ทั้งหญิงด้วยซ้ำ!
ใบ้หน่อยไม่ได้หรือคุณหมอ….

คนปล้นชาติที่ว่ามันจะกลับมานั่นน่ะ ชอบอมของหลวงหรือชอบกินขี้หมา!?
น่าาาาานะ….

ถ้าคุณหมอไม่ใบ้ ผมก็ไม่เล่น “กล่องสุ่ม” กะคุณหมอ ไม่อยากได้หรอก…รถผูกโบน่ะ

ผมว่า การยกเรื่องโกงชาติ เรื่องปล้นชาติ ขายชาติ มาหาเสียงชั่วโมงนี้ กลับถูกสเปก “สังคมรุ่นใหม่”

คือวันนี้ เมืองไทย เหมือนคน ๒ ประเภท ประเภทหนึ่ง ชอบเล่นสล็อตแมชชีน อีกประเภท รู้ว่าการพนัน ไม่แตะเลย
พวกที่ไม่แตะ คือยังไงๆ ก็ไม่เลือกพวกโกงชาติ ปล้นชาติ ขายชาติ อยู่แล้ว

ส่วนพวกเล่นสล็อต ๑๐ บาท เอาขี้หมากองเดียว ยังไงมันก็เลือก และยิ่งตอนนี้ มันยิ่งอยากจะเลือก
เพราะอะไร?

เพราะตู้สล็อตที่มันโยกตอนนี้ มีแต่ตู้เปล่า เจ้ามือไม่เอาเงินใส่เหมือนแรกๆ ฉะนั้น โยกไปก็มีแต่ลม กับหมายเรียกจากตำรวจ

เมื่อกระพือโหมกันเรื่องเลือกตั้ง ยิ่งเห็นป้าย “โจรปล้นชาติจะกลับมา” แทนที่จะกลัว กลับดีใจกันยกใหญ่

มึง…ไอ้หรืออีโจรก็ได้ทั้งนั้น กูจะเลือกพวกมึง เพื่อให้มึงได้กลับมาไวๆ
จะได้มาปล้นชาติ “เอามาแบ่งกัน” อีกไงล่ะ!

ก็โจรปล้นชาตินี่แหละ เป็นอนาคตใหม่, เป็นความหวังใหม่ เป็นทางก้าวหน้า-ก้าวไกล ของสังคมคนรุ่นใหม่ ที่เสพติดการหาเงินง่ายๆ จากการโยกสล็อต
ตู้เก่า เฮงซวย นอกจากขี้โม้แล้ว ยังขี้เหนียวอีกตะหาก!

ก็หวังรอ “ตู้ใหม่” นักปล้นชาติมืออาชีพนี่แหละ เลือกตั้งมา…เงินก็ต้องมา บัตร ๒ ใบ ต้องจ่าย ๒ เด้งนะโว้ย อย่าทำเก๋า!

นี่พูดกันตรงๆ นะ
ผมสงสัยจริงๆ ว่าพวกนักเลือกตั้ง มันไปกินอะไรมา ถึงได้นอนเพ้อละเมอพกแต่เรื่องเลือกตั้ง?

หลายพวก-หลายพรรค เป็นตุ-เป็นตะ ยังกะจะเลือกกันเดือนนี้-เดือนหน้า
นอกจากพวกสส.ในสภาทั้งฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาล “รวมหัวกัน” ทำให้สภาล่มทุกนัดแล้ว

หรือไม่ก็ พอมีกฎหมายรัฐบาลเข้าสภา ก็โหวตคว่ำ เพื่อให้เป็นเหตุต้องยุบสภาตามกฎหมายแล้ว

ผมยังมองไม่เห็นอะไรเป็นเหตุให้ “ต้องยุบสภา” สนองตัณหาพวกแทงไฮโลถูกแดกแล้วร้องให้เขย่าใหม่ในตอนนี้
ถ้าอยากกันจนตัวซี้-ตัวสั่น….

นายกฯ หมั่นไส้ “ยุบสภา” วันนี้-พรุ่งนี้ไปเลย แล้วเลือกตั้งด้วยกติกาเก่าเป็นหลัก จะเอากันงั้นมั้ยล่ะ?
ก็ไม่เอา

จะเอาแบบชัวร์ๆ “บัตร ๒ ใบ” แลนด์สไลด์ อย่างที่มั่นใจ “กูมาแน่”
แต่นั่น ทั้งกฎหมายเลือกตั้ง ทั้งกฎหมายพรรคการเมือง ยังไม่เป็นตัวด้วยซ้ำ แล้วจะกระสันรีบกระดวนเลือกตั้งกันไปทำไม?

ยังไงๆ ก็ กรกฏา.๖๕ นั่นแหละ การแก้รัฐธรรมนูญเพื่อสำเร็จความใคร่ของสส.กันเองโดยตรง จึงจะถึงจุดกระสันที่สมประสงค์ ครบองค์ทางเลือกตั้ง

อีกอย่าง รัฐบาลยังมีงานสำคัญเป็นหน้า-เป็นตาของประเทศชาติที่ต้องทำ คือเป็นเจ้าภาพงาน APEC 2022
มันเป็นงานระดับโลก….

เป็นเกียรติ เป็นศักดิ์ศรีประเทศ ที่ระดับผู้นำโลกหลายสิบประเทศ เช่น โจ ไบเดน, สี จิ้่น ผิง,ปูติน จะมาพร้อมหน้ากันที่ ภูเก็ต ประเทศไทย

ราวๆ เดือนพฤศจิกา.๖๕ ถ้าโลกไม่ถึงขั้น “โลกาวินาศ” ไปเสียก่อน ศูนย์อำนาจโลก จะมารวมกันที่ประเทศไทย!
ในเมื่อไทยเป็นเจ้าภาพ ถ้ายุบสภา เท่ากับตอนนั้น พลเอกประยุทธ์ เป็น “นายกฯ รักษาการ”

แล้วใครเขาจะบ้ามาประชุมกับนายกฯ รักษาการล่ะ ซึ่งไม่มีศักดิ์-ไม่มีสิทธิ์ ที่ไปตกลง ไปลงนามอะไรกับเขาได้เลย
อย่างดีที่สุด เป็นการให้เกียรติประเทศไทย

แต่ละประเทศเอเปก เขาอาจจะส่งแค่รัฐมนตรีช่วยหรือระดับทูตซักคนมาพอเป็นพิธีก็ได้
ฉะนั้น ผมจึงมองว่า จะบ้าเลือกตั้งกันไปเพื่ออะไรตั้งแต่ตอนนี้?

กุมภา.๖๖ นั่นแหละ เร็วสุด ถ้าอยากกันนัก!
หรือถ้าทนรอกันไปถึงขนาดนั้นไม่ได้ ก็มีอีกทาง

ให้ “ไอ้คนปล้นชาติ” มันเข้ามาออกหน้านำ “จับประยุทธ์-ยึดทำเนียบ” สถาปนาอำนาจไปเองเลย
ส่วนไอ้ตี๋ ๒ ตัวนั่นน่ะ….

มันดีแต่ “เห่าในรั้ว” กล้าโผล่หัวเองซะที่ไหนล่ะ!
พวกที่ถูกหลอกไปติดคุก “กำลังแค้น” เห็นว่า มีการวางแผนถลกหนัง “นายกฯ โซเชียล” กันอยู่มิใช่รึ?


Written By
More from plew
สังคมรู้ทัน “ความตาย” ก็มาถึง
มกราคม ๒๕๖๓ ปีใหม่…… สดๆใหม่ๆ เพิ่งออกจากเตาไฟ หอมมมมกรุ่น ชื่นใจ! ชวด ที่ไม่ชังชาติ….. หนูเล็ก หนูใหญ่ หนูพุก...
Read More
0 replies on ““คนปล้นชาติ” ที่โหยหา-เปลว สีเงิน”