ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
“ดาราที่ฉีดวัคซีนก่อนประชาชน..
คืออภิสิทธิ์ชนที่เอาเปรียบ, เห็นแก่ตัว, เอาตัวรอด และเหยียบหัวประชาชน หากไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงที่รัฐรับรอง”
นี่..เป็นข้อความที่นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ผู้ดำเนินรายการ “วอยซ์ทีวี” ลูกจ้างของนายโอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร ได้โพสต์
ซึ่งผมเองพยายามจะคิดตาม-มองตามเพื่อให้เห็นตรงกับ “ทัศคติ” นี้ แต่ที่สุด ไม่ว่าดาราที่ได้ฉีดวัคซีนจะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่รัฐรับรองหรือไม่ก็ตาม..
ผมก็ไม่อาจจะใช้อารมณ์ ความรู้สึกตัดสินตามนายศิโรตม์ได้ว่า.. “ดาราเหยียบหัวประชาชน”!
กลับกัน ผมมองว่า การที่ดาราฉีดวัคซีนก่อน ถือเป็นการเสียสละ ยอมเสี่ยงกับความเป็นความตายในท่ามกลางความไม่วางใจ เชื่อมั่นในความปลอยภัยของ “วัคซีน” แต่ละยี่ห้อ..
ที่ขนาดว่า “เชื่อหมา มากกว่าเชื่อหมอ” กันอย่างที่รู้-เห็น!
นายศิโรตม์ก็เห็น..ว่าคนจำนวนมากที่เลี่ยงจะไม่ฉีด โดยยก “ความปลอดภัย” บ้าง ยกการไม่มีสิทธิเลือกบ้าง ยก “วัคซีนเซินเจิ้น” บ้าง ขึ้นมาอ้าง
แล้วอย่างนี้ นายศิโรตม์ยังคิด-ยังมองดาราที่ฉีดวัคซีนก่อน คืออภิสิทธิ์ชนที่เอาเปรียบ, เห็นแก่ตัว, เอาตัวรอด และเหยียบหัวประชาชน อยู่อีกหรือ?
จะกลุ่มเสี่ยง-ไม่เสี่ยง ใครมีช่องทาง-โอกาสก็ไปฉีดเถอะ ส่วนคนที่ขวางการฉีดวัคซีนก็เห็นจะจริงอย่างที่คุณนก-ฉัตรชัย ดุริยประณีต นักดนตรี สมาชิกวงเฉลียง โพสต์..
“สรุปให้เลย นาทีนี้ใครขวางการฉีดวัคซีน คือคนที่ไม่รักคนไทย คือคนที่ไม่อยากให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ คือคนที่ไม่อยากให้การค้ากลับมาเหมือนเดิม
ไม่อยากให้คนได้ออกมาเที่ยวเตร่เหมือนเดิม ไม่อยากให้คนออกไปดื่ม กิน กันได้เหมือนเดิม ไม่อยากให้นักร้อง นักดนตรี ออกไปทำมาหากินกันได้เหมือนเดิม
ไม่อยากให้ธุรกิจ ปากท้องชาวบ้านร้านตลาดกลับมาเป็นเหมือนเดิม สรุปได้ว่ามันคนนั้นเป็นคนเลวมาก..
ผมสรุปได้แล้วว่า เรื่องวัคซีน เป็นความเชื่อทางการเมืองชนิดหนึ่ง ไม่ใช่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ วัคซีนที่ไทยซื้อ ไทยใช้ ฝ่ายตรงข้ามลุงตู่มองว่าไม่ดีทั้งหมด
ถ้าไทยซื้อไฟเซอร์แต่แรก ไฟเซอร์ก็จะไม่ดี ถ้าไทยไม่ใช้แอสตร้า แอสตร้าก็จะเป็นวัคซีนวิเศษ ที่บางคนโหยหา สรุปว่า ชีวิตใคร ชีวิตมัน ว่ากันไป
เถียงกันบนความเชื่อ ไม่ได้เถียงบนความรู้ เปล่าประโยชน์..วัคซีนที่ต้องใช้เวลาทำสิบปี แต่สามารถทำเสร็จในปีเดียว รับรองว่า ไม่มีตัวไหนดี ไม่มีตัวไหน perfect สักยี่ห้อเดียว
แต่วัตถุประสงค์คือ ให้ใช้ฉีดกันตายกันไปก่อน แค่นั้น คนฉีดแล้ว ถ้าติดโควิด จะไม่ป่วยหนักถึงตาย ก็ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว”
ครับ..ใครจะเชื่อ-ไม่เชื่อคุณฉัตรชัย (สรุป) ก็ช่าง สำหรับผมเชื่อมาตั้งแต่เห็นส.ส.พรรคก้าวไกลแห่ไปให้คุณหมอฉีดวัคซีนก่อนใครตอนนู้นแล้ว..
ว่าแต่ นายศิโรตม์ไม่ทันมองสิท่า จึงไม่มีคำว่า..
ส.ส.เหยียบหัวประชาชน!