นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ติดตามการบริหารจัดการการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดยะลา นราธิวาส ปัตตานี สตูล และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา
ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 นับจากวันที่ 1-17 เม.ย. จำนวน 539 ราย พบในจังหวัดสงขลา 179 ราย (ส่วนใหญ่ติดจากสถานบันเทิง) นราธิวาส 348 ราย (ส่วนใหญ่ติดจากเรือนจํา) ปัตตานี 6 ราย ยะลา 5 ราย และ สตูล 1 ราย ในขณะที่ประเทศมาเลเซียที่มีชายแดนติดกัน มีผู้ติดเชื้อเพิ่มประมาณ วันละ 1,500 – 2,000 ราย
ซึ่งนายกรัฐมนตรีสั่งการให้อำนวยความสะดวกคนไทยที่จะเดินทางกลับมาจากมาเลเซีย พร้อมปฏิบัติตามมาตรสาธารณสุขในการคัดกรองโควิด 19 อย่างเคร่งครัด
สำหรับการดำเนินการเพื่อรองรับการแพร่ระบาด ศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) รายงานว่า ศอ.บต.ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 12 คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาคราชการ และองค์กรทางศาสนา โดยแบ่งเป็น
1)การจัดหาเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งเตียงในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม และ Hospitel มีจํานวน รวม 1,933 เตียง (ณ 11 เมษายน ) แยกเป็น จังหวัดนราธิวาส 1,245 เตียง สงขลา 171 เตียง ปัตตานี 218 เตียง ยะลา 179 เตียง และสตูล 120 เตียง
2)การซักซ้อมความเข้าใจในการปฏิบัติศาสนกิจทางศาสนาตามประกาศของสํานักงานจุฬาราชมนตรีและคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อระดับจังหวัด เพื่อผู้เกี่ยวข้องจะได้สื่อสารให้ประชาชนได้ทราบและถือปฏิบัติอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะในช่วงเทศการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน และ
3)การดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มบุคคลากรทางการแพทย์และกลุ่มเสี่ยงตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกําหนด ในระยะแรก แต่ละจังหวัดได้รับ 10,000 โด๊ส รวม 50,000 โด๊ส ส่วนการบริหารจัดการด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย ที่ประกอบด้วย ทางบก 7 ด่าน ทางน้ํา 2 ด่าน
แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน จึงอนุญาตให้คนไทยเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซียเข้าทางด่านถาวรทางบกเพียง 4 ด่าน (สุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส, ด่านเบตง จังหวัดยะลา, ด่านสะเดา จังหวัดสงขลา และด่านวังประจัน จังหวัดสตูล) สัปดาห์ละ 3 วัน (วันจันทร์ พุธ และศุกร์) ด่านละไม่เกิน 125 คนต่อวัน
ทั้งนี้ การจำกัดการเดินทางเข้าประเทศดังกล่าว ไม่กระทบการค้าชายแดน เพราะยังคงมีการนําเข้าและส่งออกสินค้าเป็นปกติโดยเฉพาะสินค้าที่จําเป็นในการอุปโภคและบริโภค และดําเนินการตามมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวด
“นายกรัฐมนตรียังได้ส่งความปรารถนาดีไปยังพี่น้องชาวไทยมุสลิมภาคใต้ ที่ปฏิบัติศาสนกิจสำคัญในเดือนรอมฎอน และขอให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนการดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในทุกๆด้าน เพื่อความปลอดภัยสุขภาพของพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ทุกคน” นางสาวรัชดา ฯ กล่าว