ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
ปัญหาตัวเองก็อีรุงตุงนัง..
นี่..เต้-มงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ ยังจะมีเวลาเสนอหน้าให้ “ยกเลิกเพลงชาติ” แล้วใช้เพลงอื่นมาแทนไปพลางๆ ก่อนอีกรึ?
ถามจริง..กินยาผิดซอง หรือแค่ต้องการจะประโคมกระแสตัวเองให้โดดเด่นในสภา..หือ?
ก็ไม่รู้ว่า.. “สัปปายะสภาสถาน” ก่อนเปิดใช้อย่างเป็นทางการ ได้มีการทำบุญทำพิธีทางศาสนาแล้วรึยัง?
ถ้ายัง..ผมว่าท่านประธานรัฐสภา คุณชวน หลีกภัย น่าจะได้นิมนต์พระคุณเจ้าไปสวดเจริญพระพุทธมนต์เสียหน่อยจะดีไหม เผื่อผีห่าซาตาน หรือเจ้าที่เจ้าทางจะได้หยุดออกฤทธิ์สำแดงเดช..
ให้ส.ส.-นักการเมืองเพลาๆ อาการบ้าลงได้บ้าง!
และนู่น..แม้จะไม่ถึงกับบ้า แต่คำว่า “กาลเทศะ” มันสะกดยากรึยังไง?..ที่จริงผมก็ไม่อยากจะวอแวเอากับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรอก แต่บางเรื่องก็เหมือนอย่างที่คุณธนกร วังบุญคงชนะว่า..
“คุณหญิงหน่อยไม่พูดก็คงไม่มีใครว่า” นั่นแหละ!
กรณีคนร้ายยิ่งถล่มป้อม ชรบ. ลำพะยา จ.ยะลา ชาวบ้านเสียชีวิต 15 ราย บาดเจ็บ 5 คน ก็เหมือนกัน
ในท่ามกลางความโศกเศร้าของคนทั้งประเทศ และได้ร่วมกันประณามเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนไร้มนุษยธรรม แต่คุณหญิงหน่อยยังมีอารมณ์ที่จะจิกกัดรัฐบาล-พล.อ.ประยุทธ์..
“แม้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์มีการเพิ่มงบประมาณความมั่นคงสูงขึ้นทุกปี แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่ายังไม่สามารถตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาได้ จึงอยากเสนอให้จัดสรรงบประมาณอย่างโปร่งใส
โดยเฉพาะเรื่องงบลับ ซึ่งอาจทำให้สังคมเคลือบแคลงใจ อีกทั้งในส่วนกระบวนการยุติธรรม ต้องป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาและได้รับความเป็นธรรมทุกฝ่าย เพราะถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในพื้นที่”
มันใช่เวลาที่จะพูด ที่จะตำหนิเหรอคุณหญิง?..เก็บอารมณ์แค้น-ชัง (ส่วนตัว) เอาไว้ก่อนเถอะ ค่อยไปพูดไปอภิปรายกันในสภาโน่น! (อ้อ..ลืมไป คุณหญิงหน่อยไม่ได้เป็นส.ส.นี่)
ดูชาวบ้านที่เขาอยู่ในเหตุการณ์สิ แม้จะตกอยู่ในสภาพอกสั่นขวัญหาย-แค้นเต็มอก แต่คุณทนง ไหมเหลือง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลลำพะยา ก็ยังมีสติสัมปชัญญะพูด..
“วันนี้ตนได้นำพี่น้องประชาชนชาวตำบลลำพะยาออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งการสูญเสียในครั้งนี้ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของตำบลลำพะยา
ตนและชาวบ้านอยากขอประณามการก่อเหตุความรุนแรงในครั้งนี้..อยากให้ผู้ก่อเหตุคิดสักนิดว่า หากคนที่เสียชีวิตเป็นญาติของตนเองเขาจะรู้สึกอย่างไร
สำหรับผู้ก่อเหตุรุนแรงนั้นไม่ว่าจะมาจากฝ่ายไหน อยากให้เลิก และยุติการกระทำเช่นนี้เสียที”
พวกเขาไม่เอ่ยปากโทษใคร ไม่ว่าจะตำรวจ ทหาร รัฐบาล เพราะคนในพื้นที่รู้-เข้าใจ ทุกรัฐบาลได้ใช้ความพยายามเต็มกำลัง ที่จะให้ 3-4 จังหวัดชายแดนใต้เกิดความสงบร่มเย็น
แต่สิ่งที่พวกเขาค้างคาใจ และเก็บความรู้สึกอยู่ในอกด้วยความอัดอั้นคับแค้นก็คือ..ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ ในปัตตานี-ยะลา-นราธิวาส มาจะสองทศวรรษ
ไม่เคยเห็นส.ส.-นักการเมืองในพื้นที่ พูด แสดงบทบาท หรือเสนอแนวทาง เป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรมให้พอได้เป็นความหวังเลยสักคน..
ทียังงี้ คุณหญิงหน่อยไม่เห็นจะแกว่งปากตำหนิบ้างล่ะ?