ม.๑๑๒ กับ ‘เจตนา’

ผักกาดหอม

มีประเด็นน่าสนใจ

            วานนี้ (๒๖ มกราคม) ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.๓๐๔๙/๒๕๖๒

  คดีนี้พนักงานอัยการคดีอาญา ๗ เป็นโจทก์ฟ้องนายจือเซง แซ่โค้ว หรือนามปากกา “สมอลล์ บัณฑิต อานียา”  อายุ ๘๐ ปี

            เป็น นักเขียนนิยาย แนวร่วมคนเสื้อแดง เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒

            “….ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์และจำเลยนำสืบแล้ว พยานโจทก์เห็นว่าคำว่าฝุ่นละอองที่ติดอยู่ที่ฝ่าเท้า มาจากคำราชาศัพท์ว่าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท

            ขณะที่ฝ่ายจำเลยเห็นว่าฝุ่นละอองเป็นคำทั่วไป มีความแตกต่างจากคำว่าฝ่าละออง และไม่ได้เอ่ยชื่อผู้ใด ซึ่งอาจตีความแตกต่างกัน การใช้คำพูดดูหมิ่นหรือไม่ต้องพิจารณาภาพรวม โอกาส สถานที่ เป็นการใส่ความยืนยันหรือไม่ หมายถึงบุคคลใดโดยเฉพาะหรือไม่

            ข้อความที่จำเลยกล่าวไม่มีข้อความสื่อถึงในหลวงรัชกาลที่ ๙ เป็นข้อความสามัญไม่ใช่ราชาศัพท์

            ประกอบกับจำเลยเบิกความเป็นคนจีน คำว่าคุณค่าแห่งความเป็นคน จำเลยต้องการสื่อให้คุณค่าความเป็นคนสูงขึ้น คำว่าฝุ่นละอองมาจากหนังสือที่จำเลยอ่านใช้คำว่าใต้เท้า ไม่ได้หมายถึงในหลวงรัชกาลที่ ๙ พยานโจทก์มีหลักฐานสงสัยตามสมควรว่าหมายถึงในหลวงรัชกาลที่ ๙  หรือไม่ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย พิพากษายกฟ้อง….”

            คดีนี้อุทธรณ์ต่อหรือไม่ต้องจับตาดู

            แต่ในเชิงวิชาการมีประเด็นให้ถกเถียง

            ในอดีต จือเซง แซ่โค้ว หรือนายบัณฑิต เคยถูกดำเนินคดีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ครั้งแรก เมื่อปี ๒๕๑๘ จากการทำสัญลักษณ์ธงแดง

            ถูกจับโดยตำรวจ สน.ชนะสงคราม แต่ได้รับการปล่อยตัว เพราะเจ้าหน้าที่เห็นว่าเขามีอาการทางจิต

            ต่อมาโดนอีก ๒ คดี

            คดีแรกคือ กรณีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในงานประชุมสัมมนาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมกับศาลรัฐธรรมนูญที่จัดขึ้นในหัวข้อ “กฎหมายพรรคการเมือง: โอกาสและข้อจำกัดในการส่งเสริมและพัฒนาพรรคการเมือง”

            พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต. (ขณะนั้น)  แจ้งความกล่าวหาบัณฑิตว่า พูดแลกเปลี่ยนในงานเสวนาและขายเอกสารที่จัดทำขึ้นเองมีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นฯ

            คดีนี้ ศาลฎีกาพิพากษาเมื่อ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ให้จำคุก ๔ ปี รอลงอาญา ๓ ปีเนื่องจากเห็นว่าบัณฑิตมีอาการทางจิตเภท

            อาการทางจิต เป็นไปตามคำเบิกความของนายแพทย์ชำนาญการจากสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์

            กล่าวโดยสรุป นายบัณฑิตมีร่องรอยความเจ็บปวด ยึดติดกับความคิดซ้ำๆ มีโอกาสก่อคดีเพิ่มอีกแต่ก็สามารถตอบโต้คำถามแบบคนทั่วไปได้

            แต่สามารถต่อสู้คดีได้!

            อีกคดีเกิดขึ้นหลังการรัฐประหาร ๒๕๕๗ เมื่อวันที่  ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ บัณฑิตไปแสดงความเห็นที่งานเสวนาระดมความเห็นเรื่องการปฏิรูปของพรรคนวัตกรรม  คดีนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลทหาร


            ตุลาคม ๒๕๕๙ หลังการสวรรคตของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ บัณฑิตเคยโพสต์เฟซบุ๊กว่า ถูก “ล่าแม่มด”  โดยถูกด่าทอและคุกคามเอาชีวิตในโลกโซเชียลมีเดีย

            จากนั้นไม่กี่วันตำรวจและทหารได้คุมตัวเขาจากห้องพักไปยัง สน.หนองค้างพลู โดยระบุว่า เขาโพสต์แสดงความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ อย่างไม่เหมาะสมกับช่วงเวลาแห่งความเศร้าโศกของประชาชนทั้งประเทศ

            อย่างไรก็ตาม ในครั้งนั้นเป็นเพียงการตักเตือนและทำข้อตกลงกับนายบัณฑิตว่าจะไม่ทำพฤติกรรมเช่นนี้อีกและบัณฑิตได้รับปากเจ้าหน้าที่โดยดี

            นายทหารที่ดูแลพื้นที่ระบุว่า หากเขายังมีพฤติกรรมการโพสต์เช่นเดิมจะดำเนินการดำเนินคดีตามมาตรา ๑๑๒  ให้ถึงที่สุด

            และสุดท้าย ๑๒ กันยายน ๒๕๕๘ มีการจัดเสวนาทางวิชาการหัวข้อ “รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช?” จัดโดยขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (NDM) ที่คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

            นายบัณฑิตแสดงความคิดเห็นกล่าวถ้อยคำต่อผู้เข้าร่วมเสวนาตอนหนึ่งว่า คุณค่าแห่งความเป็นคน และศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ของคนไทยทั้งแผ่นดิน จะต้องสูงกว่าฝุ่นละอองที่ติดอยู่ที่ฝ่าเท้าของคนบางคน


            ศาลพิพากษายกฟ้องตามที่เกริ่นข้างต้น

            ผมเข้าไปหาข้อมูลของ จือเซง หรือนายบัณฑิต พบประเด็นที่น่าสนใจ

            เว็บไซต์ต่อต้านสถาบันพูดถึง นายบัณฑิต เยอะพอควร

            เช่น….

            “…ตอนนี้คุณบัณฑิต อาร์ณีญาญ์ยังขาดแคลนทุนทรัพย์สำหรับฟ้องร้องกลับคดี ม.๑๑๒ ทั้งในไทยและ UN  อีกทั้งยังต้องรักษาโรคความดันโลหิตสูง โรคไต ฯลฯ อีกด้วย แต่ไม่ใช่โรคจิตอย่างแน่นอนเพราะคุณบัณฑิตยืนยันอย่างแข็งขันว่าเขามีสุขภาพจิตดีเกินร้อยด้วยซ้ำไป…”

            “…คุณบัณฑิตยืนยันมีสุขภาพจิตดี มีหน้าที่ลุยฟ้อง  UN ต่อ…”

            นายบัณฑิต มีผลงานเขียนหลายสิบเล่ม

            ที่เด่นน่าสนใจ อาทิ…

            ทักษิณ ชินวัตร

            จดหมายถึงทักษิณ

            ทักษิณสู้เพื่อชาติ

            บทภาพยนตร์เรื่อง คณะประชาชนปฏิวัติ

            บิดาของท่าน บิดาของข้าพเจ้า

            นักแสดงละครกับพระเจ้าแผ่นดิน

            โดยเฉพาะเรื่องหลังหมิ่นเหม่ ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างยิ่ง

            นั่นคือนายบัณฑิต ที่ถูกระบุว่า มีอาการทางจิตเภท

            แต่ยืนยันกับแฟนคลับในการระดมทุนว่า สุขภาพจิตดีเกินร้อย

            คำว่า “ฝุ่นละอองใต้เท้า” โดยบริบทแล้วความหมายจะแตกต่างอย่างสิ้นเชิง หากคนพูดมีพื้นฐานความคิดที่แตกต่างกัน

            และต้องไม่ใช่ความคิดฉาบฉวย

            แต่เป็นความคิดจากความเชื่อที่มีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน

            ครับ…คดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด

            หากถึงที่สุดแล้ว และเป็นบรรทัดฐานว่า “ข้อความสามัญ” ไม่ใช่ “ราชาศัพท์” อาจเกิดปัญหาใหญ่หลวงขึ้นมาในอนาคตได้

            เพราะการโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่จำเป็นต้องใช้ราชาศัพท์นั่นเอง

            มันอยู่ที่เจตนา

            ว่าเล็งเห็นผลอย่างไร.



 

Written By
More from pp
“รมช.มนัญญา” เยี่ยมชมสวนทุเรียน ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทุเรียนคลองม่วง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นทุเรียนที่ “เนื้อแห้ง เนียนนุ่ม ละมุนลิ้น กลิ่นไม่แรง”
เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม 2564 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ
Read More
0 replies on “ม.๑๑๒ กับ ‘เจตนา’”