“กลิ่นก็เหมือนเรื่องเล่า หากเล่าได้ดีพอ มันจะไม่ต้องใช้คำพูดอีกเลย”
แบรนด์น้ำหอมอินดี้จากไทย SIAM1928 สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ พา “Mekha Aranya” (เมฆาอารัญ) น้ำปรุงไทยแบบร่วมสมัยเชื่อมโยงศาสตร์และผสมผสานความหลากหลายของวัฒนธรรมไทยผ่านกลิ่นน้ำหอม คว้ารางวัลระดับโลก The Winner ในสาขา Artisan จากเวที Art and Olfaction Awards จัดขึ้น ณ ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา นับเป็นครั้งแรกที่ผลงานจากประเทศไทยสามารถคว้ารางวัลในหมวดหลักของเวทีระดับนานาชาติ โดยในปีนี้ SIAM1928 เป็นตัวแทนหนึ่งเดียวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับรางวัลร่วมกับแบรนด์จากไต้หวัน ภายใต้ระบบ Blind Judging ที่กรรมการไม่ทราบชื่อผู้เข้าประกวด เพื่อความเป็นกลางและบริสุทธิ์ในการตัดสิน
ณัท เวชชศาสตร์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ SIAM1928 ควบตำแหน่ง สุคนธกร หรือนักปรุงน้ำหอม (Perfumer) ผู้สืบทอดสูตรน้ำอบปรุงเจ้าคุณรุ่นที่ 4 ที่หอบเอาศาสตร์การปรุงน้ำหอม หรือน้ำปรุงไทยมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษมาพัฒนาต่อยอด ผ่านศาสตร์การปรุงน้ำหอมแบบสมัยใหม่ที่ยังคงกลิ่นอายดั้งเดิมของน้ำปรุงแบบโบราณไว้ในรูปแบบน้ำหอมแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ เปิดเผยถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า “ เรารู้สึกเป็นเกียรติ และภูมิใจเป็นอย่างมาก ที่ได้เข้าไปอยู่ในรายชื่อผู้เข้าชิงและได้รับรางวัลชนะเลิศ ในสาขา Artisan ในงานประกวด The Art and Olfaction Awards 2025 ครั้งที่ 11ณ ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งนอกจากจะเป็นรางวัลสูงสุดของวงการน้ำหอมอิสระระดับโลกและเรายังเป็นแบรนด์ไทยแบรนด์แรกที่คว้ารางวัลนี้ได้สำเร็จแล้ว ยังสะท้อนถึงคุณค่าในสิ่งที่เราเชื่อมาโดยตลอด นั่นก็คือการเล่าเรื่องความเป็นไทยผ่านกลิ่น ในบริบทร่วมสมัย จากจุดนี้ เราจะยังคงเดินหน้าพัฒนางานศิลปะกลิ่นในแบบของเรา สืบค้นวัตถุดิบ เสาะหาความเชื่อมโยงระหว่างวัฒนธรรมไทยกับโลกของกลิ่น และส่งต่อสิ่งเหล่านี้ให้คนทั่วโลกได้รู้จักประเทศไทยผ่านการดมอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพราะ “เราไม่ได้แค่อยากทำน้ำหอมที่หอม เราอยากให้คนทั่วโลกรู้จักประเทศไทย ผ่านการดม” ”
Mekha Aranya: น้ำปรุงที่ถ่ายทอดตำนานผ่านศาสตร์ของกลิ่น บนเวทีระดับโลก
สำหรับกลิ่นที่ SIAM1928 นำเข้าประกวด และได้รางวัลมาในครั้งนี้ คือกลิ่น “Mekha Aranya (เมฆาอารัญ)” ซึ่งมีความหมายว่า “ป่าแห่งเมฆ” เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของ “มอม” ผู้เฝ้าประตูวัด สัตว์เทพในตำนานล้านนาของไทยที่ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะของจีน มีปรากฏอยู่ตามงานสถาปัตยกรรมทางภาคเหนือของไทยอยู่เป็นจำนวนมาก “มอม” มีแหล่งสถิตอยู่อยู่ในป่าบนสรวงสวรรค์หรือป่าแห่งเมฆภายในสวรรค์ชั้นล่างสุด ที่เรียกว่าชั้นจาตุมหาราชิกา (Catummaharajika) ซึ่งเป็นสวรรค์ชั้นแรกตามตำนานของไทย เราจึงเลือก Osmanthus หรือ ดอกหอมหมื่นลี้ ดอกไม้หอมจากภูเขาที่เชื่อมโยงวัฒนธรรมไทย-จีน มาเป็นโน้ตหลักของกลิ่น และใช้ให้เป็นตัวแทนของมอม พร้อมเสริมองค์ประกอบการด้วยกลิ่น Aldehyde เป็นกลิ่นเปิดที่ให้ความรู้สึกฟุ้งเบาราวกับเมฆในยามเช้า สมกับชื่อ “ป่าแห่งเมฆ” ผสานความอบอุ่นจาก น้ำผึ้งธรรมชาติ และปิดท้ายด้วยฐานกลิ่นของ leather, sandalwood และ musk เพื่อสะท้อนพลังลึกลับของ มอม (Mhom)
จุดเด่นที่น่าสนใจของ Mekha Aranya อีกจุดก็คือ แม้จะเป็นน้ำหอมแนว Soliflore ของ Osmanthus แต่ในเชิงเนื้อกลิ่นนั้น Mekha Aranya จัดเป็นน้ำหอมที่มีความ Unisex อยู่ตรงกลางพอดี เพราะความเป็นผลไม้อ่อนๆ ที่หลอมรวมกับกลิ่นเครื่องหนัง ซึ่งซ่อนอยู่ในกลิ่นที่แท้จริงของดอกหอมหมื่นลี้นั้น มีความชัดเจนทั้งสองทาง ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้มีโอกาสได้ดมจะรู้สึกว่ามันไปในทิศทางไหนมากกว่ากันเลย” นายณัทกล่าวและเพิ่มเติมถึงรายละเอียดของ Mekha Aranya ที่ทำให้สามารถคว้ารางวัลระดับโลกได้ในปีนี้
เมื่อบรรจุภัณฑ์กลายเป็นงานศิลป์
ความพิเศษอีกประการหนึ่ง นอกจากตัวกลิ่นของน้ำหอม Mekha Aranya หรือตัวน้ำหอมอื่น ๆ ของ SIAM1928 ก็คือการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นขวด พอร์ซเลน ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องลายครามไทยร่วมสมัย สะท้อนความพิถีพิถันทุกขั้นตอนการผลิตด้วยช่างฝีมือชำนาญการ ตั้งแต่การขึ้นรูป การสร้างลวดลายที่สะท้อนถึง กลิ่นหอม ภายในขวดบรรจุ ไปจนถึงการอบไฟสูง เพื่อสะท้อนความเป็น “artisan fragrance” อย่างแท้จริง และช่วย ปกป้องกลิ่นหอมจากแสงแดดและอุณหภูมิ เพื่อคงไว้ซึ่งประสบการณ์แห่ง “กลิ่น” อย่างสมบูรณ์ที่สุด
ยกระดับวงการน้ำหอมไทยสู่สากล
รางวัลที่ SIAM1928 ได้รับในครั้งนี้ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของวงการน้ำหอมไทย โดยเฉพาะในกลุ่มนีช-อินดี้ และศิลปะกลิ่นที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นแต่มีศักยภาพสูง ทั้งในเชิงความคิดสร้างสรรค์ วัตถุดิบ และการเล่าเรื่องผ่านกลิ่น น้ำหอม Mekha Aranya วางจำหน่ายแล้วในรูปแบบ Eau de Parfum (ความเข้มข้น 15%) ผ่านช่องทางออนไลน์ของแบรนด์ และตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศที่คัดสรร