“พิชัย” คาดการณ์เศรษฐกิจปี 64 ยากลำบาก-เสื่อมถอยหนัก ชี้ไทยต้องการผู้นำที่ทันโลก แนะพัฒนากรอบคิดก่อนไทยตกยุค

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า การคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2564 น่าเป็นห่วงว่าเศรษฐกิจไทยจะยิ่งย่ำแย่เสื่อมถอยกว่าปีที่แล้วที่ว่าแย่แล้ว ทั้งนี้เพราะสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วมาถึงปีนี้ได้เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น รัฐบาลได้ประกาศล็อกดาวน์ในพื้นที่กรุงเทพและอีก 8 จังหวัด และอาจจะต้องล็อกดาวน์เพิ่มขึ้นอีกมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ถ้าหากยาวนานจะย่ิงสร้างความลำบากให้กับประชาชนมากขึ้น

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้คาดกันว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้อาจจะฟื้นตัวเป็นบวกประมาณร้อยละ 3-3.5 เพราะเศรษฐกิจย่ำแย่มาเป็นเวลานานแล้ว แต่พอมาเจอการระบาดระลอกใหม่และทำท่าจะร้ายแรงและแพร่กระจายไปมากกว่าครั้งแรก ผลกระทบจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจยิ่งย่ำแย่ ประชาชนที่แบกภาระทางเศรษฐกิจหนักอยู่แล้วทั้งภาระหนี้สินที่พอกพูนจนหนี้ครัวเรือนจะทะลุร้อยละ 90 ของจีดีพี รายได้ที่ลดลง เงินเก็บที่ร่อยหรอและกำลังจะหมด จะยิ่งส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถทนต่อภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ต่อไปได้

นายพิชัย กล่าวต่อว่า ยังไม่เห็นหนทางที่เศรษฐกิจไทยจะฟื้นได้เลยจากการบริหารของรัฐบาลในปัจจุบันที่ยังจมอยู่ในกรอบคิดเก่าๆแบบเดิมๆ ดังนั้น ปีนี้จะเป็นปีที่ “ยากลำบาก และ เสื่อมถอยหนัก” อีกทั้งสาเหตุของการระบาดรอบใหม่นี้ก็เกิดมาจากความผิดพลาดของรัฐบาลทั้งเรื่องการปล่อยให้มีการลักลอบนำแรงงานต่างชาติเข้ามาในไทยอย่างผิดกฎหมายทำให้ควบคุมการแพร่เชื้อไวรัสไม่ได้ และยังปล่อยให้มีการเล่นการพนันในบ่อนเถื่อนจำนวนมากจนทำให้เกิดการแพร่ระบาดโดยเฉพาะในจังหวัดระยอง โดยมีข้อมูลว่าเจ้าของบ่อนมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับคนในรัฐบาล ถึงขนาดส่งลูกชายไปเป็นอนุกรรมาธิการในสภาได้ ประชาชนจึงสงสัยกันว่าน่าจะเป็นระบบอุปถัมภ์ของคนในรัฐบาลใช่หรือไม่ ซึ่งหากไม่ใช่ก็จะต้องหาคนผิดมาลงโทษไม่ใช่ปล่อยให้เงียบหายไปแบบนี้

ดังนั้น การบริโภคของประชาชนและรายได้ของประชาชนในปีนี้ก็จะยังคงย่ำแย่ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อจีดีพี ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชนก็ยังคงลดลงอย่างมาก และการส่งออกที่คาดว่าจะดีขึ้นกว่าปีที่แล้วก็อาจจะดีขึ้นบ้างแต่อาจจะขยายได้อย่างเก่งก็ประมาณครึ่งหนึ่งของปีที่แล้วที่ติดลบไป และการลงทุนที่หดหายตลอดหลายปีจะยิ่งทำให้การส่งออกไม่สามารถเพิ่มแบบก้าวกระโดดได้เลยในอนาคต ประกอบกับสินค้าส่งออกเดิมที่ไทยผลิตได้ เริ่มจะล้าสมัยหมดความนิยม เช่น รถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไม่ได้เป็นที่ต้องการของตลาดโลกมากนักแล้ว อีกทั้งปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าจะเป็นปัญหาอย่างมากในการส่งออกของไทย


การใช้จ่ายภาครัฐยังคงยึดรูปแบบเก่า งบประมาณยังคงเป็นแบบเดิมไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสภาวะการณ์ของโลกที่เปลี่ยนไป การใช้จ่ายทางการทหารยังคงมีปริมาณที่มากและไม่เกิดผลทางเศรษฐกิจ อีกทั้งการทุ่มงบประมาณจำนวนมากเข้าพัฒนาเขตอุตสาหกรรมภาคตะวันออก (อีอีซี) แต่ผลตอบแทนที่ได้รับกลับไม่คุ้มค่าการลงทุน เนื่องจากรูปแบบการลงทุนจากต่างประเทศในโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว

การท่องเที่ยวที่เป็นพระเอกมาตลอดหลายปีจนมาโดนวิกฤติไวรัสโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวทรุดหนักในปีที่แล้ว ปีนี้ปริมาณนักท่องเที่ยวน่าจะยังไม่เพิ่มขึ้น แถมอาจจะลดลงด้วยซ้ำ อีกทั้งไม่รู้เมื่อไหร่ปริมาณนักท่องเที่ยวจะกลับมาเหมือนเดิม ธุรกิจท่องเที่ยวจะเสียหายและขาดทุนกันมาก โดยเฉพาะโรงแรม นอกจากนี้พฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ซึ่งประเทศไทยจะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการท่องเที่ยวให้เข้ากับลักษณะการท่องเที่ยวในอนาคต

“สิ่งที่น่าห่วงมากที่สุดคือกรอบคิดของรัฐบาล โดยเฉพาะกรอบคิดของนายกรัฐมนตรีที่ยังไม่สามารถก้าวทันโลกได้ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยตกยุคและเสื่อมถอยเร็วมาก เพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความสามารถในการแข่งขัน และ ตำแหน่งของไทยในสายตาต่างประเทศเสื่อมถอยอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีแนวคิดยึดติดในกรอบคิดเดิมที่ไม่สามารถพัฒนาให้ทันโลกได้ ทั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับอายุ เพราะถ้าหากใครได้ฟังอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร พูดถึงการเปลี่ยนแปลงของโลก การที่ไทยต้องปรับเปลี่ยนแพลตฟอร์มเพื่อแข่งขันกับต่างประเทศได้ และการต้องควบคุมแพลตฟอร์มของต่างประเทศไม่ให้มีอิทธิพลกับประเทศไทยมากนัก เป็นเรื่องที่จำเป็น อีกทั้งการใช้แพลตฟอร์มในระบบราชการเพื่อลดขนาดของราชการเพื่อให้การบริหารราชการคล่องตัว หรือ ที่เรียกว่า digitalization ระบบราชการ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่เข้าใจ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเสื่อมถอยอย่างหนัก ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง และหากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแนวคิด หรือเปลี่ยนแปลงการบริหาร ประเทศไทยก็ได้แต่รอวันที่จะเสียหายหนักหรือเหมือนกับรอวันเจ๊งเท่านั้น” นายพิชัย กล่าว

Written By
More from pp
กรมอนามัย เผย เนื้อจระเข้โปรตีนทางเลือก แนะปรุงสุกก่อนกินทุกครั้ง ลดปนเปื้อนแบคทีเรีย
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผย เนื้อจระเข้โปรตีนทางเลือก มีคุณค่าทางอาหารใกล้เคียงเนื้อสัตว์ประเภทอื่น ให้พลังงานต่ำ ไขมันน้อย แนะทำความสะอาดเนื้อให้ถูกวิธี เน้นปรุงสุกก่อนกิน เลี่ยงการปนเปื้อนของแบคทีเรียได้
Read More
0 replies on ““พิชัย” คาดการณ์เศรษฐกิจปี 64 ยากลำบาก-เสื่อมถอยหนัก ชี้ไทยต้องการผู้นำที่ทันโลก แนะพัฒนากรอบคิดก่อนไทยตกยุค”