คอลัมน์ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
“แต่ก็เป็นเรื่องเหลือเชื่อ..
ที่คนบางคน เลือกที่จะเนรคุณแผ่นดินที่บรรพบุรุษถือกำเนิดคือแผ่นดินจีน โดยการกระทำที่เข้าใจก้าวล่วงกิจการภายในของแผ่นดินของบรรพบุรุษ..
และยังเนรคุณแผ่นดินที่ตนเองและครอบครัวได้อยู่อาศัยทำมาหากินตักตวงจนร่ำรวย เขาคือคนเนรคุณสองแผ่นดินอย่างแท้จริงโดยกมลสันดาน ที่จะไม่มีวันเจริญ”
ท่อนท้ายบทความ ที่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) เขียนโพสต์ในเฟซบุ๊ก..
หัวข้อ “เรื่องของคนเนรคุณสองแผ่นดิน”!
คงไม่ต้องเอ่ยชื่อหรอกนะ หมายถึงใคร? แต่ตลอดบทความที่ยาวเฟื้อย ก็ไม่ปรากฏชื่อของ “นักการเมืองไทย” คนไหน จะด้วยรังเกียจ-ขยะแขยง หรือจะด้วยเหตุผลใดที่ไม่เอ่ยนาม อย่าได้สนใจ..
ให้มุ่งเน้นที่เนื้อหา เพราะทุกตัวอักษรที่พรรณนา-วิเคราะห์..ดร.อานนท์ คม-ลึกซึ้งถึงแก่นสมกับผู้มีภูมิ!
แต่ที่ “คม” จนเลือดสาด ก็ “เดี่ยวไมโครโฟน” ฉบับพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก โดยเฉพาะท่อนประโยค..
“นักวิชาการ อาจารย์บางคน ที่คบคิดกับพวกคอมมิวนิสต์เดิม เป็น Mastermind เป็นคลังสมอง ร่วมกับ นักเรียนนอก ซ้ายจัดดัดจริต ไปเรียนในประเทศที่เคยล่าอาณานิยม อบรมสั่งสอน ไร้จรรยาบรรณ..
หรือนักการเมืองบางคน ที่อยู่ในภาคใต้ เคยมาเกาะแข้งเกาะขานายทหารใหญ่ เพื่อนพ่อตน ตั้งพรรคการเมืองมา 20 ปี
วันนี้กลับมาเป็นใหญ่เป็นโตอีกครั้ง กลับเอาเรืองศาสนา การแบ่งแยกดินแดนมาหาเสียงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้” นั้น..
เหมือนเอามีดปักแทงขั้วหัวใจ!
พวก “มาสเตอร์มายด์-ซ้ายดัดจริต” พากันดิ้นพราด บางรายต้องรีบออกมาตอบโต้ในทันทีทันควัน..
เพราะขืนนิ่งเงียบเฉยกัน นอกจากจะไม่ใช่วิสัยของพวก “ซ้ายดัดจริต” แล้ว ยังเท่ากับเป็นการยืนยัน–สนับสนุนคำพูดของบิ๊กแดง เป็นความจริง!
กระนั้น เท่าที่จับอาการพล่านของมาสเตอร์มายด์-ซ้ายดัดจริต ก็ไม่เห็นมีใคร-หน้าไหนที่ตอบโต้แล้ว พอจะมีน้ำหนักให้น่ารับฟัง น่าเชื่อถือ..
พูดง่ายๆ ก็คือ..จะออกไปในลักษณะแก้ตัว-เสียดสี-เย้ยหยันด้วย “วาทกรรม” (เชี่ยวชาญ) เสียมากกว่า!
เหมือนดัง ดร.กิตติธัชชัย ประสิทธิ์ อาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้านปรัชญาการเมืองว่านั่นแหละ..
***เลิกเถอะครับไอ้ประเภทพร่ำเพ้อกับวาทกรรมการเมืองยุคโบราณแล้วเอามาอุปโลกน์ตัวเองประหนึ่งเป็นผู้ชี้นำแสงสว่างและปลดปล่อยมวลชนจากความมืดมิด..
มันไม่ได้เข้ากับยุคสมัยและบริบทที่เป็นจริงของสังคมในยุคปัจจุบันเลย
***เขาไม่ได้อยากฟังวาทกรรมทางการเมืองที่พร่ำเพ้อเสมือนเพิ่งหลุดมาจากยุคกลางในยุโรปหรือสยามประเทศในช่วงเพิ่งเปลี่ยนแปลงการปกครองนะครับ
หมายถึงใครน่ะรึ?
ก็..นายปิยบุตร สุดหล่อไง!